|
ซีเอ็มลดเสี่ยงเศรษฐกิจซบโฟกัสงานไมซ์-พิพิธภัณฑ์
ผู้จัดการรายวัน(31 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์เผยภาวะการเมืองวุ่นวายและเศรษฐกิจขาลง ส่งผลให้ลูกค้าชะลองานและทำเงินหายวูบ 15 ล้านบาท พร้อมสู้ปัจจัยลบปีนี้ลุยงานใหญ่ 6 งานและกระจายความเสี่ยงสู่ตลาดไมซ์และกลุ่มพิพิธภัณฑ์ รวมถึงจัดอีเวนต์เองเป็นครั้งแรก ประเดิมปีนี้มี 3 งาน พร้อมเตรียมลุยงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ คาดยอดรายได้กว่า 80 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมสิ้นปีคาดโต 10% และฟันกำไรเพิ่ม 5%
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาะวะเศรษฐกิจไม่ดีและการเมืองที่ไม่สงบในช่วงนี้ส่งผลให้ลูกค้าเอกชนหลายรายของบริษัทฯเริ่มที่ชะลอการจัดงานลงในช่วงไตรมาส 1และ2นี้ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมนี้และเมษายนที่จะถึงคาดว่าจะมีการเลื่อนงานออกไปมาก ซึ่งเม็ดเงินส่วนที่หายไปนี้คิดเป็นมูลค่าเงินกว่า 15 ล้านบาท
ดังนั้นทางซีเอ็มฯพยายามสู้แรงต้านทานที่เกิดขึ้นด้วยการมุ่งเน้นความสนใจไปที่งานเมก้า อีเว้นท์หรืองานใหญ่ 5-6 งาน อาทิ ไตรมาสแรกงานตรุษจีนที่นครสวรรค์ และงานดีเอชแอล ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับธุรกิจไมซ์หรือการจัดประชุม คิดเป็นมูลค่ายอดรายได้ 60 ล้านบาท ส่วนไตรมาสสองมีงานมอเตอร์โชว์ที่จัดไปแล้วแต่ปิดยอดในช่วงนี้และงานโฮมโปร รวมถึงงานเฉลิมพระเกียรติในหลวงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และไตรมาส 3 มีงานไอซีที เอ็กซ์โป ซึ่งมียอดบิลลิ่ง 80 ล้านบาท และไตรมาสสุดท้ายมีงานใหญ่มหกรรมพืชสวนโลกฯ โดยคาดหมายว่ายอดรายได้ของการจัดงานจะมีประมาณ 80 ล้านบาท
ประกอบกับบริษัทฯให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ รวมถึงการจัดอีเวนท์ของตัวเอง ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 2-3 งาน อาทิ หัวหิน แจ๊สและมิสทีน อินเตอร์ฯ เป็นต้น โดยปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็นเอกชน 70% และรัฐบาล 30%
"ปีนี้บริษัทฯกางขาเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่นอย่างตลาดไมซ์และกลุ่มพิพิธภัณฑ์มากขึ้น โดยปีนี้ธุรกิจไมซ์มีอัตราการโตมากสุด จากการที่ได้ลูกค้าเอ็กซ์บิชั่นจากต่างประเทศ เช่น ดีเอชแอลหรือการประชุมนานาชาติที่มีการจัดประชุมในไทยปีนี้ หรืองานกลาสเทคที่ทางททท.ให้ซีเอ็มไปจัดงานที่ดูไบ สำหรับยอดรายได้ในกลุ่มธุรกิจไมซ์มีประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าโตเท่าตัวหากเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มพิพิธภัณฑ์ก็มีการเติบโตขึ้น เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์มีการรีโนเวตพิพิธภัณฑ์ใหม่ ภายใต้งบ 20 ล้านบาท เป็นต้น"
สำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่บริษัทฯได้รับมอบหมายจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และบริษัทรี้ด เทรดเดกซ์ จำกัดในการเป็นAppointed Service Provider หรือผู้ให้บริการที่ได้รับการแต่งตั้งของงานนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 49-31 ม.ค. 50 ที่เชียงใหม่
โดยความร่วมมือในงานนี้เป็นการผนึกกำลังของพันธมิตร 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทซีเอ็มฯจะดูแลรับผิดชอบในการประสานงานระหว่างผู้ร่วมแสดงงานกับคณะผู้จัดงาน รวมถึงดูแลบริหารพื้นที่จัดงาน ,บริษัทแลนด์สเคป แพลนนิ่งดูแลในส่วนการดำเนินงานด้านการผลิต เช่น การจัดสวน ,จัดหาพันธ์ไม้ และการผลิตการแสดงและนิทรรศการ ฯลฯ และบริษัทไรท์แมนและบริษัทเอ็กซ์คอนรับผิดชอบในส่วนการแสดง
พื้นที่การจัดงานพืชสวนโลกมีกว่า 470 ไร่ โดยการบริการจะแบ่งเป็น อาทิ สวนเฉลิมพระเกียรติฯประเภทองค์กร โดยขณะนี้มีองค์กรที่เข้าร่วมกว่า 21 ราย ได้แก่ บริษัทเครือโภคภัณฑ์ จำกัด , บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ฯลฯ และสวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งปัจจุบันมีต่างประเทศตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 30 ประเทศแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น,เนเธอร์แลนด์และสเปน
สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 10% จากปีที่แล้วที่ปิดยอดรายได้ 560 ล้านบาท และมีกำไรปีนี้เพิ่ม 5% หลังจากที่ปีที่แล้วบริษัทฯมีกำไร 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงถึง 40% ส่วนภาพรวมตลาดออร์กาไนซ์ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 2-3% ปีนี้คาดว่าตลาดรวมทรงตัวและไม่โต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ทุกฝ่ายอยู่ในช่วงลังเล รวมถึงการที่ลูกค้าจัดตั้งออร์กาไนซ์เองหรือจ้างซับพลายเออร์โดยตรง โดยปัจจุบันซีเอ็มฯมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ 6%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|