สามยักษ์ขายตรงระเบิดศึกไตรมาส2


ผู้จัดการรายวัน(10 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดขายตรงไตรมาส 2 ปีนี้ร้อนรับการเมืองเดือดและเศรษฐกิจชะลอ ค่ายยักษ์ใหญ่งัดสารพัดกิจกรรมรับศึก “นู สกิน” อัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเต็มสูบตลอด 3 เดือน และเตรียมเปิดตัวโครงการใหญ่แห่งปี นำเข้าเครื่องสแกนเนอร์รุ่น2 กว่า 100 เครื่อง หวังดันยอดขายQ2 โต 5-10% ส่วนกิฟฟารีนกังวลวันหยุดยาวและเลือกตั้งส.ว.ฉุดธุรกิจร่วง เดินหน้าอัดโปรโมชั่นหลังเปิดสงกรานต์ ภายใต้งบตลาดรวมปีนี้ 80 ล้านบาท ด้าน “แอมเวย์” ส่งอาร์ทิสทรี สปริง คอลเลคชั่นลุยหน้าร้อน คาดยอดขาย 25 ล้านบาท และยอดขายอาร์ทิสทรีทั้งปีนี้ตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท

สถานการณ์เมืองและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมในหลายธุรกิจ แต่ในส่วนของธุรกิจขายตรงกลับไม่ได้รับผลกระทบมากนักในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา หลายบริษัทมียอดรายได้เติบโตตามเป้าหรือเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตลาดขายตรงหลายชั้นอย่างแอมเวย์, กิฟฟารีนและนู สกิน

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงไตรมาส 2 นี้มีทีท่าว่าตลาดจะมีการแข่งขันกันสูงอยู่ไม่น้อย จากการเคลื่อนไหวของบริษัทรายใหญ่และค่ายเล็ก โดยเป้าหมายหลักของการทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าและหวังกระตุ้นกำลังซื้อจากผู้บริโภคที่มีทีท่าว่าชะตัวลงและมีความรอบคอบในการใช้จ่ายมากขึ้น อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเมืองที่ยังไม่นิ่งอยู่ในขณะนี้

นู สกินอัดกิจกรรมดันยอดQ2 โต 5-10%

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทนู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงแผนการทำตลาดในช่วงไตรมาส 2 นี้ว่า นู สกินจะเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงมิถุนายน 2549 นี้ ภายใต้แนวคิดส่งเสริมเรื่องสุขภาพ

รวมถึงช่วงดังกล่าวจะมีการเปิดตัวโครงการใหญ่ของปีนี้ “สแกน ไทยแลนด์” ซึ่งจะมีการนำเข้าเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์รุ่นที่ 2 มาเปิดตัวกว่า 100 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีการทำอินเซนทีฟหรือการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้จำหน่ายอิสระในรูปแบบโปรแกรมใหม่ เป็นต้น

ทั้งนี้คาดว่ายอดขายของบริษัทฯในช่วงไตรมาส 2 จะมีอัตราการเติบโตได้ 5-10% ขณะที่ยอดรายได้ของนู สกินในช่วงไตรมาสแรกพบว่ามีการเติบโตเกินเป้าที่วางไว้หรือเติบโต 5% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่โตมาจากปัจจัยภายในบริษัทฯ เช่น แผนการตลาดและการเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นต้น

กิฟฟารีนหวั่นวันหยุด-เลือกตั้งส.ว.กระทบธุรกิจ

แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วงไตรมาส 2 นี้มีความกังวลเรื่องที่มีวันหยุดยาวในเดือนเมษายนนี้ และการเลือกตั้งส.ว.หรือสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 19 เมษายนที่จะถึงนี้ รวมถึงเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งแผนรองรับของบริษัทฯจะมีการแผนทำโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายหลังจากช่วงสงกรานต์สิ้นสุดลง ภายใต้งบการตลาดรวมทั้งปี 80 ล้านบาท

สำหรับยอดรายได้ของกิฟฟารีนในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ามีการเติบโต 10.5% เป็นเพราะการมีสินค้าใหม่เปิดตัวกว่า 20 รายการในช่วงเดือนมีนาคม อาทิ เจลอาบน้ำ,แชมพู และยาสีฟัน ฯลฯ และการทำตลาดฉลองที่กิฟฟารีนครบรอบ 10 ปี ขณะที่ยอดรายได้รวมทั้งปี 2549นี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายจะโตขึ้น 10%

แอมเวย์อัดกิจกรรมต่อเนื่องฉลองปีที่ 20

นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น “แอมเวย์” เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ของแอมเวย์จะยังคงใช้กลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่เน้นการทำตลาดและจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อฉลองที่ปีนี้แอมเวย์ย่างก้าวสู่ปีที่ 20 ขณะที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายดีและโตตามเป้า ถึงแม้ว่าไทยจะประสบปัญหาทั้งการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ตาม

ส่งสปริง คอลเลคชั่นลุยหน้าร้อน

ส่วนแผนการตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีในแต่ละปีบริษัทฯจะมีการเปิดตัวสินค้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี ล่าสุดในช่วงหน้าร้อนหรือซัมเมอร์ปีนี้ บริษัทฯได้เปิดตัวเครื่องสำอางอาร์ทิสทรีในกลุ่มสีสันใหม่ ภายใต้ชื่อ “สปริง คอลเลคชั่น 2006 ชุด แทร็งควิลิตี้ (Tranquility)” โดยได้ส่ง “อาย แอนด์ ชีค พาวเดอร์ ทินท์” ผลิตภัณฑ์เสริมแต่งความงามให้กับเปลือกตาและพวงแก้ม ซึ่งอยู่ในตลับเดียวกันมีให้เลือก 2 ชุด ในราคา1,450 บาท โดยเริ่มวางจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้แทร็งควิลิตี้ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อการแต่งแต้มริมฝีปาก “กลิสเทนนิ่ง ลิป คัลเลอร์” 2 เฉดสี ได้แก่ สีเบจและสีชมพูกลีบกุหลาบ โดยราคาสินค้าอยู่ที่ 595 บาท ปัจจุบันอาร์ทิสทรีมีสินค้าหลายกลุ่มและมีให้เลือกมากกว่า 200 รายการ ทั้งนี้คาดว่ายอดรายได้ของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะมีกว่า 25 ล้านบาท ขณะที่ยอดรายได้ของอาร์ทิสทรีสิ้นปีคาดว่าจะโตน้อยหรือยอดใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ 2,000 กว่าล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.