| |
บิ๊กTTAแจงข่าวลือทำหุ้นร่วงเบนเข็มรุกบริการขุดเจาะน้ำมัน
ผู้จัดการรายวัน(22 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้บริหาร "โทรีเซนไทย" ออกโรงแจงราคาหุ้นร่วง 3 วันติด เหตุเจอข่าวลือบริษัทกำลังมีปัญหาดำเนินธุรกิจที่อัตราค่าระวางเรือปรับตัวลดลง พร้อมเผยไต๋ผลประกอบการครึ่งปีไม่ต่ำกว่าที่คาดไว้แน่นอน เพราะทำสัญญาขนส่งล่วงหน้าแล้ว 40% เตรียมเบนเข็มรุกธุรกิจให้บริการขุดเจาะน้ำมันมากขึ้น
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยถึง กรณีที่ราคาหุ้น TTA ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 2-3 วันที่ผ่านมา ว่า เกิดจากกระแสข่าวลือบริษัทกำลังประสบปัญหาทางธุรกิจจากภาวะอัตราค่าระวางปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วความต้องการใช้เรือยังคงแข็งแกร่ง โดยตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2549 บริษัทมีปริมาณสินค้าที่ขนส่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10%
ขณะเดียวกัน อัตราการเจริญเติบทางเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมหลัก เช่น ประเทศจีน ยังคงมีทิศทางที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการเดินเรือของบริษํท บวกกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ความต้องการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5-6%
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/49 (สิ้นสุด 31 ธ.ค.48) บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 927.56 ล้านบาท ลดลง 1,225.78 ล้านบาท หรือลดลง 56.92% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,153.34 ล้านบาท เนื่องจากค่าระวางเรือในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงจากปริมาณเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองขนาดกลางและขนาดเล็กที่สั่งต่อใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยทำให้ค่าระวางในตลาดของเรือประเภทนี้ลดลงจากระดับที่สูงมากในปีก่อนๆ มาสู่ระดับปกติ
สำหรับปัจจุบันเรือของบรัทได้มีการให้เช่าเรือแบบทำสัญญรับขนส่งสินค้าล่วงหน้าไว้แล้ว 40% ของกำลังบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัท ซึ่งทำให้บริษัทสามารถประเมินผลประกอบการงวดครึ่งปีนี้ได้แล้ว ซึ่งจะไม่ต่ำกว่าที่คาดไว้ จากการที่บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อกระจายความเสี่ยงซึ่งจะลดการพึ่งพาธุรกิจเดินเรือลดลงโดยจะหันไปรุกธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือให้มากขึ้น คือ งานบริการนอกชายฝั่งที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่ง TTA เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่มีเรือขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งค่าบริการของเรือประเภทนนี้อยู่ในระดับที่สูงและมีอนาคตที่เติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทมีการขายเรือออกไป 2 ลำ ในระยะใกล้เคียงกัน เนื่องจากเรือทั้ง 2 ลำมีอายุมาก อีกทั้งไม่คุ้มค่าที่จะนำเรือดังกล่าวมาใช้งานต่อ เพราะจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงจำนวนมาก จึงขายเรือดังกล่าวออกไป ซึ่งบริษัทมีกำไรจากการขายเรือดังกล่าวรวม 56 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวบริษัทนำไปชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดซึ่งทำให้ยอดเงินกู้ของบริษัทลงและทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้มีความพร้อมในการขยายกองเรือต่อไปในอนาคต
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นโทรีเซนไทย เมื่อวันที่ 15 มี.ค.49 ปิดที่19.70 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือลดลง 2.92% ในวันที่ 16 มี.ค.ราคาหุ้นปิดที่ 18.70 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 5.08% วันที่ 17 มี.ค.ราคาหุ้นปิดที่ 17.90 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 4.28 % และวันที่ 20 มี.ค.ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 17 มี.ค. และวานนี้ (21 มี.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ 17.80 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 10 สตางค์ คิดเป็น 0.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 147.91 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|