|
ท่องเที่ยวซบททท.งานหนักอัดงบอีเวนต์กู้
ผู้จัดการรายวัน(4 พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกับอัตราเงินเฟ้อที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งตรงนี้จะกระทบกับการท่องเที่ยวบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะจากการที่ ททท.ได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นการปลูกฝังพฤติกรรมคนไทยให้รู้สึกถึงการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยที่จะอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ททท.ก็จะต้องวางแผนในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมตลาดเพิ่มขึ้นและให้สอดคล้องกับสถาน- การณ์ปัจจุบัน
ล่าสุดททา.ได้ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท จัดงาน"วันธรรมดา น่าเที่ยว" โดยจะไปจัดร่วมกับงาน "มหกรรมดำน้ำ ท่องเที่ยวผจญภัย" ( Thailand Travel and Dive Expo และ Thailand Outdoor Adventure 2006) ซึ่งจัดโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของ ททท.จะใช้นโยบายส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มนีชมาร์เก็ต หรือตลาดท่องเที่ยวรูปแบบเฉพาะ เช่น ท่องเที่ยวดำน้ำ และ ท่องเที่ยวเชิญผจญภัย ปีนเขา เป็นต้น เพราะการจัดกิจกรรมจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดโตเร็ว
" การท่องเที่ยวดำน้ำจะต้องเที่ยวเป็นฤดู ซึ่งไฮซีซั่นของท่องเที่ยวแบบนี้ จะอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน แต่เราสามารถใช้ช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว สร้างกระแสให้เกิดพร้อมไปกับการปลูกฝั่งเยาวชน ตรงนี้ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจนี้ได้" นายธวัชชัย กล่าว
ภาวะเศรษฐกิจกระทบฐานลูกค้าใหม่ไม่เกิด
ทางด้านนางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือนีโอ (NEO) ผู้จัด"งาน -มหกรรมดำน้ำ ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย กล่าวว่า งานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 พ.ค.นี้ ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจัดขึ้นปีนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยปีนี้ ได้ร่วมกับ ททท. จัดเพิ่มในส่วนของงาน"วันธรรมดา น่าเที่ยว" เพื่อต้องการสร้างความหลากหลาย และครอบคลุมให้กับกลุ่มผู้ที่เข้ามาเดินชมงาน ได้มีสินค้าทางการท่องเที่ยวได้เลือกซื้อตอบไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งงานนี้จะเป็นวันสต็อปเซอร์วิสให้แก่ผู้เข้าชมงาน เพราะนอกจากมีสินค้าและบริการท่องเที่ยว เกี่ยวกับดำน้ำ และผจญภัย ยังมีบริการท่องเที่ยวรูปแบบอื่นๆมานำเสนอในงานนี้ด้วย ซึ่งสินค้าและบริการที่เข้ามาร่วมออกบูธในครั้งนี้จะลดราคาจาดราคาปกติลง 30-70%
โดยในปีนี้ จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงประมาณ 200 บูธ มีผู้เข้าชมงานประมาณ 100,000 คน คาดว่าจะมีเงินสะพัดเกิดขึ้นจากการจัดงานราว 200 ล้านบาท โดยบริษัทใช้งบ 10 ล้านบาท ในการประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านสื่อทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ และป้ายบิลบอร์ด
ทั้งนี้การตั้งเป้าหมายผู้ร่วมงานและยอดเงินสะพัดจากการจัดงาน ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากนัก เพราะตลาดกลุ่มนี้จะเติบโตราวปีละ 5-10% เป็นเพราะภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่จะเข้ามาชมและซื้อหาการท่องเที่ยวแบบดำน้ำและผจญภัยขยายตัวได้ช้าลง ซึ่งปีก่อนก็มีผู้เข้าร่วมงาน 100,000 คน รายได้จากการจัดงานประมาณ 150 ล้านบาท โดยปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นอีก 50 ล้านบาท เพราะจะเกิดจากการจับจ่ายในส่วนของงาน วันธรรมดาน่าเที่ยวของททท.ที่เข้ามาร่วมในปีนี้
" จะเห็นได้ว่า แม้สินค้าหลายอย่างจะปรับขึ้นราคา แต่ภาพรวมของสินค้าด้านดำน้ำ ทั้งอุปกรณ์ และค่าเรียนจะไปปรับขึ้นส่วนหนึ่ง เพื่อต้องการกระตุ้นตลาดหากขึ้นราคาในภาวะเช่นนี้ ตลาดที่ชะลอตัวอยู่แล้วจากภายหลังเกิดสึนามิ ก็จะยิ่งชะลอตัวมากยิ่งขึ้น แต่จุดประสงค์หลักอีกอย่างหนึ่งของการจัดงานครั้งนี้ ก็เพื่อปลูกฝั่งจิตสำนึกและกระตุ้นคนไทยให้รู้จักการรักษาสิ่งแวดล้อม และมีการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ"
เล็งปรับรูปแบบขึ้นเป็นงานเทรดโชว์
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการจัดงาน"มหกรรมดำน้ำ ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย" ในปีหน้า นีโอจะปรับรูปแบบให้เป็นงานเทรดโชว์มากขึ้น โดยจะจัดให้มีผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้ามาพบผู้ขายในประเทศไทยเพื่อเจรจาทางธุรกิจ จากปัจจุบันลักษณะงานจะเป็นคอนซูเมอร์แฟร์เพียงอย่างเดียว นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มงานระดับเทรดโชว์อีกหนึ่งงาน ที่จะจัดในประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ พร้อมหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยกรอบที่วางไว้ คือจะจัดงานเทรดโชว์ และคอนซูเมอร์แฟร์ ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
" แนวคิดตรงนี้ต้องขอความร่วมมือหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาครัฐ เพื่อให้เกิดงานในลักษณะนี้ เพราะในข้อตกลงการค้าเสรีจะทำให้สินค้าทุกชนิด ถูกลดกำแพงภาษีลงเหลือ 0% ดังนั้นการจัดงานลักษณะเทรดโชว์ขึ้นมา จะทำให้ไทยได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางด้านการซื้อขายสินค้าและบริการ ตลอดจนสนับสนุนในธุรกิจการจัดเอ็กซิบิชั่นในประเทศไทยได้เติบโต"นางลัดดากล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|