น่าประหลาดใจมาก เมื่อผู้คนส่วนใหญ่มองว่า พระนครยนตรการของ 'บันเทิง จึงสงวนพรสุข'
หมดโอกาสแล้ว ในทันทีที่จีเอ็มประกาศการลงทุนในไทย ทั้ง ๆ ที่ จีเอ็ม และพระนครยนตรการทำการค้าร่วมกันมากว่า
1 ทศวรรษ จีเอ็มยืนยันว่าบทบาทของคู่ค้าชาวไทยยังคงเดิม แต่จากผลงานที่ผ่านมา
น้อยคนนักที่จะเชื่อว่าบรรเทิงจะยังคงสถานภาพเดิมไว้ได้ ไม่เพียงแต่การทำตลาดโอเปิลเท่านั้น
ทั้งฮุนได และโรงงานประกอบรถยนต์ที่บรรเทิงมีอยู่ ล้วนอับจนในห้วงเวลานี้
ถ้าทุกวันนี้ การบริหารอยู่ในมือของเถ้าแก่อย่างเสี่ยเท้งเพียงลำพัง องค์กรแห่งนี้อาจหมดโอกาสไปจริง
ๆ แต่เมื่อ 'ธวัชชัย' ทายาทคนสำคัญเริ่มโดดเด่นขึ้น โอกาสของที่นี่จึงพอมีอยู่บ้าง
"เราเปรียบเสมือนแม่ แม่ก็ต้องทนต่อลูก จะอดทนนานแค่ไหน อยู่ที่ว่าตราบใดที่ยังคุยกันได้รู้เรื่อง
ก็คงต้องคุยกันต่อไป"
แอนดรู แอนเดอร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส
(จีเอ็ม) ฝ่ายกิจการเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวต่อ "ผู้จัดการ" เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีเอ็มกับพระนครยนตรการ
"อนาคตของพระนครยนตรการ" เป็นหัวข้อที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เมื่อจีเอ็มตัดใจและประกาศอย่างเป็นทางการถึงการลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์นั่งโอเปิลในประเทศไทยมูลค่าเฉียดสองหมื่นล้านบาท
มิเพียงแต่ อนาคตของพระนครยนตรการ ในฐานะดีลเลอร์หลักของจีเอ็มที่กลายมาเป็นความท้าทายหนึ่งที่มีสัญญาณบ่งบอกชัดเจนจากจีเอ็มว่าถึงเวลาต้องปรับปรุงตัวเองแล้วเท่านั้น
อีกสองธุรกิจหลักของเครือข่ายพระนครยนตรการ อย่างยูไนเต็ด โอโตเซลส์ (ประเทศไทย)
ที่ทำการจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดจากเกาหลีใต้ ก็กำลังเข้าถึงจุดอับเมื่อจุดขายในอดีตที่ฮือฮา
กลายเป็นจุดด้อยไปเสียแล้ว เมื่อยักษ์จากญี่ปุ่นเข้ามาเล่นสงครามราคาเต็มรูปแบบ
แถมโครงการใหญ่ที่วาดผันไว้กับฮุนไดแห่งเกาหลีใต้นั้น ก็ยังเชื่องช้าเต็มทีตามสไตล์ของเกาหลีที่กว่าจะตกลงได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ๆ ดูอย่างการติดต่อขอเป็นดีลเลอร์จำหน่ายฮุนไดในไทยนั้น บรรเทิงต้องใช้เวลาถึง
10 ปี กว่าจะได้มาทั้ง ๆ ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นมาแล้ว
และทุกวันนี้ การประกอบฮุนไดในไทย ก็ดูจะเงียบเหงาเต็มทน วันหนึ่งประกอบไม่ถึง
10 คัน แผนการนำโมเดลใหม่อย่างแอคเซ้นท์เข้ามาประกอบก็ยังไม่คืบหน้า และถ้าไปดูสายการประกอบฮุนไดที่โรงงานบาซัน
เยนเนอเรล เอเซมบลีทุกวันนี้ จะไม่เห็นเงาของวิศวกรชาวเกาหลีใต้แม้แต่คนเดียว
จะอ้างว่าเพราะวิศวกรชาวไทยเรียนรู้งานจนหมดสิ้นแล้วแต่ก็นับว่าผิดวิสัย
