|
'ซานมิเกล'ลั่น1-2ปีรบครบพอร์ต งัดเบียร์ระดับพรีเมียมบอมบ์ตลาด
ผู้จัดการรายวัน(3 เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
สมรภูมิตลาดเบียร์ 8.2 หมื่นล้านระอุ ยักษ์ใหญ่วงการเบียร์จากฟิลิปปินส์"ซานมิเกล"ประกาศแผน 1-2 ปีลงตลาดฟองเบียร์เต็มรูปแบบ ชูมีสินค้าครบพอร์ตโฟลิโอชนศึกไทยเบฟฯ-สิงห์ คอปอร์เรชั่น-ไทยเอเชีย แปซิฟิค ล่าสุดเล็งควักเบียร์ตัวใหม่ลงตลาดพรีเมียมบอมบ์ตลาดลูกสุดท้าย อวดเรดยอดขายพุ่งตีเบียร์ช้างภาคอีสานกระจุย
แหล่งข่าวบริษัท ซานมิเกล เบียร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์บลู ไอซ์,เรด ฮอต และซานมิกไลท์ เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 ปีนี้บริษัทจะรุกตลาดเบียร์อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้การมีเบียร์ในพอร์ตโฟลิโอหรือการมีเบียร์ครบทุกเซกเมนต์ ขณะนี้เหลือเบียร์เพียงเซกเมนต์เดียวที่ซานมิเกลยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด คือ เซกเมนต์พรีเมียม จากปัจจุบันการรุกเข้ามาเปิดตลาดเบียร์ไทย ซานมิเกลมาได้ครึ่งทางแล้ว
"ในฟิลิปปินส์เรายังมีเบียร์อีกหลายตัว อย่าง สตรองไอซ์ ซูเปอร์ดราย นอกจากนี้ยังมีเบียร์ในเซกเมนต์พรีเมียมที่บริษัทได้เปิดตัวลงสู่ตลาดในสองประเทศไปแล้ว ซึ่งขณะนี้เรากำลังพิจารณาว่าจะนำเบียร์ตัวใดเข้ามาทำตลาดเบียร์เซกเมนต์พรีเมียม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเบียร์ภายใต้แบรนด์ซานมิเกล หรืออาจจะเป็นแบรนด์อื่นๆก็ได้"แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับเบียร์ในพอร์ตโฟลิโอซานมิเกล ประกอบด้วย "บลูไอซ์"ลงในเซกเมนต์สแตนดาร์ด และเรด ฮอตเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อปี 2547 และล่าสุดเมื่อต้นปี 2549 บริษัทได้เปิดตัวซานมิกไลท์ เบียร์โลว์ แคลอรี่เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น มีปริมาณแอลกอฮอล์ 5% และเบียร์ซานมิเกล พาล พิลเซน ปริมาณแอลกอฮอล์ 5% และนับว่าปีนี้ซานมิเกล ก้าวเข้าสู่ตลาดเบียร์ไทยเป็นปีที่ 3 แล้ว
แนวโน้มการแข่งขันตลาดเบียร์ในขณะนี้ ค่ายเบียร์แต่ละค่ายงัดในเรื่องของอัมเบลาแบรนด์ หรือการใช้ตราสินค้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการตลาด โดยเมื่อเปรียบระหว่างค่ายเบียร์แต่ละค่าย มีเบียร์เกือบครบพอร์ตโฟลิโอหมดแล้ว อย่าง ไทยเอเชีย แปซิฟิค มี ไฮเนเก้น เซกเมนต์พรีเมียม ไทเกอร์ สแตนดาร์ด และเชียร์ อีโคโนมี่ และมีโอกาสที่ไทยเอเชียฯจะเปิดตัวไลท์เบียร์
ส่วนค่ายบุญรอดฯ อาซาฮี-คลอสเตอร์ เซกเมนต์พรีเมียม สิงห์ สแตนดาร์ด และลีโอ-ไทเบียร์ อีโคโนมี่ และล่าสุดสิงห์ไลท์ ในเซกเมนต์ไลท์เบียร์ ส่วนไทยเบฟฯ เบียร์ช้าง-อาชา เซกเมนต์อีโคโนมี่ ช้างไลท์ และกำลังจะเปิดช้าง พรีเมียม
สำหรับการทำตลาดกลุ่มเบียร์ของบริษัท โดยเบียร์ซานมิกไลท์ และเบียร์ซานมิเกล พาล พิลเซน รวมทั้งบลูไอซ์ จะเน้นเจาะช่องทางออนพรีมิส หรือ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสัดส่วนถึง 70 % ส่วนออฟพรีมิส หรือ โมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกรายย่อย 30% รวมทั้งเน้นเจาะกรุงเทพฯมากกว่าตลาดต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตามตลาดไลท์เบียร์ปีนี้จะเป็นเซกเมนต์ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น บริษัทจะสร้างความแตกต่างด้วยการชูจุดขาย การเป็นเบียร์โลว์แคลอรี่ถึง 1 ใน 3 ในขณะที่ของคู่แข่งสิงห์ไลท์และช้างไลท์เป็นเบียร์โลว์แอลกอฮอล์มากกว่า โดยมีแอลกอฮอล์3.2-4.2 ดีกรี ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทจะเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์ แนะนำสินค้าผ่านช่องทางออนพรีมิสเป็นหลัก
ขณะที่เรด ฮอต จะเน้นทำตลาดออฟพรีมิส และเจาะตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เรด ฮอตได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดต่างจังหวัดมาก โดยเฉพาะในส่วนของภาคอีสาน ทั้งนี้เป็นเพราะเรด ฮอตได้วางตำแหน่งการตลาดที่ดีกว่าเบียร์ช้าง อีกทั้งมีดีกรีแรงทำให้ดึงผู้ดื่มเหล้าขาวหันมาดื่มเบียร์ยอดขายจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|