|
บทเรียนของ Ralphbucks
โดย
วรรณปราณี ศักดิ์สราญรมย์
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ช่วงนี้ชาวแอลเบอร์ตาต่างหน้าบานกันใหญ่ เพราะทุกคนจะได้รับเงินก้นถุงจำนวน 400 เหรียญจากรัฐบาลท้องถิ่นแอลเบอร์ตา ทำให้ชาวเมืองต่างๆ ในแคนาดาต่างกล่าวขวัญแกมอิจฉากันถ้วนหน้าว่า เหตุใดพวกเขาไม่ได้รับโอกาสทองเช่นนั้นบ้าง
Provincial Albertas Surplus หรือเงินคงคลังที่เหลือจากการบริหารภายใน อาจเรียกได้ว่าเป็นกองทุนเงินสะสมของมณฑลแอลเบอร์ตา อันสืบเนื่องจากผลพลอยได้จากเศรษฐกิจที่บูมมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ นั่นคือพลังงานเชื้อเพลิงที่มณฑลแอลเบอร์ตามีกำลังผลิตพุ่งสูงจนมีรายได้อยู่ที่ 2.6-10.6 พันล้านเหรียญ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา เงินก้อนนี้มีจำนวนสูงถึงกว่า 30 พันล้านเหรียญ
รัฐบาลแอลเบอร์ตาได้มีการชี้แจงกับชาวแอลเบอร์ตาว่า เงินดังกล่าวจะถูกจัดสรรเป็นสามส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นการใช้จ่ายอย่างฉลาด ที่เรียกว่า Smart Spending โดยการนำเงินกองทุนสะสม 1.4 พันล้านเหรียญ สะสมเพื่อการศึกษา การสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค
ส่วนที่สอง เรียกว่าการสะสมเพื่ออนาคต Saving for tomorrow โดยรัฐบาลจะนำเงินสะสมจำนวน 226 ล้านเหรียญ รวมสะสมกับเงินกองทุนของรัฐบาล Alberta Heritage Savings Trust Fund ที่มีอยู่แล้ว 12 พันล้านเหรียญ เมื่อปี 1976 เพื่อนำดอกผลไปสู่การพัฒนาทางด้านการศึกษา การค้นคว้า การวิจัยทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในอนาคต เพื่อเสริมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง และสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพแก่ประชากร
Giving Back to Albertans เป็นเงินส่วนที่สามจำนวน 1.3-1.4 พันล้านเหรียญ ที่รัฐบาลแอลเบอร์ตาวางแผนที่จะมอบเป็นเงินขวัญถุงแก่ชาวแอลเบอร์ตาทุกคนนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนชรา หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมก็ตาม ซึ่งมีประชากรในพื้นที่ประมาณ 3.3 ล้านคน จะได้รับสิทธิอันนี้
โครงการดังกล่าวมาจากแนวความคิดของผู้บริหารมณฑลนี้นามว่า Ralph Klein และเขาก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญของชาวเมืองนี้ได้ระยะหนึ่ง
Klein ประกาศว่า เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทางการต้องการมอบภาษีคืนแก่ประชาชนที่ทางรัฐบาลได้รับจากการเก็บภาษีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เกินคาดหมาย จากที่วางไว้ 8.7 พันล้านเหรียญ โดยผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับเช็คก้อนนี้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่แอลเบอร์ตาก่อนวันที่ 1 กันยายน 2005 และต้องมีการแจ้งบัญชีการจ่ายภาษีอากรให้กับรัฐตั้งแต่ปี 2004
เช็คดังกล่าวยังรวมไปถึงเด็กทุกคนที่เกิดในมณฑลนี้ในปี 2005 และอยู่ในการดูแลจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองที่มีการแจ้งบัญชีรายชื่อการรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เรียกว่า Child Tax Benefit
เมื่อพิจารณาจากงบประมาณ 26 พันล้านเหรียญ สองในสามส่วนหรือ 63% ของการจัดสรรงบประมาณรัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา และการสาธารณสุข เป็นอันดับหนึ่ง โดยแบ่งเป็นงบประมาณทางด้านสาธารณสุข ปี 1994 จำนวน 4 พันล้านเหรียญ และเพิ่มขึ้น 140% เป็น 9.5 พันล้านเหรียญ ในปี 2005 ส่วนงบประมาณด้านการศึกษาสูงขึ้นจากปี 1994 ถึง 90% หรือจากเดิม 4 พันล้านเหรียญเป็น 7 พันล้านเหรียญ
