แม้ไมโครซอฟท์ยังเป็นรองเนสเคปในเรื่องของอินเตอร์เน็ต เพราะการคาดการณ์ที่ผิดพลาด
ปล่อยให้เนสเคปครองส่วนแบ่งตลาดเบราเซอร์ โปรแกรมช่วยในการดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตไปมากกว่า
80%
แต่หลังจากรู้ว่าพลาดท่าไปแล้ว ไมโครซอฟท์ก็หันหัวเรือเข้าสู่เส้นทางของอภิมหาเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนี้ทันที
ไมโครซอฟท์ ประกาศว่า ภายในสิ้นปีนี้ ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ ทั้งหมดจะผูกติดอยู่กับอินเตอร์เน็ตทั้งหมด
และด้วยแนวคิดที่ว่า เทคโนโลยีของอินเตอร์เน็ต เมื่อนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรแล้ว
จะทำให้ระบบการทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และจะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่สามารถปฏิวัติระบบออฟฟิศออโตเมชั่นแบบเดิม
ๆ แบบขาดลอย
เมื่อถึงคราวนี้ ไมโครซอฟท์ไม่ยอมตกขบวนอีกต่อไป บิล เกตต์ ได้ออกมาประกาศยุทธศาสตร์อินทราเน็ต
พร้อม ๆ กับยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งหลายในสหรัฐอเมริกา
สำหรับในไทยไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ขานรับแนวคิดดังกล่าวทันทีด้วยการนำเสนอแนวคิดและผลิตภัณฑ์ใหม่
ๆ บนอินทราเน็ตออกวางตลาด
"สิ่งสำคัญที่สุดที่จะส่งผลให้อินทราเน็ตเป็นที่นิยม คือ เก็บข้อมูลง่าย
ค้นหาก็ง่าย เพราะเทคโนโลยีเว็บ หรือโปรแกรมที่ช่วยในการจัดและหาข้อมูลจะง่ายมาก"
อาภรณ์ ศรีพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวถึงอินทราเน็ต
เช่นเดียวกับเฮอร์เบิร์ต วงศ์ภูษณชัย ผู้จัดการธุรกจอินเตอร์เน็ต ออนไลน์
สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับอินทราเน็ตว่า อินทราเน็ตเป็นที่รวบรวมข้อมูลใช้แทนตู้เอกสาร
การเรียกดูข้อมูลไม่ซับซ้อนค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น ผู้บริหารไม่ต้องเรียนรู้สามารถใช้ส่งอีเมล์
เพื่อติดต่อสื่อสารกันภายในแทนการใช้เอกสารที่เป็นรูปแบบเดิม
อินทราเน็ต จะเป็นมาตรฐานใหม่ที่จะมาแทนที่ระบบออฟฟิศออโตเมชั่นแบบเดิม
ด้วยเหตุที่ว่า ใช้เทคโนโลยีเดียวกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนมากจึงมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาตลอดเวลา
มาตรฐานการใช้งานจึงกว้างกว่าของระบบออฟฟิศออโตเมชั่นแบบเดิม ซึ่งต่างคนต่างพัฒนาขึ้นมาเอง
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้งานง่ายผู้บริหารไม่ต้องยุ่งยาก มีเพียงหน้าจอเดียว
ก็สามารถเรียกดูข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในได้
"ในอดีตผู้บริหารมักต้องประสบปัญหาในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ ต้องเรียนรู้แอพพลิเคชั่นใหม่
ๆ ตอลดเวลาค่อนข้างยุ่งยาก แต่เทคโนโลยีของอินเตอร์เน็ต ผู้บริหารเพียงแต่เปิดหน้าจอกดไปดูข้อมูลตามแผนกต่าง
ๆ โดยไม่ต้องจำหัวไฟล์ให้ยุ่งยาก" เฮอร์เบิร์ต กล่าว
ปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ก็เป็นเช่นเดียวกับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งหลายที่นำเอาอินทราเน็ตมาใช้ในองค์กร
เจ้าหน้าที่ของไมโครซอฟท์ประเทศไทยสามารถเรียกดูข้อมูลภายในที่มีเครือข่ายอินทราเน็ตไปยังเว็ปไซต์ต่าง
ๆ ของไมโครซอฟท์ 2,000 แห่งทั่วโลก เช่น ฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์มีการพัฒนาสินค้าประเภทใหม่อะไรออกมาบ้าง
และใครเป็นผู้ดูแล
"อย่างผมจะขอวิดีโอของบิล เกตต์ ผมจะส่งอีเมล์ระบุชื่อ รหัสพนักงาน
ให้ส่งมาที่ไหน ข้อความเหล่านี้จะลิงค์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะจัดส่งวิดีโอมาให้ตามที่สั่งไว้
นี่คือ อินทราเน็ต" เฮอร์เบิร์ต เล่า
เฮอร์เบิร์ต ยกตัวอย่างว่า ผู้บริหารและพนักงานในออฟฟิศของไมโครซอฟท์จะติดต่อกันผ่านอีเมล์ในการอนุมัติงานหรือโครงการต่าง
ๆ
"เวลาผมขออนุมัติงบประมาณกับคุณอาภรณ์ ผมจะส่งไปทางอีเมล์ ก็สามารถระบุได้ว่า
