|
พรชัย ฐีระเวช กับชีวิตโลดโผน
โดย
สุจินดา มหสุภาชัย
นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ตั้งแต่เด็กๆ พรชัย ฐีระเวช ไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ เป็นคนที่ติดเพื่อนชอบสนุกสนาน จนก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย สีสันชีวิตยิ่งจัดจ้าน ขยันตระเวนทำกิจกรรมชมรมเป็นที่หนึ่ง และไม่อายที่จะบอกว่าเขาจบมาได้เพราะเพื่อน
ปัจจุบัน พรชัย ธีระเวช เป็นผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายการคลัง และงบประมาณ สศค.
"เด็กๆ ไม่ค่อยเรียนหนังสือ ไม่ใช่คนตั้งใจเรียนอะไร ชอบสนุกจึงไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไร ยิ่งโตเป็นรุ่นพี่ที่ธรรมศาสตร์ ยิ่งชอบทำกิจกรรม เข้าชมรมโน้นชมรมนี้ ไม่ค่อยได้เรียนเริ่มมาเข้าห้องสมุดก็ตอนช่วงปลายๆ เทอมที่ต้องทำรายงาน ส่งอาจารย์ ชีวิตผมค่อนข้างโลดโผนกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่โชคดีที่จบมาได้ เพราะเพื่อนๆ มาช่วยติวให้ที่บ้าน ผมมาอ่านเลกเชอร์ก็ตอนนั้น" คือ ชีวิตวัยเรียนที่พรชัยบอกกับ"ผู้จัดการ"
พรชัยเริ่มเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นจนจบมัธยมปลายที่สวนกุหลาบวิทยาลัย ก่อนสอบเรียนต่อในคณะบริหารศาสตร์ และการบัญชี สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อเรียนจบเขาทำงานด้านบัญชีกับบริษัทพีค มาร์วิค สุธี ราว 3 ปี จึงบินไปเรียนต่อ MBA สาขาการเงินที่ Notre Dame De Namur University, USA
ระหว่างที่กำลังทำงานอยู่ที่ สศค. เขายังเรียนต่อจนจบปริญญาโทรัฐศาสตร์ สาขาบริหารรัฐกิจ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชตามลำดับ
จริงๆ แล้ว พรชัยอยากเรียนสาขาการตลาดมากกว่า สาขาบัญชี แต่ที่ต้องเลือกบัญชีเพราะพ่อแม่ซึ่งมีพื้นฐานเป็น ข้าราชการอยากให้เขาเรียน
หลังจบจากธรรมศาสตร์ พรชัยสมัครงานที่บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ และธนาคารกรุงเทพ ทั้งที่ทั้ง 2 แห่งได้เรียกให้เขาเข้ารายงานตัวแล้ว แต่เขาตัดสินใจที่จะลองไปสมัครงานที่พีค มาร์วิค สุธี ตามคำชวนของเพื่อน
"บังเอิญอาจารย์สุธี (สิงห์เสน่ห์) เข้าบริษัท ท่านเลยสัมภาษณ์ผมเอง ตอนนั้นปี 2531-2532 ท่านเป็น รมว.คลังแล้ว ผมจบมาได้เกรด 2.3 ผมว่ามันก็ไม่น่าเกลียดอะไร แต่ท่านสงสัยว่าทำไมมันถึงได้ต่ำนัก ผมไม่อยากเริ่มต้นด้วยการโกหก หากท่านมารู้ทีหลังมันคงไม่ดีแน่ เลยบอกความจริง ท่านไม่ว่าอะไร และตกลงรับผม บอกให้มาทำงานพรุ่งนี้ เสื้อผ้าจะใส่มาทำงานผมยังไม่มีเลย ไม่คิดว่าจะได้ ยังงงว่าทำไมถึงรับเลย หรือเขากำลังขาดคนผมก็ไม่รู้นะ"