มณฑลอื่นๆ ของแคนาดาต่างประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาของทรัพยากรไม่น้อย เช่นที่มณฑลนิวฟาวแลนด์แอนลาบาร์ดอร์ มณฑลนิวสบรันควิก เพราะอยู่ติดทางด้านมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้เศรษฐกิจต้องพึ่งพิงกับภาคการประมงเป็นหลัก ซึ่งเทียบไม่ได้กับมณฑลแอลเบอร์ตาที่มีทรัพยากรจากพลังงานเชื้อเพลิง
ทุกวันนี้ทุกชาติต่างต้องการพลังงานน้ำมัน ทำให้ชาวเมืองอื่นๆ ต่างหันทิศทางเข้ามาตั้งหลักแหล่งหางานทำที่แอลเบอร์ตากันมากขึ้นทุกปี
Klein ได้เผยความในใจออกมาเอาใจ ชาวแอลเบอร์ตาร์ในเวลาต่อมาว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีเช็คเงินสดมาให้ใช้จ่ายอีกครั้งหนึ่ง จนเขาได้รับการขนานนามในเวลาต่อมา "Ralphbucks" หรือเงินจาก Ralph
ชาวแอลเบอร์ตาไม่น้อยต่างชื่นชมกับเงินก้นถุงอันนี้ เพราะอาจถือว่าเป็นโบนัสจากรัฐบาลที่จะนำไปใช้เพื่อความสุขส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ทันทีที่เขาประกาศแนวความคิดดังกล่าว กระแสการวิพากษ์วิจารณ์วิสัยทัศน์ของเขาเริ่มโหมกระหน่ำมาเป็นระยะ โดยเฉพาะภายในพรรค Progressive Conservative ที่เขาสังกัดอยู่
ผู้ชำนาญการในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ต่างเห็นว่าเป็นการบริหารที่ไม่มีวิชั่น เป็นการโยนทิ้งงบประมาณคงเหลือโดยเปล่าประโยชน์ และน่าจะนำไปสู่การวางแผนจัดการที่ยั่งยืนที่มีอนาคตมากกว่านี้
โดยเฉพาะ Alberta Liberal ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เช่น Kevin Taft เห็นว่า เป็นเรื่องน่ากลัวที่จะมีเช็คออกมาให้ชาวบ้านฟุ่มเฟือยอีกครั้ง แทนที่จะนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ชาวแอลเบอร์ตา
หากพิจารณายอดเงิน 7.4 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสของปี 2005-2006 ที่มาจากทรัพยากรพลังงานมหาศาลดังกล่าวแล้ว แม้ส่วนหนึ่งนำไปเพื่อปรับปรุงด้านสาธารณูปโภค การลงทุนทางด้านการเงินก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ควรมุ่งเน้น และถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ Klein ควรพิจารณาคือการประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุขแบบครอบครัวจำนวน 900 ล้านเหรียญต่อปี
55% คือผลหยั่งคะแนนเสียงสนับสนุน ความนิยมความเป็นผู้นำพรรคของเขาจากการประชุมพรรค Progressive Conservatives ที่เริ่มต้นไม่นานนับจากที่เขาเปิดเผยความต้องการสวมหมวกผู้บริหารพรรคต่อไปอีก 2-3 ปี โดยเฉพาะความคิด Ralphbucks ของเขาถูกหลายฝ่ายวิจารณ์ไปทั่ว
Ralph ถึงกับช็อกกับตัวเลขคะแนนเสียงดังกล่าว ที่เขาคิดว่าน่าจะได้รับความนิยมอย่างน้อย 80% ซึ่งเขาเคยได้รับมาแล้วถึง 90% เมื่อปีที่ผ่านมา
หากแต่ตัวเลขเสียงสนับสนุนของเขาที่เกินมาเพียงครึ่งเดียวนี้บ่งชี้ชัดว่าพรรคไม่ต้องการให้เขาเป็นผู้นำอีกต่อไป และรวมถึงการบริหารพรรคและมณฑลแอลเบอร์ตาที่เขาต้องหันกลับมามองตัวเอง และพิจารณาว่าเวลาของเขาหมดแล้ว
Klein พยายามหาหนทางลงจากอำนาจให้ดูดีที่สุด แต่ช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เขาทนเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคไม่ไหว โดยเขาประกาศที่จะลาออกจากตำแหน่ง และเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้า มาบริหารพรรคในปลายปีนี้
ความเข้มแข็งของการพรรคการเมืองในแอลเบอร์ตา แสดงให้เห็นชัดว่า ไม่ว่าผู้นำพรรคการเมืองจะยิ่งใหญ่เพียงใด หากแต่วิสัยทัศน์ผลการทำงานไม่เข้าตาแล้ว ผู้นำคนนั้นก็ต้องยอมรับและแสดงสปิริตเปิดหมวกไปอย่างไม่ต้องสงสัย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|