An Oak by the window เลื่อนเพื่อรุก : การกำหนดก้าวเดินใหม่ของไมโครซอฟท์

โดย ธวัชชัย อนุพงศ์อนันต์
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประกาศเลื่อนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ออกไปอีกเป็นเดือนมกราคมปีหน้า หลังจากที่เคยประกาศว่าจะวางตลาดช่วงปลายปีนี้ราวๆ ช่วงเทศกาลคริสต์มาส

แม้ "โรคเลื่อน" ที่เกิดขึ้นกับวินโดวส์จะเป็นการเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่ผลกระทบนั้นใหญ่หลวงนัก เพราะผลกระทบของการเลื่อนการวางตลาดของไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการซอฟต์แวร์โดยมีคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ใช้วินโดวส์นั้นส่งผลต่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตเครื่องพีซีอย่าง เดลล์, ฮิวเลตต์-แพ็คการ์ด, เอเซอร์ หรือเลโนโว, ผู้ผลิตชิปประมวลผล หรือไมโครโปรเซสเซอร์อย่างอินเทลและเอเอ็มดี, นอกจากนี้ยังมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประกอบการใช้งานพีซีอีกมากมาย

จริงๆ แล้วการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ หรือที่เรียกว่า วิสต้า (Vista) นั้นถูกมองว่าจะเป็นการวางตลาดผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นับแต่การวางตลาดวินโดวส์ 95 (Windows 95) เมื่อกว่าสิบปีก่อน

นั่นทำให้เหล่าผู้ผลิตเครื่องพีซีก็ตั้งความหวังว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวเครื่องพีซีรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ได้ดีที่สุด ที่สำคัญจะเป็นโอกาสในการกระตุ้นยอดขายที่สำคัญของผู้ผลิตเอง ในขณะที่มาร์จินของการขายพีซีที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ พวกเขามองว่า การออกวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะกระตุ้นให้ผู้ใช้พีซีซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อสนองความต้องการในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของพีซีที่สูงขึ้นของวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่นี้ เช่นเดียวกับการซื้อเครื่องพีซีใหม่เพื่อใช้งานในภาคธุรกิจเอง กอปรกับการออกวินโดวส์มาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสซึ่งเป็นช่วงเทศกาลที่มีการจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อเป็นของขวัญก็จะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายของเหล่าผู้ผลิตพีซีเป็น อย่างดี

ผลกระทบของการเลื่อนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ทำให้ไอดีซี (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยทางด้านไอทีรายใหญ่ของโลกชี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดการส่งมอบพีซีในปีนี้ อย่างไรก็ตามไอดีซียังมองในแง่ดีว่า ยอดการส่งมอบพีซีจะยังคงเติบโตมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปีต่อเนื่องจนถึงปี 2008 และการเลื่อนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่จะมีผลเพียงการขยับการส่งมอบจากไตรมาสที่สี่ของปี 2006 ไปเป็นไตรมาสแรกของปี 2007 เท่านั้น และนี่จะทำให้ยอดการเติบโตของการส่งมอบพีซีเพิ่มขึ้นในปี 2007 มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ด้วย

ในขณะที่ผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างหนักหน่วงก็เตรียมตัวออกชิปรุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่นี้เช่นกัน ยอดขายของไมโครโปรเซสเซอร์ย่อมสอดประสานกับยอดการซื้อเครื่องพีซีที่เพิ่มขึ้น แผนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ในช่วงปลายปีในตอนแรกก็เป็นสูตรทางการตลาดที่ลงตัวอย่างมากสำหรับผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์เองเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศเลื่อนการวางตลาด ก็มีผลต่อราคาหุ้นที่ตกลงทันทีของไมโครซอฟท์และผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ รวมถึงอินเทลซึ่งเป็นผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ ในขณะที่หุ้นแอปเปิลซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญก็เพิ่มขึ้นตอบสนองต่อข่าวที่ปรากฏ

การตัดสินใจเลื่อนการวางตลาดของวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์ออกไป อาจจะมองว่ามีสาเหตุสำคัญสี่ประการ ได้แก่

หนึ่ง นับจากการวางตลาดวินโดวส์ 95 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคนจากดอส (DOS) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ค่อนข้างใช้ยาก ต้องใช้ความสามารถพิเศษเพิ่มเติม การใช้งานไม่ได้เอื้อให้คนหันมาใช้คอมพิวเตอร์มากนัก เรียกว่าไม่ได้มีลักษณะ User Friendly ซึ่งทำให้การเติบโตของการใช้คอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เป็นไปแบบก้าวกระโดด แต่เมื่อวางตลาดวินโดวส์ 95 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่มีความเป็น User Friendly ซึ่งหมายถึงเอื้อให้ผู้ใช้ใช้งานง่ายที่สุด ความยากลำบากทั้งหลายวินโดวส์จะจัดการให้เสร็จสรรพ การวางตลาดวินโดวส์ 95 จึงถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการคอมพิวเตอร์โดยรวมทั้งหมด ทำให้ยอดการสั่งซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานภายในบ้านและสำนักงานเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะทำให้ผู้ใช้ในทุกกลุ่มไม่ว่าจะรู้เรื่องมากหรือน้อยสามารถใช้งานกันได้โดยถ้วนหน้า

