ธปท.เล็งปรับดบ.อีกรอบ แบงก์แห่ขยับขึ้นตามคาด


ผู้จัดการรายวัน(12 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์ชาติ จับตาเงินเฟ้อก่อนตัดสินใจปรับดอกเบี้ย นโยบายอีกรอบ ด้านแบงก์พาณิชย์ แห่ปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้และฝากตาม 0.25-0.5% ทหารไทยขึ้นขาเดียวปรับดอกเบี้ยกู้ 0.25% ฝั่งเงินฝากรอดูจังหวะ เชื่อ ธปท.น่าจะขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากอีกแค่ครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นภาคการส่งออกจะกระทบ หากบาทแข็งค่ามากๆ ด้านกสิกรไทย-กรุงศรีอยุธยา-นครหลวงไทย ขยับตาม แบงก์กรุงเทพ-กรุงไทย รอพิจารณาหลังสงกรานต์

นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธปท.ฝ่ายเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นอัตราดอก-เบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรอายุ 14 วันเพิ่มขึ้นอีก 0.25% เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับดอกเบี้ยขึ้นตามนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติ แต่การขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ คงจะต้องรอดูอัตราเงินเฟ้อลดลงได้เร็วแค่ไหน โดยพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนว่าจะอยู่ในระดับใด แต่คาดว่าจะเริ่มลดลงได้เร็วเพราะฐานของอัตราเงินเฟ้อในปีที่ผ่านมาไตรมาส ที่ 2 อยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราการ เพิ่มของเงินเฟ้อในไตรมาส 2 น่าจะ ต่ำลงได้

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้า-หน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยตาม ในส่วนของเงินกู้ โดยจะปรับขึ้นอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลูกค้า รายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 7.50% เป็น 7.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.75% เป็น 8.00% และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 8.00% เป็น 8.25% โดยจะมีผลในวันที่ 12 เมษายน 2549 นี้ ส่วนด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขณะนี้ธนาคารยังไม่พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามคงจะรอดูสถานการณ์ในอาทิตย์หน้า

สำหรับด้านทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า ธปท.น่าจะมีการปรับดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในส่วนของเฟดเองก็น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย R/P 14 วัน อีก 0.25% ในวันที่ 7 มิถุนายน 2549 นี้ ธปท.เองก็จะคงปรับขึ้นตามเฟดเพื่อรักษาช่วงห่างระดับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายเพราะอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง และการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจะกระทบต่อค่าเงินบาทซึ่งขณะนี้ค่าเงินบาทก็แข็งค่ามากขึ้นแล้วจากทั้งปัจจัยภายในที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีและปัจจัยภายนอกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากๆจะกระทบต่อภาคการส่งออก อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากลางปีนี้น่าจะมีการหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ด้านธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกูขึ้นอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 7.25% เป็น 7.50% ส่วนอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.50% เป็น 7.75% และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 7.75% เป็น 8.00% ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปรับขึ้น 0.25 - 0.50 ตามวงเงินฝากและระยะเวลา โดยจะมีผลในวันพรุ่งนี้ (12 เมษายน 2549)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อการเคหะใหม่ โดยแบบที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี อยู่ที่ 4.50% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยอิงกับดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา ซึ่งจากเดิมธนาคารกำหนดที่ปีแรก อัตราดอกเบี้ย 4.50% หลังจากนั้นคิดMLR-0.50% ตลอดอายุสัญญา ส่วนลูกค้า โครงการพิเศษของธนาคาร อัตราดอกเบี้ยปรับเป็น คงที่ 1 ปีแรกคิด 4.0% หลังจากนั้นคิด MLR-0.75% ตลอดอายุสัญญา และลูกค้าโครงการปกติอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.50% หลังจากนั้นคิด MLR-0.25% ตลอดอายุสัญญา

ส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้นคณะกรรมการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% ทั้งเงินฝากและเงินกู้ คาดว่าจะทราบรายละเอียดภายในวันนี้ (12 เมษายน 2549)

นายระเฑียร ศรีมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันนี้ (12 เม.ย ) ธนาคารจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ซึ่งจะมีการปรับขึ้นเท่าไรคงจะต้องมีการประชุมกันก่อน แต่การปรับขึ้นจะมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2549 ซึ่งแนวโน้มทิศทาง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของธนาคารน่าจะที่จะปรับขึ้นตามธนาคารอื่นๆ

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของธนาคารว่า ธนาคารจะพิจารณาในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ผ่านไปแล้ว โดยในวันนี้ธนาคารยังไม่พิจารณา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำอายุ 10 เดือน ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในธนาคารบ้างแล้ว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากการที่ธนาคารไทยพาณิชย์มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วนั้น ในส่วนของธนาคารยังไม่มีการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยตามเนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องของธนาคารยังอยู่ในระดับที่สูง แต่หากแบงก์ใหญ่มีการปรับขึ้นธนาคารก็จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยรอดูสถานการณ์หลังสงกรานต์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.