ผู้ส่งเป็นคน ๆ เดียวกันหรือไม่ และเอ็มดีส่งไปให้บัญชีอนุมัติออกมา"
เฮอร์เบิร์ตเล่า
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ไมโครซอฟท์ เชื่อว่า อินทราเน็ตจะต้องเข้ามามีบทบาทต่อผู้ประกอบธุรกิจที่จะนำไปใช้ในองค์กร
เป้าหมายของไมโครซอฟท์ การพัฒนาซอฟต์แวร์บนพื้นฐานเดิมโดยผู้ใช้ไม่ต้องรื้อซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่เดิม
และยังพัฒนาเสริมบริการใหม่ ๆ เข้าไป
นั่นหมายถึงว่า ผู้ใช้ที่มีเวิร์ดโพรเซสเซอร์ใช้พิมพ์งาน ทำบัญชีโดยใช้ไมโครซอฟต์เอ็กเซล
ทำสไลด์โดยใช้เพาเวอร์พอยต์ หรือทำเวิร์คชีท โดยใช้โลตัส 123 ยังคงใช้งานได้เช่นเดิม
แต่เพิ่มเว็บเซิร์ฟเวอร์ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล และส่งอีเมล์และดาวน์โหลดเบราเซอร์ในการเรียกดูข้อมูลแบบง่าย
ๆ โดยผู้ใช้ไม่ต้องจำชื่อไฟล์
"เอ็กเซล อินเตอร์เฟส" คือ ตัวอย่างโปรแกรมที่รวมเอาโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซลเข้ากับอินเตอร์เน็ตเบราเซอร์
ซึ่งโปรแกรมนี้จะทำให้ผู้บริหารสามารถดูบัญชีรายวัน หรือรายเดือนในโปรแกรมเอ็กเซลได้
ในระหว่างที่ดูข้อมูลอื่น ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟล์เพื่อเข้าไปเรียกโปรแกรมเอ็กเซลทั้งหมดจะอยู่บนหน้าจอเดียว
"เราสามารถโหลดเอ็กเซลเข้ามาได้เลย มันจะวิ่งไปเรียกเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์
ปกติฝ่ายบัญชี ทำให้ผู้บริหารสามารถดูโปรแกรมได้พร้อม ๆ กัน"
"เน็ต มีทติ้ง" เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ หรือการประชุมทางคอมพิวเตอร์ด้วยระบบอินทราเน็ต
ซึ่งอยู่ระหว่างทดสอบให้ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
เฮอร์เบิร์ต เล่าว่า โปรแกรมเน็ตมีทติ้งพัฒนามาจากมาตรฐานของโลก ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการติดต่อวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์
ผู้ใช้เน็ตมีทติ้งในการประชุมจะสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลแก้ไขเอกสาร
ตลอดจนพูดคุยกันผ่านระบบอินทราเน็ตได้
"แอคทีฟ เอ็กซ์ แพลทฟอร์ม" (ACTIVEX) เป็นมาตรฐานที่ไมโครซอฟท์พัฒนาขึ้นสำหรับเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต
เช่น โปรแกรมแอคทีฟ เอ็กทีฟเอ็กซ์เว็บเพจ เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างโฮมเพจบนอินเตอร์เน็ตที่จะสามารถโต้ตอบ
(อินเตอร์แอคทีฟ) กับผู้อ่านข้อมูลได้แทนที่จะเป็นหน้าจอปกติที่แสดงผลในรูปของข้อมูล
หรือรูปภาพตามปกติ
"อินเตอร์เน็ต เอ็กซพลอเลอร์ 3.0" จะเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญบนอินเตอร์เน็ตที่ไมโครซอฟท์
เชื่อว่า จะเป็นเบราเซอร์ที่ดีที่สุดในการมองเข้าไปในอินเตอร์เน็ต และไมโครซอฟท์หวังว่า
จะชิงส่วนแบ่งตลาดจากเนสเคปมาได้ไม่มากก็น้อย
สิ่งที่ไมโครซอฟท์จะทำสำหรับโปรแกรมชิ้นนี้ คือ การพัฒนาไออี 3.0 ให้เป็นภาษาไทยทันทีที่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษพัฒนาเสร็จสิ้นลง
ซึ่งคาดว่าจะเป็นปลายปี
จุดเด่นของโปรแกรมนี้ คือ สามารถกำหนดได้ให้ผู้ใช้รายใดจะเข้าไปดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตได้มากน้อยแค่ไหน
หรือไม่ให้ดูข้อมูลใด เช่น ป้องกันไม่ให้ดูรูปโป๊
"ภายในสิ้นปี ไมโครวอฟท์ จะมีครบทุกอย่าง มีเบราเซอร์รุ่นใหม่สำหรับยูนิกส์
ผูกไมโครซอฟท์เอ็กซ์พลอเลอร์เข้ากับอินเตอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเลอร์ ผูกไมโครซอฟท์ออฟฟิศเข้ากับอินเตอร์เน็ต
และผูกวินโดว์ 95 เข้ากับจาวา เราต้องการให้ลูกค้าใช้โปรแกรมเดียวต่อไป เราจะใช้มาตรฐานอินเตอร์เน็ตเป็นโอเอสอันหนึ่งเลย"
เฮอร์เบิร์ต กล่าว
สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นเสมือนสิ่งที่จะบอกถึงทิศทางในอนาคต ตลอดจนความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
และอินทราเน็ตที่ไมโครซอฟท์คงไม่ยอมตกขบวนอย่างแน่แท้