เขาควรเริ่มต้นทำงานนักวิเคราะห์บัญชี แต่น้องชายของสุธีซึ่งเป็นหัวหน้าทีมผู้ตรวจสอบบัญชี ขอตัวพรชัยให้มาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจสอบบัญชีตั้งแต่เช้าแรกที่เขามารอเข้างาน
ทำงานจนเห็นถึงวงจรในระบบบัญชีได้อย่างครบถ้วน พรชัยจึงเริ่มรู้สึกว่า บัญชีเป็นงานจำเจไม่ท้าทาย จึงไม่เหมาะกับคนแบบเขา อีกทั้งหากอยากมีทางเลือกมากขึ้นที่จะทำให้ เขาเข้าได้ทั้งเอกชนและราชการแล้ว เขาควรไปเรียนต่อ MBA ในสาขาการเงิน
ด้วยความเป็นคนตัดสินใจเร็ว เขาจึงยื่นใบลาออกจากพีค มาร์วิคฯ ก่อนจะไปบอกให้พ่อแม่ตกใจกับการตัดสินใจของลูกชายคนโต ใช้เวลา 2 สัปดาห์ยื่นขอวีซ่าเรียนต่อที่สหรัฐฯ พรชัยก็บินไปเข้าคอร์สเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยใน Golden Gate จนได้เข้าเรียนต่อที่ Notre Dame De Namur University
เรียนจนใกล้จบก็มีเหตุให้ต้องบินด่วนกลับเมืองไทย เพราะพ่อของเขาเสียชีวิต ความที่เป็นลูกคนโต พรชัยจึงคิดจะเลิกเรียน เพื่ออยู่ดูแลแม่และน้องชาย แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาที่นั่นเห็นว่าเขาควรกลับไปเรียนให้จบ เพราะเหลือเพียงไม่กี่วิชา พรชัยจึงไปเรียนต่อ แต่เพื่อให้จบเร็วขึ้นจึงต้องเรียนในระบบ Individual Study ที่เขาต้องออกไปหาอาจารย์มาสอนให้เอง จากตรงนี้ทำให้เขาค้นพบตัวเอง
"อาจารย์ที่ปรึกษาคนที่ 2 ซึ่งเป็นทูตทหารสหรัฐฯ ประจำประเทศจีนเป็นคนชี้ทางให้ ท่านบอกว่า ผมไม่สามารถทำงานเอกชนได้ เพราะใจอ่อนเกินไป จากทำ test ในวิธีคิด ลักษณะนิสัย หรือ model และ performance แล้วผมไม่น่าจะทำได้ เพราะไม่เหี้ยมพอที่จะตัดกำไรส่วนต่างในการทำ arbitrage ให้บริษัท ถ้าผมอยากทำบริษัทก็ให้ทำของตัวเอง แต่หากเลือกทำราชการน่าจะไปได้ดีกว่า" พรชัยเล่าถึงที่มาในการเข้ารับราชการของเขาเมื่อปี 2536
หลังใช้ชีวิตสนุกสนานกับการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยอย่างไม่รู้เบื่อ พรชัยก็ต้องตกอยู่ท่ามกลางความวิตกถึงอนาคตในการเรียนของตัวเอง เมื่อถึงช่วงปีสุดท้าย แต่ชีวิตที่พลิกผันขึ้นมาได้ในอีกทาง โดยส่วนหนึ่งมาจากการที่เขาเริ่มรู้คิดเมื่อถึงเวลา และอีกส่วนจากความช่วยเหลือของกลุ่มเพื่อน ทำให้เขาเชื่อว่าทุกคนจะมีกระบวนทางความคิดที่จะทำให้คิดอะไรได้เอง และระบบเพื่อนช่วยเพื่อนนั้นถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในการทำงาน
"เวลาผมสอนเด็กใหม่ผมมักชอบใช้วิธีจับคู่กันทำงาน เพื่อเขาจะได้ช่วยเหลือกัน ใครเห็นว่าอะไรดีหรือไม่ดีก็เอามาแลกเปลี่ยนกัน ผมก็แค่คอยดู หากเห็นว่าเขามีปัญหาจริงๆ ผมถึงค่อยเข้าไปช่วย" พรชัยสรุปหลักการแนวคิดพื้นฐานที่เขาใช้สอนข้าราชการน้องใหม่ในสายงานของเขา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|