ปัญหาในการหาทางออกของโรงงาน บางชันฯ เอง ที่กำลังถดถอยลงทุกวันเมื่อฮอนด้า
ซึ่งเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและลูกค้ารายใหญ่ กำลังทยอยรถยนต์นั่งฮอนด้าไปประกอบที่โรงงานของตนเองในสวนอุตสาหกรรมโรจนะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
และแน่นอนว่าฮอนด้าได้ตัดสินใจที่จะถอนหุ้นในทันทีที่มีโอกาส หรือการเจรจาเรื่องการขายหุ้นคืนเป็นที่ตกลงกันได้
ประการสำคัญโรงงานแห่งนี้เคยได้รับการเมียงมองทั้งจากจีเอ็มและฮุนได ก่อนหน้านี้ที่จะเข้ามาขยายบทบาท
แต่เมื่อจีเอ็มประกาศโครงการยักษ์ขึ้นมา โรงงานแห่งนี้ก็เท่ากับหมดโอกาสแล้ว
และฮุนไดเองก็เริ่มมีแนวโน้มว่าถ้าจะเข้ามาก็คงไม่ต่างจากจีเอ็มมากนัก คือโรงงานบางชันฯ
คงไม่ใช่เป้าหมายที่วางไว้ทางออกของโรงงาน บางชันฯ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
ปัญหาใหญ่ที่รอการตัดสินใจและแก้ไขเหล่านี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่าถึงวันนี้แล้ว
บันเทิง จึงสงวนพรสุข ผู้มีอำนาจสูงสุดของขุมข่ายแห่งนี้ ได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดไปมากน้อยแค่ไหนในการดำเนินธุรกิจ
หรือว่า ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข ด้วยวิสัยทัศน์ของนักบริหารรุ่นใหม่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาสถานการณ์ได้ทันท่วงทีหรือไม่
"ถึงวันนี้ เสี่ยเท้งต้องกล้าที่จะรุกไปข้างหน้าแล้ว จะมัวหวังค้าขายไปวัน
ๆ เหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้แล้ว" ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
กล่าวถึง บันเทิง ในแง่ของการดำเนินธุรกิจที่มักจะไม่เสี่ยงหรือกล้าลงทุนเพื่อการขยายงานที่มุ่งหวังไปยังอนาคตมากนัก
"บางทีรู้ว่าจะวิ่งชนกำแพงก็ต้องถอยหลังมาก่อน" ผู้บริหารที่ใกล้ชิดกับบรรเทิงมานานนับสิบปี
กล่าวถึงเถ้าแก่ของตน
ราว 11 ปีมาแล้วที่พระนครยนตรการของบรรเทิง จึงสงวนพรสุข ได้เข้ามาเป็นคู่ค้ารถยนต์ในเครือของจีเอ็ม
โดยรับหน้าที่ดูแลตลาดในประเทศไทย
ตลอด 11 ปีที่พระนครยนตรการจำหน่ายรถยนต์นั่งโอเปิลและโฮลเด้น ไม่ว่าจะทั้งจำหน่ายโดยการนำเข้าและทำการประกอบในประเทศไทย
ยอดจำหน่ายนั้นดูเหมือนว่าแต่ละปีไร้ซึ่งอนาคตเต็มทีแม้จะกล่าวว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่มีส่วนทำให้ตลาดของโอเปิลและโฮลเด้นเติบโตได้ยาก
แต่ก็ต้องระบุไว้ว่าเป็นผลมาจากการบริหารงานในสไตล์ของบรรเทิง เหมือนกัน
ช่วงรอยต่อสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2534 ดูเหมือนว่ากลุ่มพระนครยนตรการจะมีโอกาสและอนาคตมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
