|
ไออีซีโฟกัส "แอลจี" เพิ่มหลังควบขายเครื่อง+ซ่อม
ผู้จัดการรายสัปดาห์(24 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ไออีซียังรุกหนักธุรกิจมือถือต่อ เทงบกว่า 100 ล้านบาทปรับปรุงระบบไอที หวังดันยอดโต 50% ด้วยการมขยายช่องทางจำหน่ายมือถืออีก 200 แห่งทั่วประเทศ ปีนี้เน้นทำตลาดมือถือ "แอลจี" เพิ่ม ภายหลังจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นช่องทางขายและศูนย์ซ่อม
บี เตชะอุบล กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือไออีซีกล่าวถึงแนวทางทำธุรกิจของไออีซีในปีนี้ว่า บริษัทยังเน้น 4 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจวิศวกรรม ธุรกิจไอซีทีและธุรกิจพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นแผนในอนาคตที่ทางบริษัทฯ กำลังศึกษารายละเอียด แต่คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ผลดำเนินงานของธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปีที่ผ่านมานั้น ไออีซี มีรายได้ในส่วนธุรกิจมือถือประมาณ 5,200 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 10% จากยอดขายเครื่องลูกข่าย 6-7 แสนเครื่อง ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 7 พันล้านบาท ด้วยเป้าหมายยอดขายเครื่องลูกข่ายประมาณ 1.1 ล้านเครื่องหรือมีอัตราเติบโตขึ้นประมาณกว่า 30%
"ปีนี้จะยังคงตั้งเป้าผลักดันธุรกิจสื่อสารให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่อีก 200 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 240 แห่ง เพื่อให้คลอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ส่วนธุรกิจค้าส่ง ปัจจุบันบริษัทเข้าถึงผู้ค้า หรือดีลเลอร์ทั่วประเทศคลอบคลุมแล้วกว่า 70%
อีกทั้งบริษัทจะทำการปรับปรุงร้านค้าต่างๆ ของ Mobile Easy ให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละร้านจะสามารถรองรับการจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกยี่ห้อ อาทิ โนเกีย ซัมซุง โมโตโรล่า โซนี่ อีริคสัน แอลจี เบนคิว ไอ-โมบาย
"ปัจจุบันบริษัทมียอดจำหน่ายมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์โนเกีย 40% โมโตโรล่า 30%,ไอ-โมบาย 18%,แอลจี 10%, และแบรนด์อื่นๆอีก 12%"
บี เตชะอุบลยังบอกอีกว่า ปีนี้เราจะโฟกัสแบรนด์แอลจีมากยิ่งขึ้น โดยทางบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ ของแอลจีจากบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงการเป็นจุดรับซ่อมมือถือของแอลจีอีกด้วย โดยในปีนี้ทางบริษัทได้ขยายจุด drop point ตามร้าน Mobile Easy ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องส่งเครื่องไปซ่อมที่ IEC Easy Fix อีกต่อไป
ซอง นัก กิล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลขี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดได้กล่าวว่า การทำตลาดในแต่ละผลิตภัณฑ์ของแอลจีจะคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลักตามนโยบายของบริษัท
"กลยุทธ์ใดๆ ที่นำมาใช้ต้องมีจุดเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยนำผู้บริโภคมาเป็นศูนย์กลางและมองถึงความต้องการเป็นที่ตั้งเพื่อเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในระดับสากล"
ซอง นัก กิลยังบอกอีกว่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือนั้น ที่ผ่านมาแม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จเหมือนในหลายๆ ประเทศ แต่ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับตัวผลิตภัณฑ์แล้วถือว่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มาเพิ่มประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือให้ทำงานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงความโดดเด่นในการออกแบบที่ล้ำสมัย
"นอกจากตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกระจายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มือถือของแอลจีไปสู่ผู้บริโภคคนไทย ทางบริษัทฯ จึงได้มอบหมายให้ไออีซีเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของแอลจีอีกรายและยังรวมถึงความร่วมมือในด้านบริการหลังการขายอีกด้วย
บี เตชะอุบลยังบอกอีกว่า ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงธุรกิจสื่อสารอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการลงทุนปรับปรุงระบบไอทีของบริษัทให้เป็นโซลูชั่นเฉพาะของไออีซีขึ้นมาเพื่อช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในงานโอเปอเรชั่นภายในของบริษัทให้ลดลง โดยเราได้ลงทุนในในส่วนไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาท"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|