แต่เวอร์ชั่นถัดๆ มาของวินโดวส์ ไม่ว่าจะเป็น Windows 98, Windows ME, Windows 2000 จนถึง Windows XP ล้วนไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนอีกแล้ว เป็นแต่เพียง "ไมเนอร์เชนจ์" ซึ่งอาจจะมีทั้งเปลี่ยนแปลงมากเปลี่ยนแปลงน้อย ก็แล้วแต่ช่วงเวลา แต่ผู้ใช้ที่เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากับ Windows 95 ต่อเนื่องถึง Windows XP ก็เฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของวินโดวส์ ว่าจะเป็นไปในรูปแบบไหนอีก โดยต้องวางอยู่บนพื้นฐานที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพในวงการคอมพิวเตอร์ไปจนถึงคนแก่ใกล้เกษียณสามารถใช้งานกันได้อย่างถ้วนหน้าเหมือนเดิม

การวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ จึงเป็นแรงกดดันมหาศาลของไมโครซอฟท์ ที่จะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ นอกจากนี้การเลื่อนการวางตลาดมาเรื่อยๆ ก็เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้มากขึ้น เพราะผู้บริโภคก็ยิ่งตั้งความหวังว่าจะต้องเป็นวินโดวส์เวอร์ชั่นที่ยิ่งใหญ่และตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ในทุกแง่มุม

สอง ปัญหาของวินโดวส์เองที่แก้ไม่ตกนับจากการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นแรกๆ จนถึงปัจจุบันที่ไมโครซอฟท์ต้องคอยตามล้างตามเช็ดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับวินโดวส์ ในขณะที่ผู้ใช้ก็ต้องคอยติดตามเวอร์ชั่นแก้ไขของไมโครซอฟท์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ปัญหาเก่ายังแก้ไม่หมด ก็มีปัญหาใหม่ๆ จากการพยายามเจาะระบบและหารูรั่วของวินโดวส์อยู่ตลอดเวลาของคู่แข่ง, กลุ่มต่อต้านไมโครซอฟท์ หรือกลุ่มผู้หวังดี (หรือเปล่า) ต่อวินโดวส์ วินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่จึงจะต้องทำให้ปัญหาเดิมๆ ที่ผู้ใช้ประสบมาตลอดกว่าสิบปีนี้สูญหายไปหรือมีน้อยที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงไมโครซอฟท์คงทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้พวกเขาเจอรูรั่วต่างๆ และแก้ไขก่อนที่จะวางตลาดจริงให้มากที่สุด

การวางตลาดสินค้าที่มีปัญหาแม้จะเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ยอมรับในระดับหนึ่ง แต่ลูกค้าก็ตั้งความหวังว่าปัญหาต่างๆ ควรจะได้รับการแก้ไขเมื่อวางตลาดเวอร์ชั่นใหม่ๆ มากกว่าจะต้องมานั่งแก้ไขกันหลังจากนำมาใช้งานจริงแล้ว ซึ่งไมโครซอฟท์ก็ชี้แจงว่าการเลื่อนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ออกไปสาเหตุหนึ่งก็คือไมโครซอฟท์กำลังทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของวินโดวส์ดีขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นด้วย

สาม การปรับโครงสร้างภายในของไมโครซอฟท์อย่างต่อเนื่องนับจากการผันตัวเองของบิลล์ เกตต์ จากประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพื่อมาดูแลเรื่องการออกแบบซอฟต์แวร์โดยตรง นอกจากนี้มันสมองของไมโครซอฟท์หลายต่อหลายคนก็ได้สมองไหลไปยังบริษัทอื่นโดยเฉพาะกูเกิ้ลในช่วงสองสามปีหลัง ผลต่อเนื่องจากการประกาศเลื่อนการวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ คือ การประกาศโยกย้ายผู้บริหารจากฝั่ง Microsoft Office ซึ่งมีชื่อเสียงจากการวางตลาดผลิตภัณฑ์ตรงเวลามาโดยตลอดให้มาดูแลการวางตลาดวินโดวส์แทนที่ผู้บริหารเดิม ซึ่งประกาศเกษียณอายุตัวเองในปลายปีนี้

จริงๆ แล้วการปรับโครงสร้างภายในของไมโครซอฟท์มีมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงหลายปีหลังที่การแข่งขันในวงการอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยปลายปีที่แล้วไมโครซอฟท์ก็ประกาศเปิดตัวผู้บริหารที่จะมาปรับโครงสร้างการแข่งขันของไมโครซอฟท์ในวงการอินเทอร์เน็ตคนใหม่ โดยเฉพาะการเตรียมเปิดตัว Windows Live ซึ่งจะต้องทำงานสอดประสานกับวินโดวส์แบบปกติ