เพราะมีปัจจัยรอบด้านค่อนข้างพร้อมกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ เครือข่ายการตลาดรถยนต์ที่มีอยู่ในมือแถมยังได้ฮุนไดเข้ามาเปิดตลาดเป็นครั้งแรก
และเป็นตัวเลือกใหม่ของตลาดก่อนรายอื่น ๆ ที่จังหวะการก้าวขยับช้ากว่าบรรเทิงอยู่มาก
แต่ความได้เปรียบที่มีอยู่บรรเทิง กลับปล่อยให้มันหลุดลอยไป
เพราะถึงแม้การเปิดตลาดครั้งใหม่ของโอเปิลในระยะ 2-3 ปี มานี้จะฮือฮาอยู่มากเพราะขายได้หลายพันคันต่อปี
แต่ทิศทางที่เห็นก็เริ่มจะเข้ารอบเดิมเช่นอดีตอีกแล้ว
ตรงนี้เอง ที่ทำให้เกิดกระแสข่าวว่าทางจีเอ็มจะมองหาคู่ค้ารายใหม่เข้ามาช่วยเสริมการทำตลาดในประเทศไทย
ทันทีที่โครงการลงทุนครั้งใหญ่นี้เริ่มผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายในตลาด
ผู้ที่คลุกคลีทำงานกับบรรเทิงมานานนับสิบปี รับรู้กันเป็นอย่างดีว่า วิถีการทำงานของบรรเทิงนั้น
ยังคงยึดติดกับรูปแบบความเป็นเถ้าแก่ชาวจีน รวบอำนาจมักมีหลงจู๊เป็นมือขวาคู่ใจ
เป็นมาอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น วิสัยทัศน์ตรงนี้ยากที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้
และนับเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้กลุ่มทุนแห่งนี้ แม้ดูว่าจะขยายตัวแต่ยากที่จะก้าวขึ้นมาทำงานใหญ่กว่าที่เป็นอยู่
"คุณบรรเทิงเขาค่อนข้างเก่งในเรื่องบุกเบิก และไวมากในการเจาะตลาดหรือเริ่มต้นในสิ่งที่คนอื่นยังจับไม่ถูก
แต่พอถึงบทที่จะต้องแข่งขันและรุกไปข้างหน้าเพื่อขยายอาณาจักรกลับหยุดอยู่กับที่
พอแล้วกับสิ่งที่มีอยู่ ตรงนี้ยากเหมือนกันที่จะเปลี่ยนวิสัยทัศน์ได้"
ผู้บริหารซึ่งเคยร่วมงานกับบันเทิงกล่าว
หรือแม้แต่คู่แข่งในธุรกิจนี้ ก็มักมองกลุ่มพระนครยนตรการว่าเป็นเพียงคู่แข่งขันที่ไม่ต้องระมัดระวังมากนัก
เพราะเป็นเพียงผู้จุดกระแสเท่านั้น แต่แล้วก็ค่อย ๆ หยุดนิ่งอยู่กับที่ และยิ่งถ้ามีคนลงมาแข่งขันมาก
กลุ่มนี้จะเงียบทันทีเลยแทบจะไม่ต่อสู้ในเชิงรุกกลับมา ส่วนใหญ่จะตั้งรับอยู่กับที่เหมือนกับต้องการจะรักษาตำแหน่งที่เป็นอยู่ไว้เท่านั้น
ซึ่งถ้าจะมองในเชิงธุรกิจแล้วก็เท่ากับปิดโอกาสของตนเองที่เติบโตต่อไป แต่ยุทธวิธีเช่นนี้บางครั้งก็ทำให้อยู่รอดได้และไม่ต้องไปเสี่ยงกับใครเขามากนัก
ฟองจันทร์ วรรณพฤกษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท พระนครยนตรการ
กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คุณบันเทิงไม่ใช่คนที่ลงทุนแล้วถอย เพียงแต่ว่าขณะนี้สถานการณ์ตลาดไม่ค่อยดีนัก
ยอดขายตกกันหมดไม่มีใครขายได้ เพราะภาวะเศรษฐกิจซบเซา และการจำกัดสินเชื่อที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดออกมา
