“นาม”ปรับตัวรับอสังหาฯขาลงส่ง“นอร์ม”ลงสนามเน้นดีไซน์หรู


ผู้จัดการรายสัปดาห์(1 พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

“นาม สุขภัณฑ์” ประกาศปรับตัวรับสภาพตลาดบ้านจัดสรรช่วงขาลง เตรียมส่ง“นอร์ม” ดันยอดขายปีนี้โต 10% เน้นโครงการบ้านระดับปานกลาง-ล่าง หวังอุดช่องว่างทางการตลาด ด้านแผนส่งออกจำใจส่งออกเท่าเดิม50-60%ของกำลังการผลิตแม้ค่าบาทแข็งโป๊ก

ตลาดสุขภัณฑ์ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่อมีการสร้างบ้านน้อยลง ความต้องการใช้สุขภัณฑ์ก็ลดลงในสัดส่วนเดียวกัน นอกจากนี้ จากการปรับตัวของผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรร ที่หันมาทำบ้านหลังเล็กลง ราคาระดับปานกลาง-ล่าง ก็กระทบต่อธุรกิจสุขภัณฑ์เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในแง่ของมูลค่า เพราะเมื่อบ้านราคาน้อยลง ผู้ประกอบการจะต้องใช้สุขภัณฑ์ราคาถูกลงด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับราคาบ้าน

ในส่วนนี้ ผู้ผลิตสุขภัณฑ์เกือบทุกค่ายต้องหันมาทำสินค้าระดับราคาปานกลางเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้สุขภัณฑ์ราคาถูกลงตามราคาบ้าน บริษัทนามสุขภัณฑ์ จำกัด ในฐานะที่ทำตลาดสุขภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ ยังต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยได้หันมาเพิ่มไลน์สินค้า ระดับปานกลางมากขึ้น จากเดิมที่จะทำสุขภัณฑ์หรูหรา ราคาแพงเป็นหลักแต่ยังคงทำสินค้าระดับบนด้วยเพื่อให้มีสินค้ารองรับตลาดบน

สุเมธ อินทามระ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับปรุงและพัฒนาสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป โดยจะออกสินค้าใหม่ 2 ซีรี่ส์ ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวโมเดลใหม่ ชื่อ “นอร์ม” (Norm) เป็นสินค้าที่เหมาะสมกับบ้านราคาปานกลางและล่าง โดยจุดเด่นของนอร์ม จะเน้นดีไซน์ที่โดดเด่นแตกต่างและมีนวัตกรรมทันสมัย โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพของวัสดุต่างๆ ที่มานำประกอบกับสุขภัณฑ์มากขึ้น เช่นระบบ Flush ฝารองนั่ง และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ ซึ่งจะคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของนามและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสุขภัณฑ์โมเดลใหม่อีก 1 ซีรี่ส์ ซึ่งจะเป็นสุขภัณฑ์ที่มีราคาสูงกว่า นอร์ม แต่ไม่มากนัก โดยโมเดลใหม่นี้ จะชูดีไซน์เป็นจุดขาย ซึ่งการเปิดตัวโมเดลใหม่ทั้ง 2 ซีรี่ส์ เพื่อให้บริษัทมีสินค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และถือเป็นการอุดช่องว่างทางการตลาดด้วย

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนการส่งออกไว้ไม่เกิน 50-60% ของกำลังการผลิต แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นก็ตาม โดยตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ จีน ไต้หวัน และอังกฤษ

ด้านผลประกอบการ บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นราว 10% ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดรวมสุขภัณฑ์ที่คาดว่าปีนี้ จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% โดยในปีก่อนมียอดขายต่ำกว่าเป้าประมาณ 5% เนื่องจากไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาดที่ในช่วงไตรมาส 2 -3 ซึ่งปีก่อนมียอดขายรวม 470 ล้านบาท และมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามประมาณการที่วางไว้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.