|
สัมมากรหาช่องเจาะทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ
ผู้จัดการรายวัน(31 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"สัมมากร"ยุคที่หาโอกาสสร้างรายได้ให้แก่องค์กร เล็งหาช่องขยายการลงทุนสู่ตลาดทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ พร้อมเพิ่มโครงสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการให้ได้ระดับ 10% แต่ยังยึดมั่นนโยบายพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-7 ล้านบาท พร้อมเปิดโปรเจกต์ใหม่"สัมมากรราชพฤกษ์" มูลค่ากว่าพันล้านบาท ลั่นด้วยคุณภาพโครงการและระดับราคา คาดไม่เกิน 2 ปีขายเกลี้ยง
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยถึงแนวทางของบริษัทฯว่า นโยบายหลักในการลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังให้น้ำหนักตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นฐานลูกค้าระดับปานกลางที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่พัฒนามาและอยู่ระหว่างขยายเฟสต่อเนื่อง จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการสัมมากรบางกะปิ Bangkapi บริเวณสุขาภิบาล 3 ซึ่งได้เปิดเฟสใหม่เนื้อที่ 7 ไร่ ในปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้เหลือเพียง 6 หลัง , สัมมากรมีนบุรี 1 ที่ใกล้จะปิดโครงการและ 2 มีความคืบหน้ายอดขายกว่า 50% , สัมมากร นิมิตรใหม่ เนื้อที่ 180 ไร่ มียอดขายไปกว่า 70% ,สัมมากรรังสิต คลอง2,7 และสัมมนากรนครอินทร์ เปิดเมื่อ 27 พ.ค.48 ระดับราคา 4.5-7.8 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายไปแล้ว 40%
อย่างไรก็ตาม แม้ทางบริษัทจะยึดนโยบายมาตั้งแต่แรกเริ่มที่ทำตลาดบ้านเดี่ยว แต่สัมมากรพยายามมองหาที่จะพัฒนาโครงการประเภททาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่าง โดยจะเป็นใช้ที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)ประมาณ 700 ไร่ หรือจัดซื้อที่ใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการตามศักยภาพของพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ การมองหาโอกาสเพิ่มรายได้จากค่าเช่าและบริการจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งของบริษัท เนื่องจากขณะนี้รายได้จากค่าฟีของสัมมากรมีไม่ถึง 2% ซึ่งบางส่วนมาจากพื้นที่โครงการเก่า อาทิเช่น ให้เช่าพื้นที่ในโครงการสัมมากรสุขาภิบาล เพื่อทำตลาดนัด เป็นต้น
" สัมมากรคงต้องการคงหรือมีทรัพย์สินที่มีศักยภาพไว้ ไม่ใช่ขายขาด เพราะอย่าลืมว่าที่ดินใกล้เมืองนับวันจะหาได้น้อยลง และการที่จะทำบ้านเดี่ยวระดับ 3-5 ล้านบาทใกล้เมืองคงยากขึ้น ต่อไปคงจะเป็นบ้านเดี่ยวระดับ 7-8 ล้านบาท ซึ่งที่ดินของสัมมากรยังมีอีกเยอะกระจายไปทั่ว เราอาจจะให้คนอื่นเช่าที่ดินเพื่อสร้างรายได้ "นายกิตติพลกล่าวและว่า
ทางบริษัทได้ดำเนินการพัฒนาโครงการแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ "สัมมากรราชพฤกษ์" ระดับราคา 4.5-7.8 ล้านบาท จำนวน 293 หลัง ซึ่งอยู่ในโซนที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย เนื่องจากอยู่ใกล้กับถนนเส้นสาทร และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงเข้าใกล้โครงการ ซึ่งเป็นอีกโครงการที่บริษัทลงทุนซื้อที่ดินเหมือนกับโครงการสัมมากรนครอินทร์
โดยรูปแบบของโครงการใหม่ยังคงเป็นแบบบ้านไม่หรู แต่จะเน้นประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่
" เดิมทีคิดว่าต้องใช้เวลา 3-4 ปีจะสามารถปิดการขายสัมมากรราชพฤกษ์ได้ แต่ต้องคิดใหม่ ทั้งระดับราคาที่ไม่แพง เหมาะสมกับลูกค้าที่ต้องการสร้างครอบครัว การคมนาคมสะดวก ทำให้คาดว่าไม่เกิน 2 ปีขายหมดแน่ ขณะเดียวกันยังจะกันเนื้อที่อีก 10 ไร่ ในการพัฒนาชอปปิ้งมอลล์ เพื่อรองรับลูกค้าและสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการมากขึ้น โดยในปีนี้ สัมมากรตั้งเป้ายอดขายบ้านและที่ดินระหว่าง 630-650 ล้านบาท ขณะที่ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดรับรู้ได้และค่าเช่ากว่า 700 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วแต่ละปีเรารักษาอัตราเติบโตไว้ที่ 10% ปั่นผลผู้ถือหุ้นมาตลอด "นายกิตติพลกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|