ทำให้ตลาดโดยรวมตกต่ำลง
"ไม่ถึงขั้นแย่ ถ้าทุกคนเขาดีหมดแล้วเราแย่ก็ต้องบอกว่าเราแย่ แต่ตอนนี้ทุกคนเขาแย่กันหมด
เพราะเศรษฐกิจแย่ต่อเนื่องมาจากภาวะน้ำท่วม เศรษฐกิจซบเซา ทำอย่างไรก็ได้เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
ให้ได้เท่าเดิม เป็นเรื่องที่เรามองว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับสถานการณ์เช่นนี้"
ฟองจันทร์ กล่าวถึงสภาพตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ปี 2539 พระนครยนตรการจึงตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้เพียง 5,000 คันเท่านั้นเป็นยอดจำหน่ายที่ไม่มีอัตราเติบโตจากปี
2538 และเมื่อมองย้อนกลับไปปี 2537 ยอดจำหน่าย 5,000 คันนี้ คือตัวเลขที่บ่งบอกว่า
ตลาดรถยนต์โอเปิลในประเทศไทย กำลังถดถอยลงทุกวัน
ยิ่งแนวนโยบายที่ออกมาว่าต้องการรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้เท่าเดิม ในสภาพตลาดที่ซบเซานั้น
ชัดเจนว่า พระนครยนตรการ วางกลยุทธ์แบบตั้งรับและไม่หวังจะเติบโตไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เพราะถ้าพิจารณาให้ถ่องแท้แล้ว สถานการณ์เช่นนี้น่าที่จะบุกมากกว่าตั้งรับ
ดังเช่นที่ฮอนด้า และโตโยต้ากำลังปฏิบัติการกันอยู่เพราะถ้าได้ผล มันจะคุ้มค่ามากทีเดียว
แต่ถ้ามองถึงปัญหาด้วยตัวของพระนครยนตรการเองแล้ว นโยบายหยุดการเติบโต
ก็นับว่าจำเป็นเหมือนกันในการที่ก้าวไปอย่างถูกต้องในอนาคตและที่สำคัญนโยบายนี้
ธวัชชัย จึงสงวนพรสุขทายาทคนสำคัญของตระกูล ที่จะสืบทอดการทำตลาดโอเปิดในไทย
แทนบรรเทิงเป็นคนคิดขึ้น ทั้งยังเห็นว่าโครงสร้างขององค์กรแห่งนี้จะต้องถึงคราวปรับเปลี่ยนและกลับมาทบทวนเพื่ออนาคตเสียแล้ว
เหตุผลนั้น ธวัชชัย ได้อ้างว่าต้องการหยุดการเติบโตทางด้านยอดขายลง โดยบริษัทต้องการที่จะหันมาทุ่มเทการลงทุนในด้านการสร้างความแข็งแกร่งของตัวแทนจำหน่ายให้มีศักยภาพมากขึ้น
เพราะที่ผ่านมาตลาดโอเปิลจะตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ถ้ามีคู่แข่งเข้ามาในตลาดเดียวกันเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายที่เกิดขึ้นมานั้นส่วนใหญ่ยังเป็นรายใหม่ที่ไม่ชำนาญการพอ
เมื่อจุดขายของสินค้าไม่แกร่งเหนือคู่แข่งมากนัก ตัวแทนจำหน่ายจึงไม่สามารถเปิดตลาดได้
ผลตรงนั้นจึงทำให้ตัวแทนจำหน่ายของพระนครยนตรการบอกเลิกไปเป็นจำนวนมาก
ทั้ง ๆ ที่เข้ามาร่วมทำตลาดกันเพียง 1-2 ปีเท่านั้น ตรงนี้เป็นอุปสรรคสำคัญอย่างมาก
ในการวางฐานตลาดที่มั่นคงในอนาคต
"มีตัวแทนบอกเลิกไปมากกว่า 10% ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ทราบกันดีว่าเพราะไม่ประสบความสำเร็จในการค้า
