| |
SCIB รับสินเชื่อ Q1/49 ต่ำกว่าเป้ารอการเมืองนิ่งกลางปีประเมินใหม่
ผู้จัดการรายวัน(7 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แบงก์นครหลวงไทยรับสินเชื่อไตรมาสแรกปี 49 ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ในระดับ 10% หลังได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง ทำให้โครงการต่างๆชะลอการลงทุน รอกลางปีการเมืองนิ่งประเมินเป้าหมายอีกครั้ง พร้อมเตรียมเปิดบริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินสดด่วนส่วนบุคคล “Instant Scib CREDIT” และ “Instant SCIB VIP CREDIT” คาดมีลูกค้า 4-5 หมื่นรายในปีนี้
นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB เปิดเผยว่า ตัวเลขการขยายสินเชื่อของธนาคารในช่วงไตรมาสแรกปี 2549 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตน้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนในโครงการต่างๆ ลูกค้าที่จะเข้ามาขอสินเชื่อไปลงทุนในโครงการต่างๆก็ชะลอตามไปด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับเป้าสินเชื่อของบริษัทปีนี้ ดังนั้น ธนาคารจึงจะมีการประเมินเป้าหมายการปล่อยสินเชื่ออีกครั้งในช่วงกลางปี ซึ่งคาดว่าหลังสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น และธนาคารน่าจะปล่อยสินเชื่อได้มากกว่าในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไว้ในระดับ10%หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มียอดสินเชื่อ 230,000 ล้านบาท ขณะที่การประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในสัปดาห์หน้านั้น คาดว่าธปท.จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ของหลายฝ่าย เนื่องจากธปท.จะไม่จำเป็นต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากปัจจัยการเมือง จึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยเห็นได้จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท
“ถึงแม้การปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรกจะโตช้ากว่าที่คาดไว้ เพราะได้รับจากผลกระทบจากปัจจัยทางการเมืองทำให้ลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาขอสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนในโครงการต่างๆชะลอโครงการออกไป แต่ในส่วนลูกค้าเดิมก็ยังมีการเติบโตที่ดี ด้านเงินฝากมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธนาคารมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมา และก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จึงคาดว่าภาพรวมของธนาคารจะยังมีอัตราการเติบโตที่ดี”นายอรุณ กล่าว
นายสุจิน สุวรรณเกต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจบัตร ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ธนาคารจะมีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลในรูปแบบการอนุมัติวงเงินด่วน “Instant Credit” ที่เรียกว่า “Instant SCIB CREDIT” และ “Instant SCIB VIP CREDIT” ในวันที่ 17 เมษายนนี้ ซึ่งผู้สมัครใช้บริการสามารถทราบผลการอนุมัติอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรอรับบัตรสินเชื่อได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าจะมีลูกค้ามาใช้บริการ“Instant SCIB CREDIT” และ “Instant SCIB VIP CREDIT”ประมาณ 40,000-50,000 รายภายในปีนี้ โดยขณะนี้มีลูกค้ามาเริ่มเปิดใช้บริการแล้วจำนวน 3,000 รายภายในงานกาชาดที่ทางธนาคารได้ไปร่วมออกบูธ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมียอดการใช้สินเชื่อดังกล่าวเฉลี่ย 20,000 ราย หรือ 1,000 ล้านบาท ต่อปี
อนึ่ง บริการ Instant SCIB CREDIT เป็นสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีเงินเดือนประจำ 10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะได้รับวงเงินเบื้องต้นจำนวน 5,000 บาท จากวงเงินที่ได้รับอนุมัติสูงสุดของแต่ละรายไม่เกิน 200,000 บาท ส่วน Instant SCIB VIP CREDIT เป็นสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีเงินเดือนประจำ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน หรือข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีเงินเดือนประจำ 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะได้รับวงเงินเบื้องต้นจำนวน 10,000 บาท จากวงเงินที่จะได้รับพิจารณาอนุมัติสูงสุด 3 เท่าของเงินเดือนและแต่ละรายไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยลูกค้าสามารถใช้เบิกเงินสดจากเครื่องเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ของทุกธนาคารได้ทั่วประเทศ นับเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่เปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในรูปแบบการอนุมัติวงเงินด่วน
ขณะเดียวกันยังมีจุดเด่นในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บในอัตราพิเศษ โดย Instant SCIB VIP CREDIT คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) + ร้อยละ 10 ต่อปี ส่วน Instant SCIB CREDIT คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) + ร้อยละ 14 ต่อปี พร้อมทั้งยังมอบ สิทธิประโยชน์พิเศษให้กับผู้ใช้บริการโดยไม่เรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมแรกเข้าอัตราค่าธรรมเนียมรายปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระอีกด้วย รวมถึงสามารถชำระขั้นต่ำเพียง 5% ของยอดใช้จ่ายตามใบแจ้งยอดในแต่ละเดือน หรือจ่ายขั้นต่ำเพียง 500 บาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินของลูกค้าท่ามกลางภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงมากขึ้นในปัจจุบัน
“สำหรับแนวทางการขยายธุรกิจรายย่อยและการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารยังคงชูจุดเด่นในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างครบวงจร พร้อมทั้งการอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการในระดับแนวหน้า ตลอดจนสามารถแข่งขันการให้บริการในตลาดธุรกิจบัตรและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล”นายอรุณกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|