การปรับโครงสร้างภายในดำเนินไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร, การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการบริหารองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งไปที่การทำให้ไมโครซอฟท์ปราดเปรียวขึ้น, ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของวงการไอทีได้ และเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไมโครซอฟท์เองด้วย

สุดท้าย การแข่งขันในวงการอินเทอร์เน็ตที่เริ่มหนักหน่วงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นับจากการถือกำเนิดของกูเกิ้ล กูเกิ้ลเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีคิดและโมเดลธุรกิจของวงการอินเทอร์เน็ตอย่างสำคัญ การให้ของฟรีและมีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภคกลายเป็นกระแสที่สำคัญบนอินเทอร์เน็ต วิธีหารายได้โดยอ้อมผ่านพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นโมเดลการหารายได้ที่เปลี่ยนจากการหาเงินจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยตรงเป็นการอาศัยผู้ใช้เพื่อช่วยในการหารายได้แทน

ผลที่เกิดขึ้นส่งผลต่อวงการซอฟต์แวร์ด้วย จากที่ก่อนหน้าที่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อาจจะเน้นที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้งานบนระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ กลายเป็นนำทุกอย่างขึ้นไปไว้บนอินเทอร์เน็ต กอปรกับความก้าวหน้าของระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ทำให้ต้นทุนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตลดต่ำลงในขณะที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พีซีเพียงเพื่อต่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตมีมากขึ้น จากนั้นยกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปไว้บนอินเทอร์เน็ตแทน ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ก็คือ ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องหาผลิตภัณฑ์ประเภทเวิร์ดโปรเซสเซอร์หรือโปรแกรมทำบัญชีมาใส่เครื่องเพื่อใช้งานประเภทจัดทำเอกสารหรืองานบัญชีแล้ว เพียงแค่เครื่องพีซีของเราสามารถต่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ต ทุกอย่างก็รออยู่บนนั้นแล้ว

นี่อาจจะทำให้โครงการเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์ (NC) ซึ่งเคยเป็นโครงการร่วมกันของคู่แข่งรายใหญ่ๆ ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเคยพยายามร่วมมือกันเพื่อทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาวินโดวส์อีกต่อไปกำลังจะกลับมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อนก็มีข่าวว่ากูเกิ้ลจะทำ "Google PC" ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาถูกมากๆ ซึ่งจะมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง (ไม่ต้องพึ่งวินโดวส์) และมุ่งที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีให้บริการบนอินเทอร์เน็ตแทน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนนัก

นอกจากนี้ แอปเปิลเองก็มีข่าวว่าเริ่มจะหันมาชำเลืองมองพีซีบ้างแล้ว หลังจากที่มุ่งจะใช้เครื่องเฉพาะสำหรับใช้งานแอปเปิลมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ความสำเร็จจาก iPod ของแอปเปิลทำให้แอปเปิลยังคงเป็นคู่แข่งที่ไมโครซอฟท์ไม่สามารถมองข้ามได้เลย

การแข่งขันที่หนักหน่วงนี้ทำให้การวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ของไมโครซอฟท์จะต้องสอดประสานกับแนวทางการออกผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์เอง รวมถึงแนวโน้มของโลกคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย

การเลื่อนการออกวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ของไมโครซอฟท์ในทางหนึ่งอาจจะเป็นการซื้อเวลา หรือหลายคนอาจจะมองว่าเป็นการ "ถอย (เลื่อน) เพื่อรุก" แต่การวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ครั้งนี้อาจจะเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดของไมโครซอฟท์ก็ได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคนอีกครั้งหนึ่งในวงการคอมพิวเตอร์ การวางตลาดวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่จึงเป็นการวางตลาดบนจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ที่ไมโครซอฟท์จะผิดพลาดไม่ได้ แม้แต่ก้าวเดียว มิฉะนั้นไมโครซอฟท์อาจจะไม่มีโอกาสจะก้าวอีกต่อไปเสียด้วยซ้ำ

อ่ า น เ พิ่ ม เ ติ ม

1. Teacher, D. (2006), "Microsoft delays launch of Vista operating system," หนังสือพิมพ์ The Guardian, March 23, 2006.

2. "IDC cuts PC sales view on Microsoft Vista Delay," Reuters, March 27, 2006.

3. ธวัชชัย อนุพงศ์อนันต์ (2549), "เดิมพันครั้งใหญ่ของไมโครซอฟท์," คอลัมน์ An oak by the window, นิตยสารผู้จัดการ ฉบับเดือนมกราคม 2549

4. Dudley, B. (2006), "Executives face big challenge in Windows unit," เซกชั่น Tech Tracks หนังสือพิมพ์ The Seattle Times, March 24, 2006

5. Network Computer, http://en.wikipedia.org/wiki/ Network_computer


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.