ตรงนี้เราก็พยายามที่จะรักษาดีลเลอร์ให้อยู่กับเรานาน ๆ "ผู้บริหารของพระนครยนตรการกล่าว
ธวัชชัย กลับมามองนโยบายการรุกเร็วในครั้งเปิดตลาดใหม่ ๆ ว่าตอนนั้นคงจำเป็นที่จะต้องกระจายและเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ให้มากที่สุด
เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายแต่ก็ต้องมีการวางเป้าหมายเช่นกันว่าจำนวนที่เหมาะสมจะอยู่ที่ตรงไหน
จากนั้นการรักษาคู่ค้าให้คงอยู่ยาวนานที่สุด คือสิ่งที่จะทำในอันดับต่อมา
ทุกวันนี้ พระนครยนตรการมีดีลเลอร์อยู่ทั่วประเทศประมาณ 50 ราย ซึ่งธวัชชัยมองว่าเพียงพอแล้วในการวางฐานการทำตลาด
นโยบายหลักปีนี้ด้านช่องทางจำหน่ายนั้น จะไม่มีการเปิดเพิ่มแน่นอนแต่จะทำการขยายศักยภาพของตัวแทนให้สูงขึ้นเพื่อรองรับสินค้าตัวใหม่
ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้นจึงยึดพัฒนา 3 ด้านหลักด้วยกันคือ การขาย บริการ
และอะไหล่ นอกจากได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานอย่างเช่นการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ทั่วประเทศในงานขายและบริการในปีนี้
หรือ เน้นการอบรมงานบริการและศูนย์บริการ จัดอันดับเพื่อดูศักยภาพตัวแทนแต่ละราย
ในการที่จะพัฒนาต่อไป
แม้ว่าพระนครยนตรการจะพยายามปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าครั้งใหม่
แต่ผู้ที่อยู่ในวงการมักมองว่า เครือข่ายแห่งนี้กำลังเดินทางเข้ารูปเดิม
"ในการทำตลาดจะต้องตั้งเป้าว่าถึงจุดนี้จึงจะถือว่าคุณประสบความสำเร็จแต่ถ้าวางเป้าต่ำไปแล้วมองว่าประสบความสำเร็จก็คงไม่ถูกนักพระนครยนตรการจริง
ๆ แล้วน่าที่จะโตกว่านี้ แต่กลับไม่โตซึ่งปัญหามันมีหลายประเด็น และตัวผู้บริหารสูงสุดก็น่าจะต้องรับความล้มเหลวนี้ไปว่าพลาดเพราะตนเอง"
ผู้อยู่ในวงการยานยนต์ของไทยให้ความเห็นถึงนโยบายหยุดการเติบโตของพระนครยนตรการ
กระนั้นก็ตาม ผู้คร่ำหวอดท่านนี้วิเคราะห์ว่า แม้ที่ผ่านมาพระนครยนตรการจะลุ่ม
ๆ ดอน ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ กับการทำตลาดโอเปิลในไทย ซึ่งอาจเป็นผลงานที่ไม่ดีนักแต่ขั้นต้นมั่นใจได้ว่า
จีเอ็มจะยังไม่ถึงขั้นแตกหักกับพระนครยนตรการ เพราะอย่างน้อยสายสัมพันธ์ที่ทำธุรกิจกันมายาวนานถึง
10 ปี ก็น่าจะช่วยได้บ้าง
ทางออกในเรื่องนี้ก็คือ จีเอ็มคงต้องเข้ามาเปลี่ยนแปลงในส่วนการทำตลาดหรือเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารด้วย
เพื่อจะได้สำเร็จไปพร้อม ๆ กับงานใหญ่ที่ได้วางแผนไว้แล้ว
"จีเอ็มจำเป็นต้องทิ้งพระนครยนตรการเพื่อหาดีลเลอร์ใหม่หรือไม่ คงบอกได้ว่ายังไม่จำเป็นในขณะนี้
แต่จะต้องพัฒนาพระนครยนตรการให้ได้ ทางออกของพระนครยนตรการ ก็คือต้องกล้าที่จะลงทุนเพื่อตามให้ทันและเปิดรับโนว์ฮาวและประสบการณ์จากจีเอ็มให้ได้"
