คลังเร่งอุดช่องโหว่ถังแตกกยศ.ผวาระบบเบิกเงินป่วน


ผู้จัดการรายวัน(3 เมษายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

กระทรวงการคลังเร่งแก้ถังแตก กรมบัญชีกลางปรับระเบียบเบิกจ่าย กยศ. มั่นใจไม่กระทบนักศึกษากู้เรียน ด้านผอ.กยศ. ชี้ยังไม่รู้อนาคต หวั่นถ้าแก้ระเบียบแล้วจ่ายเงินให้ไม่ทันวุ่นวายแน่ ขณะที่การยุบกองทุนเงินนอกงบประมาณยังไม่พบมีการเคลื่อนไหว ลุ้นยอดจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสัปดาห์นี้

นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางจะสรุปผลการศึกษาเรื่องการแก้ไขระเบียบการเบิกจ่ายของกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ภายในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการแก้ไขระเบียบเดิมเพื่อไม่ให้ กยศ.เบิกเงินครั้งละเป็นจำนวนมาก แล้วนำไปฝากกับธนาคารก่อนที่จะนำไปให้แก่สถาบันการศึกษา และนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนในภายหลัง การแก้ไขระเบียบดังกล่าวเพื่อความคล่องตัวของสภาพคล่อง ทั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาที่ต้องกู้เงินของ กยศ.เรียน เพราะระเบียบที่แก้ไขนี้ จะยังคงให้เบิกจ่ายได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องเบิกตามความจำเป็นเท่านั้น

"เราจะต้องแก้ระเบียบการเบิกจ่าย ว่าจะจัดสรรค่าใช้จ่ายใหม่อย่างไร ที่ไม่ใช่เป็นการเอาเงินก้อนใหญ่ ๆไปฝากธนาคารเอาไว้เฉย ๆ ผมก็ให้เขาศึกษาอยู่" นายบุญศักดิ์กล่าว

ด้านความคืบหน้า การยุบกองทุนเงินนอกงบประมาณ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 90 กองทุน เนื่องจากบางกองทุนมีความจำเป็นน้อยลง หรือบางกองทุนมีลักษณะซ้ำซ้อนกันนั้น นายบุญศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้เข้าไปเร่งรัดแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าปกติแล้ว ทุกปีก็จะมีการยุบกองทุนที่ไม่จำเป็นทิ้งเป็นปกติอยู่แล้ว

นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า การแก้ไขระเบียบการเบิกจ่ายของ กยศ.นั้น คงจะไม่มีผลกระทบเนื่องจากเป็นการแก้ไขให้มีการเบิกจ่ายตามความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งหากกรมบัญชีกลางสามารถจ่ายเงินใหักับกองทุนฯ ได้ทันเวลาที่ กยศ.จะต้องจ่ายให้กับสถาบันการศึกษาและนักศึกษาที่มีอยู่กว่า 8 แสนราย ได้ทัน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด

"หากเขาจ่ายได้ทัน ก็จะไม่ต่างกับระเบียบเก่าเท่าไหร่ แต่แทนที่เราจะเอาไปฝากแบงก์เอาไว้ ก็ค่อยมาเบิกเอาเมื่อต้องใช้แทน ก็ไม่มีปัญหาถ้าให้เราได้ตามเวลา ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ถ้าพลาดก็โกลาหลแน่" นายเปรมประชากล่าว

ส่วนกรณีที่รัฐบาลต้องประสบกับภาวะขาดดุลเงินสด ทำให้ทางกรมบัญชีกลางได้มาขอยืมเงินจาก กยศ. 7,000 ล้านบาท ไปใช้รองรับการเบิกจ่ายของส่วนราชการต่างๆ ก่อนภายในช่วงนี้ โดยระบุว่าจะคืนเงินให้ทันภายในเดือนมิ.ย. นี้ นายเปรมประชาเห็นว่า หากกรมบัญชีกลางสามารถคืนเงินให้ได้ตามกำหนด ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบแต่อย่างใด แต่ถ้ามีปัญหาคืนให้ไม่ทันก็จะเกิดผลกระทบอย่างมหาศาลต่อนักศึกษาดังกล่าว

"กยศ. มีภาระต้องจ่ายเงินส่วนดังกล่าวให้แก่สถาบันการศึกษาและนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนฯ รวมกว่า 8 แสนราย ในช่วงประมาณเดือน พ.ค.-มิ.ย."

ทั้งนี้ โดยตามปกติแล้ว กยศ. จะตั้งฎีกาเบิกเงินล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เพื่อนำไปฝากธนาคารเอาไว้ สำหรับเตรียมรองรับการจ่ายให้แก่สถาบันการศึกษาและนักศึกษาทั่วประเทศเพราะถ้าไม่เตรียมไว้ก่อน อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อการให้กู้ยืมได้

แหล่งข่าวกระทรวงการคลังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีข้อเสนอให้มีการพิจารณายุบเลิกกองทุนนอกงบประมาณแต่อย่างใด โดยการจะยุบกองทุนนั้น เป็นเรื่องแล้วแต่สถานการณ์ความจำเป็น อย่างเช่นปี 2548 ที่ผ่านมาก็มีการยุบไป 1 กองทุน โดยที่ส่วนราชการที่ดูแลกอง

ทุนนั้นอยู่เห็นชอบด้วย อย่างไรก็ดี เห็นว่าหากฝ่ายนโยบายมีแนวคิดที่จะยุบกองทุนใดกองทุนหนึ่งนั้น ก็สามารถทำได้ โดยกองทุนที่กระทรวงการคลังมีอำนาจยกเลิกได้นั้น จะต้องเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ เท่านั้น ส่วนบางกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ จะเป็นอำนาจของสภา ในการพิจารณาว่าจะให้ยุบได้หรือไม่

ด้านความคืบหน้าการจัดเก็บรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายนั้นจะมีการแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ คาดว่าการเก็บภาษีดังกล่าวจะต่ำกว่าเป้า ทำให้แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ปีนี้ต่ำกว่าเป้า ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.