|
แฟรงค์ฯรุกหนักเพชรควบนาฬิกา คาดสิ้นปีถึงเป้าขายครบ10แบรนด์
ผู้จัดการรายวัน(7 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แฟรงค์ จิวเวลรี่เดินหน้าทำตลาดหนักทั้งเครื่องประดับเพชรและนาฬิกา ปีนี้มีแผนนำเข้านาฬิกา 2 แบรนด์ใหม่ เพื่อให้บรรลุเป้าที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายครบ 10 แบรนด์ ส่วนร้านแฟรงค์ จิวเวลรี่สาขาสยาม พารากอนล่าสุดที่เพิ่งเปิดไปเมื่อ 23 ก.พ. นี้ได้รับการตอบรับดีทั้งลูกค้าใหม่คนไทยและต่างชาติ สิ้นปีตั้งเป้ายอดขายรวมโต 10% ส่วนเรื่องการเมืองเชื่อว่ากระทบระยะสั้นเท่านั้น
นายชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์ ประธาน บริษัท แฟรงค์จิวเวลรี่ ครีเอชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาหลายแบรนด์ อาทิ อูโบลท์, เพียเจต์,บริเกต์,โอเมก้า เป็นต้น เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ของบริษัทฯจะทำตลาดควบคู่กันไปทั้งจิวเวลรี่หรือเครื่องประดับเพชรที่จะมีการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่อยู่ตลอดเวลา และในส่วนของนาฬิกาปีนี้มีแผนจะนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดอีก 2 แบรนด์ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาและคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญากันที่งานบาเซิลเวิลด์ 2006 ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้และคาดว่าจะมีการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ได้ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯที่ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำให้ครบ 10 แบรนด์ จากปัจจุบันมีอยู่ 8 แบรนด์ อาทิ อูโบลท์, เพียเจต์,บริเกต์,โอเมก้า และลองจิ้นส์ เป็นต้น
ปัจจุบันร้านแฟรงค์ จิวเวลรี่มีทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ที่เพนนินซูล่า พลาซ่า ,ดิ เอ็มโพเรียม และสาขาล่าสุดที่สยาม พารากอน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยสาขาใหม่นี้บริษัทฯได้ใช้งบลงทุนไปกว่า 200-300 ล้านบาท ในการตกแต่งร้านให้เป็นแบบบูติคที่สวยงามและต้องการให้สาขานี้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์นาฬิกาหรือที่รวบรวมนาฬิกาที่สมบูรณ์ โดยหลังการเปิดสาขาใหม่พบว่าได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าใหม่ทั้งคนไทยและต่างประเทศ
“แผนการตลาดในส่วนของสาขาใหม่ที่สยามพารากอน บริษัทฯจะเน้นการทำโปรโมชั่นและจัดกิจกรรมทุกเดือน ภายใต้งบการตลาด 10% ของยอดรายได้”
ล่าสุดในโอกาสที่นายฌ็อง คล็อด บีเวอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารนาฬิกาแบรนด์อูโบลท์เยือนประเทศไทยเพื่อแนะนำนาฬิกาอูโบลท์รุ่นบิ๊กแบงก์ ซึ่งได้รับรางวัลนาฬิกาสปอร์ตและดีไซน์โดดเด่นแห่งปีโดยในงานได้นำรถสปอร์ตจากอิตาลี 2 คัน ได้แก่ รถสปอร์ตลัมโบร์กินี่และรถมอเตอร์ไซต์ดูคาติมาร่วมจัดแสดง
ปัจจุบันนาฬิกาอูโบลท์ที่วางจำหน่ายในร้านแฟรงค์ฯ 5-6 คอลเลคชั่น โดยระดับราคาสินค้าจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนถึง 1 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นคนหนุ่มหรือนักธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง โดยนาฬิกาดูโบลท์กำลังเป็นที่นิยมในตลาดยุโรปและอเมริกา ในแต่ละปีจะมีกำลังผลิต 15,000 เรือน อนาคตคาดการณ์ว่าแบรนด์นี้จะโตปีละ 30%
ส่วนยอดรายได้ของบริษัทฯปีที่แล้วมีประมาณ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายนาฬิกากว่า 200 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทฯคาดว่ายอดรายได้จะโต 10% โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายนาฬิกาเดือนละ 30 เรือน
นายชัยยศ กล่าวด้วยว่า เรื่องการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนในระยะยาวเชื่อว่าธุรกิจยังคงไปได้ดีและตลาดนาฬิกาที่ผ่านมาก็มีอัตราการโตขึ้นทุกปี โดยสิ่งที่เป็นกังวลปีนี้อยากให้การเมืองเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว คนจะได้หันหน้ามาทำงานกันมากและจะทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งตรงนี้มองว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ได้และอยากให้เห็นใจนักธุรกิจและบ้านเมืองมากกว่า หากการค้าขายดี การส่งออกมีมากเศรษฐกิจในประเทศก็จะดีตาม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|