นักลงทุนหวั่นไอทีวีแพ้คดีทิ้งหุ้นรูด11%ขาใหญ่เย้ยตลท.ลากMMEวิ่งสวนตลาด


ผู้จัดการรายวัน(11 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้นไอทีวีราคารูดเกือบ 11% นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากกรณีศาลปกครองชี้ขาดให้จ่ายสัมปทานตามสัญญาเดิมในวันนี้ บล.พัฒนสิน ชี้นักลงทุนคาดไอทีวีแพ้จึงเทขายหนัก ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่เย้ยมาตรการตลาดหลักทรัพย์ ลากราคาหุ้นไมด้า-เมดดาลิสท์วิ่งแรง 10.59%%สวนภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ปรับตัวลดลงมาหนัก

การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV วานนี้(10 เม.ย.) ราคาเปิดมาที่ระดับ 9.40 บาท ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ระดับ 8.85 บาท แต่หลังจากนั้นได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและมาปิดที่ระดับ 9.10 บาท ลดลง 1.10 บาทหรือ 10.78% มูลค่าการซื้อขาย 211.72 ล้านบาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นไอทีวีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับกรณีที่ศาลปกครองจะมีการพิจารณาเรื่องค่าสัมปทานวันนี้ (11 เม.ย.) ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่าไอทีวีจะแพ้ในกรณีค่าสัมปทาน ซึ่งจะต้องมีการปรับผังรายการใหม่โดยเน้นในรายการที่มีสาระมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการดำเนินงานมากขึ้น และกระทบต่อผลกำไรลดลง อย่างไรก็ตามก็ต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองว่าจะตัดสินในวันนี้หรือจะไต่สวนและนัดตัดสินอีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า การปรับตัวลกลงของราคาหุ้น ITV เป็นเพราะนักลงทุนรอคำตัดสินของศาลปกครองในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องค่าสัมปทาน ซึ่งนักลงทุนคิดว่าศาลน่าจะให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือสปน .เป็นฝ่ายชนะ โดยหากไอทีวีแพ้คดีเรื่องการจ่ายค่าสัมปทาน จะทำให้ผลประกอบการจากที่มีกำไรอาจจะขาดทุนได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อนุญาโตตุลาการมีคำสั่งให้ ITV จ่ายค่าสัมปทานปีละ 230 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นบริษัทไอทีวีปรับตัวลดลงมาแรงเนื่องจากว่าในวันนี้ศาลปกครองจะมีอ่านคำพิพากษากรณีค่าสัมปทาน ดังนั้นนักลงทุนจึงเทขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงเพราะเกรงว่าถ้าศาลปกครองตัดสินให้จ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาเดิม โดยจ่ายขั้นต่ำในระดับ 1 พันล้านบาทต่อปีซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้เช่นกัน

ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้จำกัด(มหาชน)ได้ออกบทวิเคราะห์โดยมองใน 2 กรณีโดยกรณีแรกถ้าศาลปกครองยืนยันตามคำตัดสินเดิมของศาลชั้นต้นทุกอย่างจะเป็นไปตามการคาดการณ์เดิมโดยบริษัทไอทีวีจะยังคงเสียค่าสัมปทานที่อัตราเดิมคือขั้นต่ำ 230 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้บริษัทไอทีวีจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 799 ล้านบาทซึ่งจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 18% โดยราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 14.1 บาท

อย่างไรก็ตามในกรณีที่ศาลปกครองตัดสินให้จ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาเดิมคือขั้นต่ำ 1 พันล้านบาทต่อปี อาจจะเสียค่าสัมปทานย้อนหลังในปี 2547-2548 ที่ผ่านมาอีกประมาณ 1.6 พันล้านบาทโดยเบื้องต้นคาดว่าหากเป็นกรณีนี้บริษัทไอทีวีจะกลับเป็นขาดทุนทันที โดยในปีนี้มีโอกาสขาดทุนที่ 107 ล้านบาทโดยมูลค่าที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 1.5 บาท

ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ MME วานนี้เปิดมาที่ระดับ 33.25%

หลังจากนั้นก็ได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 39 บาทต่อมาก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาอ่อนตัวลงและมาปิดที่ 38 บาทเพิ่มขึ้น 3.75 บาทหรือ 10.95% มูลค่าการซื้อขาย 343.18 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ฯปรับตัวเพิ่มขึ้น สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวม เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะขยายระยะเวลาห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ชั่วคราวต่อไปอีก 60 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนถึง 6 กรกฎาคม 2549 ซึ่งการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงนั้นนักลงทุนไม่ควรที่จะแห่เข้าไปเก็งกำไรตาม เพราะถือว่ามีความเสี่ยง และนักลงทุนรายใหญ่ก็มีต้นทุนอยู่ในระดับต่ำ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.