นิวซีแลนด์ขยายฐานรุกธุรกิจในไทยมุ่งลงทุนซอฟแวร์-ดึงคนไทยเรียนต่อ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(24 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

นิวซีแลนด์ เร่งผลักดันการค้า การลงทุนต่างประเทศ "ฑูตพาณิชย์ฯ" ชี้ไทยเป็นฐานการผลิตซอฟแวร์ในอนาคต พร้อมเปิดตลาดการศึกษาดึงคนไทยและคนเอเชียเข้าศึกษาต่อถึงปริญญาเอก ขณะเดียวกันจับมือผู้ประกอบการไทยส่งออกสินค้าเกษตร แนะให้นักธุรกิจไทยเข้าไปตั้งศูนย์กระจายสินค้า ส่วนนิวซีแลนด์เจาะห้างสรรพสินค้า-โรมแรมในไทยเพื่อใช้เป็นแหล่งเผยแพร่สินค้า "แบรนด์"นิวซีแลนด์

แม้นิวซีแลนด์จะมีมูลค่าการค้าการลงทุนกับประเทศไทยที่น้อยเมื่อเทียบกับประเทศยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมอย่างญี่ปุ่น ซึ่งแค่ต้นปี 2549 ญี่ปุ่น ได้เข้ามาขอส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยกว่า 56 ราย มูลค่าการลงทุนกว่า 14,516 ล้านบาท ขณะที่นิวซีแลนด์นั้นในปี 2548 ที่ผ่านมามีบริษัทนิวซีแลนด์เข้ามาขอลงทุนในไทยเพียงแค่ 2 บริษัท มูลค่าการลงทุนแค่ 66 ล้านบาท

นิวซีแลนด์เล็งลงทุนในไทย

อย่างไรก็ตามคาดว่าปีนี้มูลค่าการลงทุนในเมืองไทยของนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากการเข้ามาลงทุนด้าน ซอฟแวร์ ธุรกิจการศึกษา และการลงทุนด้านเทคโนโลยีการแปรรูปสินค้าเกษตร อันเป็นผลจากการทำสัญญา FTA ระหว่างสองประเทศ นอกจากนั้นไทยยังมีศักยภาพในการหาวัตถุดิบในเรื่องของสินค้าเกษตรอันหลากหลาย และค่าแรงที่ถูกเป็นแรงดึงดูดสำคัญในการเข้ามาลงทุนของนิวซีแลนด์

ในด้านดุลการค้าระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ที่ผ่านมาพบว่าไทยได้ดุลการค้ากับนิวซีแลนด์ ซึ่งเกินดุลการค้ามูลค่า 31.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในทิศทางอันแจ่มใสเมื่อเทียบกับประเทศคู่สัญญา FTA ประเทศอื่นๆที่ไทยทำสัญญาด้วย

โจ แม็คอิวอยด์ ฑูตพาณิชย์นิวซีแลนด์กล่าวว่า นิวซีแลนด์จะเริ่มมีการเปิดประเทศมากยิ่งขึ้นซึ่งต่อไปนิวซีแลนด์จะไม่ใช่แค่เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่เขียวสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่จะเริ่มรุกเข้ามาทำการทำการตลาดเสริมจุดแข็งเรื่องการค้าและการลงทุนมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่นิวซีแลนด์มองว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นก็คือ ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจ e-learning ธุรกิจด้าน ICT หรือเทคโนโลยีและสารสนเทศ ทั้งนี้คาดว่าธุรกิจการศึกษาที่ทางนิวซีแลนด์จะมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากมาร์เก็ตแชร์ทั้งหมดให้ได้ใน 3 ปีข้างหน้า

"เดิมประเทศนิวซีแลนด์มีจุดเด่นคือเรื่องฟาร์มเกษตร หลายปีที่ผ่านมาทางเราจึงพยายามเพิ่มมูลค่าทางการค้าและตัวสินค้าซึ่งทำให้นิวซีแลนด์มีการพัฒนาหลายด้านจึงถึงเวลาที่เราจะต้องเปิดตัวเองให้นานาประเทศรู้จักเรามากกว่าเป็นแค่ประเทศทสีเขียว สะอาดบริสุทธิ์" โจกล่าว

นิวซีแลนด์ลงทุนซอฟแวร์ในไทย

อย่างไรก็ตามการลงทุนของประเทศนิวซีแลนด์ในเมืองไทยเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นจากการเปิดการค้าเสรีระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ หรือ CEP Closer economics 's partner ซึ่งจากเดิมการลงทุนจากทางนิวซีแลนด์ในไทยจะเป็นไปในรูปแบบของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แต่เมื่อมีการเปิดประตูด้านการค้าการลงทุนทำให้บริษัทซอฟแวร์และบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศให้ความสนใจมากขึ้น

ทั้งนี้เพราะนิวซีแลนด์มองไทยจะเป็นฐานการลงทุนทางด้านบริษัทซอฟต์แวร์แหล่งใหม่ ซึ่งจะเป็นการ Joint Venture ระหว่างบริษัท นิวซีแลนด์และไทย หรือทางนิวซีแลนด์จะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตซอฟแวร์ในเมืองไทย ซึ่งทั้ง 2 ทางเลือกก็จะเป็นไปได้ทั้งหมดในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะที่ผ่านมานิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในด้านการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีซอฟแวร์จากผลงานภาพยนตร์ Lord of the ring ซึ่งทางทีมงานใช้เทคโนโลยีซอฟแวร์จากประเทศนิวซีแลนด์ทั้งหมด ทั้งนี้ธุรกิจซอฟแวร์ของนิวซีแลนด์มีกลุ่มลูกค้าในรูปแบบของ ตลาด Niche market จะแตกต่างจากตลาดของประเทศอินเดีย

