|
ตลท.ชี้ปี48บจ.จ่ายภาษีกว่า7หมื่นล.
ผู้จัดการรายวัน(17 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยปี 48 บริษัทจดทะเบียนจำนวน 504 บริษัทจ่ายภาษีสูงกว่า 7 หมื่นล้านบาท "โสภาวดี"เผยต้นทุนการระดมทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนตั้งแต่ปี 47 ถึงส.ค.48 เฉลี่ยประมาณ 26 ล้านบาท ระบุมีบริษัทที่มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี อีก 33 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จำนวน 12 บริษัท
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2548 ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือ SETและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอหรือ mai รวมมูลค่า 71,082 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 140 ล้านบาทต่อบริษัท โดยบริษัทจดทะเบียน 504 บริษัท เสียภาษีคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงประมาณ 20% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งระบบซึ่งมีจำนวนนิติบุคคลรวมประมาณ 260,000 บริษัท
ทั้งนี้บริษัทที่เข้าจดทะเบียนระหว่างปี 2544 – 2548 เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่เข้าจดทะเบียนถึงปี 2548 รวมมูลค่า 55,152 ล้านบาท
โดยหากเปรียบเทียบจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทจดทะเบียนกับจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลของนิติบุคคลทั้งระบบในช่วงปี 2544 – 2547 แล้วพบว่าบริษัทจดทะเบียนเสียภาษีโดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 45% ในขณะที่นิติบุคคลทั่วไปมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 16%
อย่างไรก็ตามภาครัฐสามารถเก็บภาษีได้ในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ภาครัฐมอบให้แก่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เสียภาษีในอัตรา 25% และ 20% ตามลำดับ ในขณะที่บริษัทนอกตลาดเสียภาษีในอัตรา 30%
จากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทสนใจเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงตั้งแต่เดือนกันยายน 2544 ถึง ไตรมาสแรก ปี 2549 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีรวมทั้งสิ้น 160 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 117 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 43 บริษัท
ในส่วนของบริษัทที่มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากได้ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนภายในปี 2548 จำนวน 33 บริษัทแบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอจำนวน 12 บริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทเหล่านี้จะต้องดำเนินการเข้าซื้อขายให้ทันในปี 2549 ซึ่งในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติคำขอแล้วจำนวน 11 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอจำนวน 4 บริษัท
ประธานศูนย์ระดมทุนกล่าวต่อว่า ยังมีบริษัทซึ่งแสดงความสนใจจะเข้าจดทะเบียน เนื่องจากต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปี 2549 อีกจำนวน 120 บริษัท เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับมีส่วนช่วยชดเชยภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้จากการรวบรวมต้นทุนในการระดมทุนของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปี 2547 ถึง เดือนสิงหาคม 2548 จำนวน 74 บริษัท พบว่าบริษัทมีต้นทุนในการระดมทุนเฉลี่ยประมาณ 26 ล้านบาทต่อบริษัท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|