จะว่าไปแล้วความเคลื่อนไหวนั้นมีมาก่อนหน้า ที่จีเอ็มจะประกาศถึงการลงทุนในไทยด้วยซ้ำไป
ต้นปี 2538 ทางจีเอ็มได้ส่ง คอลลิน จอร์สัน เข้ามาช่วยพระนครยนตรการในด้านงานบริการ
โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาและปรับระบบงานบริการทั้งหมดของพระนครยนตรการให้มีมาตรฐานมากขึ้น
โดยเริ่มจากสำนักงานใหญ่ ก่อนกระจายไปยังสาขาทั้ง 6 ในกรุงเทพฯ จากนั้นจึงจะกระจายไปยังดีลเลอร์ต่าง
ๆ
เป้าหมายสำคัญของการปรับปรุงครั้งนี้เพื่อที่จะนำเอาระบบบริการที่จีเอ็มปฏิบัติอยู่ทั่วโลกมาใช้ในประเทศไทยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ซึ่งปัญหาด้านงานบริการนั้นเป็นปัญหาใหญ่ของพระนครยนตรการเลยทีเดียว
"เป็นนโยบายของจีเอ็ม ที่ต้องการให้ศูนย์บริการรถโอเปิลในประเทศไทย
มีมาตรฐานมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก"
ธวัชชัย กล่าว
ในเนื้อหาแล้ว หลัก ๆ ก็คือ การปรับระบบงาน เช่นการรับจ่ายรถของศูนย์บริการ
วิธีการซ่อมบำรุง ตรวจเช็กรถแต่ละคัน รวมถึงรูปแบบของศูนย์บริการทั้งภายนอกและภายใน
"ทุกวันนี้ บริษัท พระนครยนตรการ ถือเป็นดิสทริบิวเตอร์ที่จีเอ็มพอใจและให้ความไว้วางใจมากที่สุด
ผู้บริหารของจีเอ็มเคยบอกกับเราว่า เราเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมา"
ธวัชชัยกล่าวสั้น ๆ
ความมั่นใจของธวัชชัย คงกลบกระแสลงได้บ้างในกรณีที่ว่าจีเอ็มจะนำระบบเมกะดีลเลอร์มาใช้ในไทย
เหมือนที่ใช้ในหลายประเทศทั่วโลกที่จีเอ็มเข้าไปทำการค้าอยู่ หรือการที่พยายามหาตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เพิ่มเข้ามาไม่เฉพาะให้พระนครยนตรการเพียงรายเดียวเท่านั้น
ประเด็นนี้ก็น่าจับตามองว่า หลังจากนี้พระนครยนตรการจะสนองตอบจีเอ็มได้มากแค่ไหน
ถ้าหลังจากร่วมพัฒนาองค์กรและระบบต่าง ๆ กันแล้ว แต่พบว่ายากที่จะพัฒนาไปด้วยกัน
แน่นอนว่าสถานภาพของพระนครยนตรการจะอยู่ลำบากขึ้น
"เรายังมีอนาคต เครือข่ายพระนครยนตรการยังมีอนาคตต่อไป เราพร้อมจะพัฒนาขึ้นไป
และที่ผ่านมาเราก็พัฒนามาโดยตลอด" ผู้บริหารของพระนครยนตรการยังมั่นใจว่าจะก้าวตามโนว์ฮาวและสิ่งที่จีเอ็มมอบให้
เพื่อการพัฒนาต่อไป
สำหรับจีเอ็มแล้ว ในวันแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยเมื่อ 11 มิถุนายน
2539 นั้น ถ้าจะว่าทางจีเอ็มแทบไม่เห็นความสำคัญของพระนครยนตรการเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งผิดวิสัยคู่ค้าที่ควรจะเป็นในกรณีพระนครยนตรการเป็นเจ้าของบ้านก็อาจจะได้
เพราะไม่เห็นเงาของ "จึงสงวนพรสุข" แม้แต่คนเดียว หรือการแนะนำทีมบริหารก็เน้นเฉพาะด้านการผลิตและโครงการใหม่เท่านั้น
