|

คาเนโบงัดซีอาร์เอ็มชูBAมัดใจผู้บริโภค
ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
คาเนโบเดินหน้าปั๊มยอด ชูกลยุทธ์ซีอาร์เอ็มเน้นพัฒนา BA เป็นหมัดเด็ดมัดใจสมาชิก พร้อมเร่งปรับเคาเตอร์สร้างอิมเมจให้แบรนด์ต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้ขยับขึ้น 15%
สมรภูมิธุรกิจเครื่องสำอางในไทยนับว่ายังมีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ทว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่ยังมีอัตราการเติบโตทุกปีต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 10 - 15% ขณะที่ธุรกิจอื่นอาจอยู่ในภาวะทรงตัวหรือมีการเติบโตลดลง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เชิญชวนให้ทั้งเครื่องสำอางอินเตอร์แบรนด์ หรือแม้แต่โลคัแบรนด์ทยอยเปิดตัวไม่ขาดสาย
สำหรับ คาเนโบนับเป็นอินเตอร์แบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในไทยจนเป็นที่รู้จักและได้การตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันค่ายคาโอจะเข้าซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม ทว่า คาเนโบก็ยังเดินหน้าเพื่อรักษาและขยายฐานสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็มเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สานต่อจากปีก่อน
"ในปีนี้บริษัทจะเน้นใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็มเหมือนปีก่อน เช่น การให้บริการ การส่งข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ การให้สิทธิพิเศษกสำหรับสมาชิก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว" แหล่งข่าวจาก บริษัท คาเนโบ คอสเมติค (ประเทศไทย) กล่าวกับ "ผู้จัดการ รายสัปดาห์"
ทั้งนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับพนักงานขาย (BA) รองจากการพัฒนาคุณภาพสินค้า เนื่องจากพนักงานขายจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก โดยผลจาการสำรวจ พบว่า นอกเหนือจากการจัดโปรโมชั่น หรือสินค้าที่ใช้อยู่หมด ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อได้รองลงมา คือ การเชิญชวนของพนักงานขาย ดังนั้น คาเนโบจึงให้น้ำหนักกับการอบรมพนักงาน เฉลี่ยปีละประมาณ 6 ครั้ง เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญในด้านสินค้า และสามารถนำเสนอได้อย่างถูกต้องและตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด
"พนักงานขายมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะบางครั้งลูกค้ายังไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์เดี๋ยวนั้น แต่ถ้าพนักงานของเราสามารถนำเสนอได้ตรงใจลูกค้า ก็อาจโน้มน้าวให้เกิดความถี่การซื้อได้มากกว่าปกติ เช่น กลุ่มสกินแคร์จากปกติมีการซื้อเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง รวมทั้งตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเมคอัพที่ลูกค้าจะมีความภักดีต่อแบรนด์น้อย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ขายความเป็นแฟชั่น โดยพบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคมีการใช้เมคอัพมากกว่า 1 ยี่ห้อ"
พร้อมกันนี้ บริษัทจะทำการปรับปรุงเคาน์เตอร์เพิ่มอีก 3 แห่ง จากทั้งหมด 83 แห่งทั่วประเทศ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้งบลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทยอยปรับต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำการปรับปรุงไปแล้ว เช่น ดิ เอ็มโพเรียม โดยมีเซ็นทรัล ชิดลมเป็นสาขาต้นแบบ ทั้งนี้เพื่อให้คาเนโบมีภาพลักษณ์ที่เป็นพรีเมียมและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการจัดโปรโมชั่นและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Blanchir และ Sensai ในปีนี้ด้วย ทั้งนี้จากการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10 - 15% โดยแบ่งเป็นกลุ่มสกินแคร์ ประมาณ 70% และเมคอัพ 30%
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|