หุ้นน้ำมันร่วงฉุดดัชนีหุ้นรูด


ผู้จัดการรายวัน(26 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเกือบ 8 จุดหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง บล.เกียรตินาคิน เตือนนักลงทุนจับตาคำตัดสินศาลล้มลายกรณีทีพีไอ ขอออกจากแผนฟื้นฟู ขณะที่บล.แอ๊ดคินซัน แนะเลี่ยงซื้อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างฯ

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้( 25 เม.ย.) ตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยมีแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาค่อนข้างมากหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลทำให้ดัชนีปิดที่ 763.88 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ 0.99% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 771.31 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 761.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,990.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 446.75 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,077.53 ล้านบาท นักลงทุนซื้อสุทธิ 1,524.28 ล้านบาท

สำหรับดัชนีกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดโดยปิดที่ 16,885.26 จุด ลดลง 532.29 จุด หรือ 3.06% มูลค่าการซื้อขาย 4,179.50 ล้านบาท ขณะที่หุ้น PTTEP ราคาปิดที่ 130 บาท ลดลง 5 บาท หรือ 3.70% มูลค่าการซื้อขาย 1,395.16 ล้านบาท, หุ้น PTT ราคาปิดที่ 260 บาท ลดลง 8 บาท หรือ 2.99% มูลค่าการซื้อขาย 1,439.62 ล้านบาท, หุ้น TOP ราคาปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 4.86% มูลค่าการซื้อขาย 859.34 ล้านบาท

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดค่าการกลั่นของบมจ.ปตท. หรือ PTT และบมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP

ทั้งนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มดังกล่าวออกมาก

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับประมาณการจีดีพีของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีการแถลงให้วันนี้ว่าจะออกมาอย่างไร หลังจากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นักลงทุนจะต้องติดตาม เรื่องการนัดฟังคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางกรณีบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ยื่นเรื่องเพื่อขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งจะเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อภายรวมตลาดหุ้น สำหรับ ภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังคงผันผวน โดยแนะนำรอซื้อ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 760-770 จุด

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวถึงภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงตาม ประกอบการการที่หุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มมาร์เก็ตแคปใหญ่ซึ่งเป็นเหตุให้ดัชนีปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นมีผลต่อตลาดหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวคล้ายๆกับวันนี้ซึ่งมุ่งประเด็นไปที่ปัจจัยแรกคือต้องติดตามหุ้นกลุ่มพลังงานต่อไป โดยประเมินแนวรับที่ 755 จุด และแนวต้านที่ 770 จุด

นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มมีการเข้ามามีบทบาทในการซื้อขายในตลาดหุ้นมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้ามีการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับที่ 755 จุด และแนวต้านที่ 770 จุด

**แนะเลี่ยงซื้อหุ้นกลุ่มวัสดุฯ

นายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวถึง ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้อนทุนการขนส่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางตรงกับกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ รวมถึงผลกระทบในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากหากราคาน้ำมันยังไม่ปรับตัวลดลง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผลที่ชัดเจน สำหรับคำแนะนำการลงทุน แนะให้ระมัดระวังการลงทุนหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากปัจจัยเรื่องน้ำมันยังไม่คลี่คลาย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.