โรบินสันคึกคักหลังอั้นมานานผุดสาขาใหม่ทุกปีรับกำไรพุ่ง18%


ผู้จัดการรายวัน(28 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

โรบินสัน โชว์ศักยภาพ หลังพ้นวิกฤตฟื้นฟูกิจการ เดินหน้าลุยตลาดค้าปลีกเต็มกำลัง เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 1-2 สาขาต่อปี หลังพบผลประกอบการโต 10.2 % ไม่หวั่นปัญหาการเมืองส่งผลกระทบ เหตุมีจุดแข็งด้านทำเล และสินค้าที่ตรงกับความต้องการ

นายปรีชา เอกคุณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางสั่งยกเลิกแผนการฟื้นฟูกิจการแก่บริษัทฯมาตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 จากการที่บริษัทฯสามารถจ่ายชำระคืนหนี้หุ้นกู้ครบจำนวน 4,767 ล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมาทำให้ปีนี้โรบินสันสามารถดำเนินธุกิจได้อย่างเต็มที่

โดยแนวทางในปี 2549 ของโรบินสันนั้น ได้เตรียมขยายสาขาต่อเนื่อง 1-2 สาขาต่อปี พร้อมกับการปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย รวมไปถึงการขยายฐานลูกค้าและพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย นั้น ในปีนี้เตรียมเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา ที่จังหวัดอยุธยาในโครงการอยุธยาปาร์ค ใช้งบลงทุน 150- 350 ล้านบาท บนพื้นที่ขายสินค้ากว่า 12,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ยังได้เตรียมงบประมาณกว่า 200-300 ล้านบาท ในการปรังปรุงสาขาที่มีอยู่เดิมให้ดูทันสมัยมากขึ้นใน 3 สาขาหลัก คือ สาขาฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต สาขาซีคอนสแควร์ และสาขาเชียงใหม่

สำหรับงบทางการตลาดปีนี้วางไว้ที่ 260 ล้านบาท ทั้งในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น การเปิดตัวบัตรโรบินสัน วีซ่า การ์ด ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกเป็น 1.4 ล้านราย จากเดิมที่มีอยู่ 1.2 ล้านราย รวมไปถึงการเพิ่มบริการที่หลากหลาย และการเพิ่มดีไซน์สินค้าใหม่ๆอีกด้วย

อีกทั้งในปีนี้ทางโรบินสันได้พัฒนาสินค้าให้ทันสมัยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแฟชั่นสตรี และของตกแต่งภายในบ้าน เนื่องจากต้องการเน้นให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความทันสมัยของโรบินสัน บวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เริ่มให้ความสำคัญกับบ้านมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในปี 2548 ที่ผ่านมา โรบินสันมีผลประกอบการกว่า 10,955 ล้านบาทมีอัตราการเติบโต 10.2 % และมีกำไรเพิ่มขึ้น 18.8 % คิดเป็น 851.2 ล้านบาท จากปี 2547 โดยมีผลมาจาก การปรับภาพลักษณ์ใหม่มาตั้งแต่ช่วงที่บริษัทฯเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ และปัจจุบันผลการปรับภาพลักษณ์ใหม่นี้ ทำให้โรบินสันสามารถก้าวขึ้นมาเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้ โดยตั้งเป้าการเติบโตปี 2549 ไว้ที่ 10-12% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ขณะนี้จะมีปัญหาการเมืองที่รุนแรงอยู่ก็ตาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ของทางโรบินสัน กลับมองว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างแน่นอน เนื่องจากโรบินสันมีจุดแข็ง ทั้งในเรื่องของจำนวนสาขาที่มีกว่า 19 สาขาทั่วประเทศที่ และทำเลที่อยู่ใกล้บ้าน ลูกค้าสะดวกในการเข้ามาจับจ่ายซื้อของ รวมไปถึงกลุ่มสินค้าที่มีราคาไม่สูงมาก และเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทำให้ยอดการขายในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จึงยังคงเป็นไปตามที่บริษัทฯตั้งเป้าไว้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.