"ศิริวัฒน์"อัดโกลเบล็กฯอินไซด์ คูหาเปรมกิจย้ำชัดไม่ขายหุ้นอีก


ผู้จัดการรายวัน(25 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

"ศิริวัฒน์"โวยผู้ถือหุ้นใหญ่โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์เอาเปรียบรายย่อย รู้ข้อมูลภายในการปรับราคาแปลงสภาพวอร์แรนต์จากหุ้นละ 2.30 บาทเหลือหุ้นละ 1 บาท เทขายหุ้นออกมาก่อน ขณะที่ผู้บริหารโกลเบล็กระบุการปรับเปลี่ยนราคาแปลงสภาพเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย ลั่นตระกูลคูหาเปรมกิจจะคงสัดส่วนถือหุ้น 40% ไม่ขายหุ้นออกมาแล้ว

นายศิริวัฒน์ วรเวทย์วุฒิคุณ นักลงทุนเปิดเผยภายหลังจากการเข้าประชุมวิสามัญของบริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GBXว่า ในที่ประชุมตนได้มีการสอบถามนายโอฬาร คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการ ถึงกรณีที่กลุ่มคูหาเปรมกิจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ ถึงการขายหุ้นออกมา ซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นที่จะขายได้

ทั้งนี้มองว่าการที่บริษัทได้มีการเปลี่ยนราคาแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น(วอร์แรนต์)ที่จะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจากเดิมได้กำหนดราคา 2.30 บาทได้ปรับลดเหลือหุ้นละ 1 บาท ซึ่งมองว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ได้มีการรู้ข้อมูลมาก่อนแล้ว จึงได้ทยอยขายหุ้นออกมา จนเป็นเหตุให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาแปลงสภาพดังกล่าวถือว่าส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชีด้วย โดยบริษัทนั้นได้อ้างสาเหตุที่เปลี่ยนแปลงว่ามาจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี จึงทำให้ตลาดหุ้นไม่ดีด้วย

"ผมได้รับมอบฉันทะให้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งมองว่าหุ้นอย่างนี้ผมคงไม่ซื้อ และมองว่าใครซื้อก็โง่แล้ว เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย ในที่ประชุมผมก็ได้มีการสอบถามการขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเขาก็บอกว่าเป็นสิทธิของเขาที่จะขายหุ้นออกมา และก็มีอีกหลายคำถามที่ยังไม่ซัก เช่นสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มคูหาเปรมกิจก่อนหน้านี้เท่าใด เพราะปัจจุบันนี้เหลืออยู่เพียง 40% เท่านั้น รวมถึงต้นทุนที่ถือหุ้นอยู่ แต่เนื่องจากผมเห็นว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยคนอื่นไม่ร่วมมือที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเอง ในการช่วยถาม ดังนั้นจึงมองว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเรียกร้องสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก จึงไม่ได้มีการซักถามเพิ่มเติมแต่อย่างใด "นายศิริวัฒน์กล่าว

นายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงราคาแปลงสภาพน่าจะเป็นข้อมูลในแง่บวกมากกว่าในแง่ลบ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าก็จะเป็นศูนย์เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นในกระดานได้ปรับตัวลดลง และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นมากกว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็ทำให้บริษัทได้รับเงินที่ลดลงด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีการขายหุ้นของกลุ่มคูหาเปรมกิจนั้น ควรที่จะเห็นใจกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่บ้าง เพราะในเมื่อผู้ถือหุ้นรายอื่นขายได้ ดังนั้นกลุ่มคูหาเปรมกิจก็ย่อมมีสิทธิที่จะขายได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนประมาณ 40% โดยลดลงจากเดิมที่เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะถืออยู่ในสัดส่วน 80% อย่างไรก็ตามนายโอฬาร ได้ยืนยันว่ากลุ่มคูหาเปรมกิจจะไม่ขายหุ้นออกมาแล้วและจะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 40% ต่อไป

"การขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในช่วงที่ผ่านมานั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของบริษัท เพราะการทำธุรกิจของบริษัทก็ยังดำเนินต่อไปเหมือนเดิม"นายณัฐวุฒิกล่าวนายณัฐวุฒิกล่าวว่า

สำหรับกรณีการหาพันธมิตรจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทุนขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาแล้ว 3 ราย ซึ่ง 2 ใน 3 รายนั้นจะเป็นพันธมิตรจากประเทศในแถบเอเซีย ซึ่งบริษัทหวังที่จะให้เข้ามาสนับสนุนในแง่ของธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.โกลเบล็ก ซึ่งจะช่วยทำให้มีฐานลูกค้าสถาบันเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันนี้บล.โกลเบล็กมีฐานลูกค้าสถาบันเพียง 5% เท่านั้น ได้ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าสถาบันเพิ่มขึ้นเป็น 10% อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีข้อสรุปเมื่อใด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.