ดิจิตอลอิมเมจจิ้นโซลูชั่นไม้เด็ดกล้องดิจิตอลแคนนอน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดกล้องดิจิตอลไทยเพิ่มองศาร้อนครั้งใหม่ ด้วยการประกาศภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของ "แคนนอน" โฟกัสนำเสนอ "ดิจิตอลอิมเมจจินโซลูชั่น" ตอบสนองความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ด้วยความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งขันในตลาด ลงลึกกิจกรรมทางการตลาดทั้งแบบ above-the-line และ below-the-line เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้สัมผัสกับเทคโนโลยีของแคนนอนอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

"ปีนี้จะเห็นภาพลักษณ์ของกล้องดิจิตอลแคนนอนในมุ่งมองที่แตกต่างไปบนพื้นที่ใหม่ที่เราสร้างขึ้น เรียกว่าดิจิตอลอิมเมจจิ้นโซลูชั่น" เป็นคำกล่าวของ วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Consumer Imaging and Information บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเพิ่งจะเข้ามาดูแลธุรกิจกล้องดิจิตอล หลังจากที่แคนนอนมีการรวมธุรกิจสองแผนกเข้าด้วยกันคือพรินเตอร์และกล้องดิจิตอล เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น

ภายใต้การนำเสนอดิจิตอลอิมเมจจิ้นโซลูชั่นของแคนนอนนั้น จะมีการเน้นกิจกรรมโรดโชว์ไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยการนำเสนอจุดเด่นที่เป็นจุดแตกต่างของแคนนอนกับคู่แข่งขันในตลาด รวมทั้งสาธิตเทคโนโลยีของแคนนอนให้กับผู้ใช้กล้องดิจิตอลได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพต่างๆ

แคนนอนจะเน้นที่กิจกรรมการตลาดทั้งแบบ above-the-line และ below-the-line ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ และอีเวนต์ต่างๆ การอบรมการใช้กับผู้ซื้อโดยตรง ด้วยแคมเปญที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด

นอกจากนี้ยังส่งเสริมเครือข่ายการจัดจำหน่ายด้วยการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำที่มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี ณ ร้านค้าตัวแทนและจุดขายต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ชัดเจนที่สุด

"เราจะเพิ่มความถี่ของการโรดโชว์ในช่วง 2-3 เดือนนี้กว่า 40 กิจกรรมด้วยงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท เพื่อให้เทคโนโลยีของแคนนอนที่ซ้อนอยู่ในกล้องดิจิตอลเป็นที่รับรู้ในกลุ่มผู้ใช้งานว่ามีไฮไลท์อย่างไรบ้าง"

ล่าสุดแคนนอนได้มีการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดพร้อมกันถึง 7 รุ่น วรินทร์ กล่าวว่าแคนนอนต้องการที่จะสร้างสีสันให้ตลาดโดยการนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกความต้องการ

รวมทั้งเป็นการเน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพ ด้วยชิปประมวลภาพ Digic ที่มีประสิทธิภาพเคียงคู่กับดีไซน์ล้ำสมัย รูปทรงที่กระชับมือ ฟังก์ชั่นที่ครบครัน ใช้งานง่าย และสะดวกด้วยคำสั่งภาษาไทย

กล้องดิจิตอลแคนนอนใหม่ทั้ง 7 รุ่น ประกอบด้วย Canon IXUS 3 รุ่น ได้แก่ IXUS 800 IS, IXUS 65, IXUS 60 และ Canon PowerShot 4 รุ่น ได้แก่ PowerShot A700, PowerShot A540, PowerShot A530 และ PowerShot A430 กล้องทุกรุ่นได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของแคนนอน

กล้องดิจิตอลแคนนอนทั้ง 7 รุ่นมีฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็นครั้งแกรในกลุ่มของกล้องคอมแพค คือโหมดถ่ายภาพแบบไวด์สกรีน 16:9 ทำให้สามารถถ่ายภาพมุมกว้างแบบพาโนรามาได้ดีเยี่ยม และยังสามารถชมภาพถ่ายผ่านจอโทรทัศน์ซึ่งแสดงผลหน้าจอแบบ 4:3 ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วไป

กล้องทุกรุ่นได้ใช้ชิปประมวลผลภาพ DIDIC II เทคโนโลยีเฉพาะของแคนนอน ซึ่งสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสมจริงเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังช่วยให้เปิดกล้องและพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญช่วยแบตเตอรี่มากขึ้น

วรินทร์ กล่าวว่ากล้องดิจิตอลแคนนอนยังมีฟังก์ชั่น My Colors แบบใหม่ สามารถปรับต่างสีภาพได้ภายในตัวกล้อง หลังจากถ่ายภาพแล้ว โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จึงสามารถปรับแต่งภาพและสั่งพิมพ์ภาพได้โดยตรงจากตัวกล้อง

และกล้องดิจิตอลทั้ง 7 รุ่นสามารถเชื่อมต่อตรงกับเครื่องพิมพ์ Canon CP เครื่องพิมพ์ Bubble Jet หรือเครื่องพิมพ์ที่มีระบบ PictBridge ผ่านพอร์ต USB2.0 ความเร็วสูง เพื่อสั่งพิมพ์ภาพถ่ายได้โดยไม่ต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์

"กลยุทธ์ต่อไปของแคนนอนในการนำเสนอเรื่องของดิจิตอลอิมเมจจิ้นโซลูชั่น แคนนอนอาจจะมีการนำเสนอสองผลิตภัณฑ์ขายพร้อมกัน คือกล้องดิจิตอลและเครื่องพิมพ์ แคนนอนถือเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีทั้งสองอย่าง"

วรินทร์ กล่าวว่าการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ทั้ง 7 รุ่นนี้จะสามารถสร้างยอดขายแคนนอนให้เติบโตขึ้นอีก 50% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว หรือประมาณ 130,000 เครื่อง ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด แคนนอนมั่นใจว่าด้วยตัวเลขดังกล่าวจะทำให้แคนนอนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับสองในตลาดกล้องดิจิตอลของเมืองไทยได้

สำหรับการคาดการณ์ตลาดลกล้องดิจิตอลในเมืองไทยนั้น วรินทร์ กล่าว่าตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทยจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายคนจะมองว่าตลาดกล้องดิจิตอลมีการชะลอตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีตลาดที่ผู้ใช้ใหม่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าในปี 2549 จะมีอัตราการเติบโตโดยรวมอีกว่า 30-35%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.