“แคนนอน”ปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมแผนกกล้องพรินเตอร์เป็นหนึ่ง

“แคนนอน”ปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมแผนกกล้องพรินเตอร์เป็นหนึ่ง

ผู้จัดการรายวัน(6 เมษายน 2549)

กลับสู่หน้าหลัก

แคนนอนปรับโครงสร้างองค์กรธุรกิจ โดยการรวมแผนกผลิตภัณฑ์กล้องกับพรินเตอร์เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อซีไอไอ ส่วนในไทยเตรียมประกาศอย่างเป็นทางการเม.ย.นี้ และมีแผนจะทำตลาดแบบขายพ่วงกล้องดิจิตอลกับพรินเตอร์ ล่าสุดส่งกล้องดิจิตอลใหม่ 7 รุ่นลงตลาด ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ตลาดกล้องดิจิตอลในปีหน้า

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิชย์ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายคอนซูเมอร์ อิมเมจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชัน (ซีไอไอ) บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า แคนนอนได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรทั่วโลก โดยรวมผลิตภัณฑ์ส่วนกล้องดิจิตอลและพรินเตอร์เป็นแผนกเดียว ภายใต้ชื่อซีไอไอ ส่วนชื่อภาษาไทยยังไม่มี และขณะนี้ในต่างประเทศเริ่มมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่แคนนอน ไทยแลนด์จะประกาศใช้ภายในเดือนเม.ย.นี้ การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นนโยบายของบริษัทแม่ เพราะเห็นว่าเป็นแนวโน้มที่กำลังมา และผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ส่วนสามารถทำตลาดควบคู่กันได้

สำหรับแคนนอน ไทยแลนด์ขณะนี้จะมีนายวรินทร์รับผิดชอบแผนซีไอไอในตำแหน่งผู้อำนวยการ และอยู่ระหว่างการดูแลผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอลแทนนายสุชาติ วนาพูนสุขที่ลาออกไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุว่าจะไปประกอบธุรกิจส่วนตัว

ทั้งนี้ จากการควบรวมทั้ง 2 แผนกเข้าด้วยกัน นายวิรินทร์มีแผนที่จะทำตลาดในรูปแบบของแพกเกจ โดยขายกล้องดิจิตอลพ่วงพรินเตอร์ในอนาคตอันใกล้ด้วย

พร้อมกันนี้ แคนนอน ไทยแลนด์ได้นำกล้องดิจิตอลใหม่ 7 รุ่นออกสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวครั้งนี้ประกอบด้วย Canon IXUS 3 รุ่นคือ IXUS 800 IS IXUS 65 และ IXUS 60 ที่มีความละเอียดถึง 6 ล้านพิกเซล สามารถปรับเพิ่มค่าความไวแสงสูงสุดเป็น ISO 800 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่ม Young Executive หรือผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีที่มีสไตล์ในเรื่องของการดีไซน์ อีก 4 รุ่นในตระกูล PowerShot คือ Canon PowerShot A700, A540 A530 และ A430 ซึ่งเป็นตระกูลที่มีรูปทรงกะทัดรัด ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทุกโอกาส ในราคาที่ไม่สูงมาก ซึ่งจะครอบคลุมตลาดตั้งขนาดระดับกลางลงไปจนถึงผู้ที่เริ่มใช้กล้องดิจิตอลหรือ Entry Level

ส่วนการทำตลาดกล้องดิจิตอลในรอบปีนี้ แคนนอนจะเน้นที่กิจกรรมการตลาดทั้งแบบ above-the-line และ below-the-line ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ และอีเวนต์ต่างๆ การอบรมการใช้ให้กับผู้ซื้อโดยตรง ด้วยแคมเปญที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังจะส่งเสริมเครือข่ายการจัดจำหน่ายด้วยการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำที่มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและจุดขายต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ลูกค้า ส่วนงบในการทำตลาด เฉพาะการโรดโชว์ ช่วง 5-6 เดือนข้างหน้าจะใช้ประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

จากนโยบายและแผนที่วางไว้ แคนนอนตั้งเป้าไว้ว่า รอบปีนี้จะมียอดขายกล้องดิจิตอลโตแบบก้าวกระโดดหรือประมาณ 50% โดยตั้งเป้าไว้ว่ายอดขายกล้องดิจิตอลจะเพิ่มจาก 7-8 หมื่นตัวในปีที่ผ่านมาเป็น 1.3 แสนตัว และจะมีส่วนแบ่งเป็นตลาดจาก 11% เป็น 16% หรือเป็นอันดับ 2 รองจากโซนี่ และตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำตลาดภายในปี 2550

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย