|
อานิสงส์รายได้งานมอเตอร์โชว์พุ่ง ดันPICOโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า15%
ผู้จัดการรายวัน(20 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
PICO มั่นใจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% ชี้รายได้จากจัดงานบางกอกมอเตอร์โชว์พุ่ง แถมยังมีงาน เผยผลงานไตรมาส 2 สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปี 48 แจงการร่วมลงทุนกับพันธมิตรสองราย เพื่อหวังผลกำไรและหนุนประโยชน์ต่อการดำเนินงานในอนาคต และจะมีการเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมลงทุนเร็ว ๆ นี้
นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO เปิดเผยว่าผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ที่กำลังจะปิดงบลงนั้นแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 2 ของปี 48 เนื่องจากผลดีจากการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าปีนี้ภาพรวมของเศรษฐกิจจะหนักกว่าปีที่ผ่านมา
“แต่ตัวเลขรายได้จากงานบางกอกมอร์เตอร์โชว์ของเราปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา 10-15% ถือว่าโชคดีมากเพราะเราเองก็หวั่นในตอนแรกเหมือนกัน เนื่องจากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาและงานจบลง กลับพบว่าดีกว่าที่เราคิด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลงานในไตรมาส 2 ของเราที่กำลังจะปิดงบตัวเลขที่ชัดเจนคงต้องรอสิ้นเดือนนี้ก่อน ” นายพิเสฐกล่าว
โดยปีนี้ PICO ยังมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาทั้ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 15% และในฐานะบริษัทดำเนินการธุรกิจด้านแบรนด์อิมเมจ ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการตลาดของลูกค้า และงานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ PICO เป็นผู้นำรายใหญ่ที่สุดในการสร้างแบรนด์อิมเมจการตลาดให้กับกลุ่มบริษัทยานยนต์ชั้นนำระดับโลกหลายราย อันแสดงให้เห็นถึงการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเหมือนที่ผ่านมาและต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการดำเนินงานที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้มากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งจากงานบางกอกมอเตอร์โชว์ งานนิทรรศการกึ่งถาวรและพิพิธภัณฑ์ งานธุรกิจออกแบบและเช่าอุปกรณ์ส่งเสริมการตลาดอื่น ๆ เป็นต้น และในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจนี้ ทำให้ PICO มั่นใจว่าผลงานน่าจะเติบโตได้ตามลำดับ
ปัจจุบัน สัดส่วนของรายได้ส่วนใหญ่ของ PICO มาจากลูกค้ากลุ่มรถยนต์ 50% รัฐบาล ,รัฐวิสาหกิจ และเอกชน 10% สื่อสาร การเงินและการธนาคาร 30% และอื่น ๆ อีก 10% ซึ่งบริษัทก็ยังจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยให้ได้ในระดับที่เคยทำไว้ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้บริษัทยังมีงานที่เข้าร่วมประมูลและรอผลการพิจารณาอีกด้วย
นายพิเสฐกล่าวถึงการเข้าลงทุนกับบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อตั้ง บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่น จำกัด โดยถือ 40% ซึ่งการจัดตั้งบริษัทนี้ เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการแสดงสินค้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะเป็นการนำประสบการณ์และความชำนาญของผู้ถือหุ้นทุกฝ่ายมารวมและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันโดยเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Niche market)
ส่วนการลงทุนใน บริษัท ไอบริก จำกัด ซึ่งบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการแสดงสินค้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ด้วยสัดส่วนการลงทุน 39% ตามลำดับ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการสร้างพันธมิตรในการทำธุรกิจ หวังผลการกำไรและเงินปันผลจากการลงทุน ที่สำคัญจะทำให้บริษัทได้มีงานเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการรับงานของพันธมิตรทั้งสองราย โดย PICO มีโอกาสที่จะทำหน้าที่ในการจัดบูธในงานของทั้งสองลักษณะคืองานนิทรรศการและงานแสดงต่าง ๆ ตลอดจนงานสาธารณะต่างๆ ตามแนวทางของสองบริษัทร่วมทุนดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน
โดยการร่วมลงทุนในบริษัททั้งสองแห่ง PICO หวังที่จะได้รับผลตอบแทนในเรื่องงานต่าง ๆ ในอนาคตระยะ 1-2 ปี จึงจะเห็นผลที่จะได้ทำงานต่อเนื่องร่วมกัน เป็นการซัพพอร์ตการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตด้วย สำหรับผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีนั้น ยังเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่เชื่อว่าน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งการร่วมลงทุนที่เกิดขึ้นพันธมิตรทั้งสองรายจะเปิดแถลงข่าวในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตามผลงานงวดปี 48 PICO ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 31 สตางค์ ซึ่งได้จ่ายไปแล้วเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.02 ล้านบาทหรือ 0.13 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.50 ล้านบาทหรือ 0.12 บาทต่อหุ้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|