นอกจากนั้นการเข้ามาลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในไทยของบ.นิวซีแลนด์จะเป็นเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยี GPRS ซึ่งทางนิวซีแลนด์มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษใช้ในธุรกิจการประมงในประเทศ ซึ่งทางบริษัทนิวซีแลนด์ต้องการที่จะเข้ามาเป็นผู้ให้บริการด้านระบบ GPRS ในเมืองไทย อีกด้วย ปัจจุบันได้เข้ามาแล้วคือบริษัท TAIT จัดทำระบบวิทยุในรถแท็กซี่ที่วิ่งในกรุงเทพฯ เป็นต้น

นอกจากนี้ธุรกิจ SMEs ทางนิวซีแลนด์ก็ให้ความสนใจในการเข้ามาเป็นผู้ให้เทคโนโลยีให้กับเมืองไทยในการถนอมอาหารและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหาร โดยที่ผ่านมามีการ Joint venture ระหว่างบริษัทแห่งหนึ่งในไทยและนิวซีแลนด์ในการทำ พุดดิ้งข้าว ส่งออกไปนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ส่วนรูปแบบการลงทุนต่อไปก็คือ บริษัทนิวซีแลนด์จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทการเกษตรรายย่อยในไทยเพื่อปรับปรุงสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น เพราะนิวซีแลนด์มีเทคโนโลยี และไทยมีวัตถุดิบ จึงเป็นการจับคู่ที่ลงตัวในอนาคต

นอกจากไทยจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้แล้ว สินค้าเกษตรของเมืองไทยจะเข้าประเทศนิวซีแลนด์ได้มากขึ้น ซึ่งมาตรฐานการนำเข้าสินค้าของนิวซีแลนด์นั้นค่อนข้างสูง หากไทยสามารถมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ผัก และผลไม้ ได้ตรงตามมาตรฐานของนิวซีแลนด์ การส่งผัก และผลไม้ไปสู่นิวซีแลนด์จะง่ายขึ้นด้วย

โอกาสทองไทยส่งผลไม้เข้านิวซีแลนด์

ฑูตพาณิชย์นิวซีแลนด์ กล่าวอีกว่า โอกาสดีของผู้ประกอบการส่งออกสินค้าผักและผลไม้ไทยอย่างมาก เนื่องเพราะนิวซีแลนด์ไม่มีผลไม้เมืองร้อน โดยเฉพาะ มังคุด และ มะม่วง ล้วนเป็นผลไม้ที่คนนิวซีแลนด์ชื่นชอบ ยิ่งไทยได้รับการปรับปรุงคุณภาพผลไม้ให้ตรงตามกฏเกณฑ์ของนิวซีแลนด์ด้วยแล้ว การส่งออกสินค้าเกษตรเมืองร้อนจากเมืองไทยไปนิวซีแลนด์ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งโอกาสในการเป็นศูนย์กระจายสินค้าและร้านอาหารไทยในประเทศนิวซีแลนด์ ก็ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย

ทั้งนี้เพราะนิวซีแลนด์มีนโยบายที่จะบุกด้านการศึกษา โดยจะดึงนักเรียน นักศึกษา มาศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์มากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโควต้าให้กับนักเรียน นักศึกษาไทยได้เข้าไปทำงานและเรียนในนิวซีแลนด์ได้ 100 คน / ปี ซึ่งจะทำให้มีอัตราส่วนคนไทยในนิวซีแลนด์มากขึ้น อีกทั้งถ้าต้องการศึกษาปริญญาเอกในนิวซีแลนด์ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จึงคาดว่าใน 20 ปี จะมีนักศึกษาเอเชียในนิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 50,000- 180,000 คน

"นี่เป็นโอกาสของผู้ลงทุนชาวไทยเข้ามาลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าไทยในนิวซีแลนด์ เพราะต่อไปนี้จะมีคนเอเชียเข้ามาในนิวซีแลนด์มากขึ้น จากการกระตุ้นด้านการศึกษาสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศเอเชีย จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นไปด้วย" ฑูตพาณิชย์ นิวซีแลนด์กล่าว

สำหรับด้านการลงทุนในด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้างนั้น โจ มองว่า ปัจจุบันนี้ทางนิวซีแลนด์มีบริษัทก่อสร้างที่เพียงพอแล้ว แต่ถ้านักลงทุนรายใดอยากจะเข้ามาลงทุนในนิวซีแลนด์ ก็ต้องมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งต้องสอดรับกับเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานที่มีอยู่เดิมของนิวซีแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนหลัง เป็นต้น

นิวซีแลนด์เร่งส่งออกสินค้าเข้าไทย

อย่างไรก็ตาม แม้ทางนิวซีแลนด์จะเปิดโอกาสทองให้กับไทยให้เข้าไปลงทุน แต่ทางนิวซีแลนด์ก็มองว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทางนิวซีแลนด์จะเข้ามาตีตลาดสินค้าประเภท ไวน์ อาหารทะเล ผลไม้ นม ผล และชีส ในไทยเช่นกัน ขณะนี้ทางนิวซีแลนด์ได้เข้าไปติดต่อกับห้างสรรพสินค้า TOP เพื่อนำสินค้านิวซีแลนดืเข้าไปวางขายในห้างสรรพสินค้าเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้นยังได้เร่งสร้างสายสัมพันธ์กับทางโรงแรม 5 ดาวในการนำเข้าสินค้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เช่น โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมในเครือเซ็นทรัล และ โรงแรม เชราตัน อีกทั้งยังมีบริษัททางการศึกษา ด้าน e learning 3 บริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุนสร้างระบบการศึกษาในเมืองไทยให้สามารถเรียนทางอินเตอณืเน็ทได้ ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาในเมืองไทยใน ปี 2550 ที่จะถึงนี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.