จะพูดถึงพระนครยนตรการก็ต่อเมื่อผู้สื่อข่าวซักเท่านั้น
ผู้บริหารของจีเอ็มกล่าวว่า ที่ไม่เน้นกล่าวถึงพระนครยนตรการเนื่องจากเป็นการแถลงข่าวโครงการลงทุนโรงงานผลิต
ซึ่งพระนครยนตรการไม่มีส่วนร่วมในการลงทุนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโยงมาถึงตรงนั้น
โรนัลด์ ดี. ฟริซเซลส์ ประธาน ปบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทที่จะเข้ามาดูแลด้านการผลิตรถยนต์โอเปิลในประเทศไทยกล่าวถึงการทำตลาดรถยนต์โอเปิล
โดยพระนครยนตรการ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาว่าการทำตลาดโอเปิลนั้นยากอยู่แล้ว
และช่วงหลังเงินมาร์กได้แข็งตัวขึ้นจึงทำตลาด ได้ยากขึ้นไปอีก แต่ตรงนี้จะเป็นปัญหาระยะสั้นเท่านั้น
สามารถแก้ไขได้
กล่าวถึงบทบาทหรือฐานะของพระนครยนตรการในระหว่างนี้ ประธานของจีเอ็ม ประเทศไทย
ยืนยันว่า บทบาทและฐานะของพระนครยนตรการ เป็นมาอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้นต่อไป
โดยจีเอ็มประเทศไทย จะทำหน้าที่ดูแลด้านการผลิตส่วนพระนครยนตรการเป็นผู้ทำตลาดในประเทศไทย
จีเอ็มอาจจะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำบ้างแต่ไม่ใช่เข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างในขณะนี้
"ตอนนี้โครงสร้างทุกอย่างยังเหมือนเดิมในด้านการตลาด แต่อนาคตเมื่อโครงการลงทุนของจีเอ็มเริ่มส่งสินค้าออกสู่ตลาดแล้ว
คงต้องดูอีกครั้ง เพราะอนาคตยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรเพราะต้องดูตลาดเป็นระยะ
ๆ" คำกล่าวของฟริซเซลล์
แม้ดูจากคำพูดนั้น จะยังวางใจได้ว่าพระนครยนตรการยังคงมีเวลาพอในการพัฒนาตนเองเพื่อก้าวให้ทัน
และเป็นดีลเลอร์อย่างที่จีเอ็มตั้งความหวังไว้
โครงการผลิตรถยนต์นั่งโอเปิลที่ใช้เงินลงทุนสูงถึง 18,750 ล้านบาทเท่านั้น
วางแผนว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในเดือนสิงหาคมนี้ และสามารถผลิตสินค้าออกสู่ตลาดในต้นปี
2542 กำลังการผลิตนั้นขั้นต้นวางไว้ที่ 100,000 คัน ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ในปีที่สามของการผลิต
และโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยองแห่งนี้ จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง
150,000 คันต่อปีโดยโครงการนี้วางแผนว่าจะทำการผลิตเพื่อส่งออก 80% เป็นอย่างน้อยของกำลังการผลิต
แอนเดอร์ส ย้ำว่าจริง ๆ แล้วโครงการที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพราะจีเอ็มต้องการที่จะขยายฐานการผลิตเข้ามาในภูมิภาคเอเชียให้มากขึ้น
และไทยก็มีศักยภาพมากที่สุด และความสำคัญของโครงการนี้อยู่ที่การผลิตเพื่อการส่งออกเป็นลำดับแรก
"คือถ้าโรงงานเริ่มผลิตสินค้าออกสู่ตลาดแล้ว แต่ตลาดในประเทศไทยไม่มีรองรับ
เราก็มีตลาดส่งออกรองรับอยู่แล้วหรือถ้าตลาดส่งออกมีความจำเป็นมากกว่าเราก็คงต้องเปิดทางให้กับตลาดส่งออกก่อน"
แอนเดอร์สกล่าว
เดิมนั้นตลาดในเอเชียของจีเอ็มโดยเฉพาะตลาดรถยนต์โอเปิล จะถูกส่งมาจากฐานการผลิตในยุโรป
ซึ่งอนาคตจีเอ็มมองว่าตลาดยุโรปเองจะขยายตัวอีกมาก ดังนั้นฐานการผลิตเหล่านั้นจึงจำเป็นจะต้องผลิต
เพื่อส่งออกไปยังตลาดยุโรปเป็นหลักส่วนตลาดเอเชีย ก็จำเป็นต้องหาฐานการผลิตใหม่
ซึ่งที่สุดจีเอ็มตัดสินใจเลือกไทย
นอกจากการเตรียมตัวหาฐานการผลิตรองรับตลาดล่วงหน้าแล้ว การที่จีเอ็มเข้ามาลงทุนในไทยนั้น
เป็นเพราะอนาคตการวางฐานการผลิตใกล้กับตลาดหลัก ๆ นั้น จะเป็นสิ่งจำเป็น
และจะกลับมาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญอีกครั้ง นอกจากนี้การผลิตรถเฉพาะท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
โครงการของจีเอ็มในไทยครั้งนี้ก็คือการมองไปยังอนาคตทั้งสิ้น
วิสัยทัศน์ของบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกดูจะเป็นเรื่องยากลำบากไม่น้อยที่พระนครยนตรการจะตามให้ทันโดยเร็ว
โดยเฉพาะขุมข่ายแห่งนี้บริหารงานด้วยวิสัยทัศน์แบบเถ้าแก่ของบรรเทิงมาโดยตลอดกว่า
2 ทศวรรษ
ผู้บริหารของพระนครยนตรการกล่าวว่า ถ้าองค์กรแห่งนี้บริหารโดยบรรเทิงแต่ผู้เดียว
คงอาจกล่าวได้ว่าโอกาสที่พระนครยนตรการจะกลับมาผงาดในวงการยานยนต์ของไทยคงยากเต็มที
แต่นี่ทายาทคนสำคัญกำลังมีบทบาทเด่นขึ้นมา พร้อมทั้งประสบการณ์ที่มากขึ้นเป็นลำดับจึงน่าที่องค์กรแห่งนี้จะยังพอหลงเหลือโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าได้บ้าง
ไม่นานมานี้ ธวัชชัย ได้กล่าวถึงการรื้อโครงสร้างเครือข่ายพระนครยนตรการไว้อย่างน่าคิดว่า
"แนวทางของกลุ่มพระนครยนตรการต่อไปนี้ จำเป็นต้องดำเนินการในรูปแบบโฮลดิ้ง
คัมปะนี เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร ต้องกระจายอำนาจ"
แผนงานการจัดสร้างผังองค์กรใหม่นั้น แม้จะยังไม่อาจระบุว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด
แต่ก็นับเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ
แนวคิดนี้ถ้าเกิดขึ้นจริงเท่ากับว่าพระนครยนตรการจะเข้าสู่ยุคใหม่ทันทีทิ้งคราบการบริหารแบบรวบอำนาจ
ซึ่งสร้างปัญหามาตลอดนับจากอดีต จนถึงขนาดผู้บริหารฝีมือเยี่ยมหลายคนต้องทิ้งเครือข่ายแห่งนี้ไป
ธวัชชัยก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าแนวคิดนี้ยังไม่อาจสรุปว่าจะเป็นผลดีต่อองค์กรโดยรวม
แต่มั่นใจว่านี่คือทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพระนครยนตรการในอนาคต
เช่นนี้แล้ว พระนครยนตรการ คงยังไม่หมดโอกาสเสียทีเดียว