|
เสริมสุขโดดลงสมรภูมิโซดาปั้นคริสตัลเขย่าบัลลังก์สิงห์
ผู้จัดการรายวัน(20 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดโซดา 7 พันล้านระอุ "เสริมสุข"ยักษ์ใหญ่วงการเครื่องดื่มแตกไลน์สินค้าใหม่รอบ 12 ปี ปั้น "โซดาคริสตัล" ชูความแข็งแกร่งระบบจัดจำหน่ายให้ราคาร้านค้าถูกกว่า เขย่าเจ้าตลาดโซดาสิงห์ ล่าสุดซุ่มทดลองตลาดเจาะสถานบันเทิง "บุญรอดฯ"รับน้องใหม่อัดเอเยนต์ 250 ราย เร่งกระจายสินค้าคลุมพื้นที่ 100% ย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ "ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์" เดินหน้าสร้างตลาดกลุ่มดื่มโซดาเปล่า-มิกซ์น้ำผลไม้ ด้านไทยเบฟฯเล็งรีลอนช์โซดาช้างใหม่
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม เปิดเผยกับ " ผู้จัดการรายวัน"ว่า ขณะนี้บริษัท เสริมสุข จำกัด มหาชน ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป็ปซี่ และผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มตราคริสตัล ได้ต่อยอดจากธุรกิจน้ำดื่มด้วยการปั้นแบรนด์ "คริสตัล"ลงสู่ตลาดโซดามูลค่าตลาด 7,000 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของตลาดอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวได้สูง โดยปีนี้มีอัตราการเติบโต 7% โดยขณะนี้เสริมสุขเริ่มผลิตโซดาคริสตัลได้ 2 สัปดาห์แล้ว แต่ยังมีปริมาณที่น้อยอยู่ ประเดิมทดลองจำหน่ายเจาะผ่านช่องทางสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในช่วงแรกก่อน
สำหรับจุดแข็งของเสริมสุขในตลาดโซดา คือ ความได้เปรียบด้านการเป็นผู้จัดจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงร้านค้าได้โดยตรง ทำให้ราคาขายส่งร้านค้าอาจจะถูกกว่าโซดายี่ห้ออื่น ส่งผลให้ร้านค้ามีโอกาสเชียร์สินค้าได้มากกว่า เพราะได้กำไรมากกว่าโซดายี่ห้ออื่น โดยปัจจุบันเสริมสุขมีเครือข่ายร้านค้าที่แข็งแกร่ง 2 แสนร้านค้า พร้อมกับระบบลอจิสติกส์ ซึ่งมีหน่วยรถ 1,400 คัน แวร์เฮ้าส์ 46 สาขา สำนักงาน 50 แห่งทั่วประเทศ และทีมขายจำนวนมาก
ทั้งนี้ขยายโปรดักส์ไลน์ "โซดาคริสตัล" สอดคล้องกับนโยบายก่อนหน้านี้ที่ นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า บริษัทมีแนวทางที่จะเสริมความแกร่งให้กับแบรนด์ของเสริมสุข (Serm Suk's Brand) ด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพภายใต้แบรนด์ของเสริมสุขเอง ซึ่งก็คือแบรนด์ "คริสตัล" ล่าสุดขยายโปรดักส์ไลน์จากน้ำดื่มสู่ตลาดโซดา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่เสริมสุขเปิดสินค้าตัวใหม่ โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างแบรนด์"คริสตัล"ต่อไป และจากนี้จะค่อยๆเห็นเครื่องดื่มตัวใหม่ออกมา
เสริมสุขได้วางเป้าหมายให้แบรนด์คริสตัล เป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดเครื่องดื่ม ซึ่งในปีที่ผ่านมาน้ำดื่มคริสตัลมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 30% ส่งผลให้ปัจจุบันมีส่วนแบ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 คือ 15% จากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาคริสตัลมีส่วนแบ่งเป็นอันดับสามไล่เลี่ยกับแบรนด์อื่นๆ อาทิ ไทยน้ำทิพย์ เนสท์เล่ ช้าง ราว 10% ส่วนผู้นำตลาดเป็นน้ำดื่มสิงห์มีส่วนแบ่ง 20% ขณะที่โซดาคริสตัลนับว่าเป็นก้าวใหม่ของเสริมสุข
โซดาสิงห์อัดเอเยนต์สกัดคริสตัล
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโซดาสิงห์ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"ว่า การที่ตลาดโซดามีผู้ประกอบการรายใหม่ หรือยักษ์ใหญ่อย่างเสริมสุข ลงสู่ตลาดถือว่าไม่แปลก เพราะตลาดโซดามีอัตราการเติบโตสูง โดยคาดว่าในปี 2550 ตลาดรวมโซดาน่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท อีกทั้งที่ผ่านมาในตลาดยังไม่มีค่ายใดทำตลาดอย่างจริงจัง มีเพียงโซดาสิงห์เท่านั้นที่ทำตลาด และครองความเป็นผู้นำตลาดมานาน โดยมีส่วนแบ่งถึง 80-90% ของตลาด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอันดับสองอย่างโซดาช้าง ยังไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมากนัก รวมทั้งไปถึงโซดากระป๋องชเวปส์จากค่ายไทยน้ำทิพย์
สำหรับแนวทางการตลาดโซดาสิงห์ บริษัทยังคงตอกย้ำคอนเซปต์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งภายใต้"ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์" โดยปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกทำตลาดโซดาสิงห์ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา คือเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายรอง หรือ กลุ่มที่ดื่มโซดาเปล่าๆและกลุ่มที่มิกซ์กับน้ำผลไม้ เนื่องจากปัจจุบันตลาดโซดามีอัตราการเติบโตที่ลดลงตามอัตราการเติบโตของตลาดเหล้าซึ่งปีนี้โต 2-3% เนื่องมาจากนโยบายควบคุมของภาครัฐจึงทำให้บริษัทในฐานะผู้นำตลาด ต้องมีการขยายช่องทางการทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ตลาดเติบโต
รูปแบบของโซดาสิงห์ ที่บริษัทจะเน้นการทำตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายรอง คือ รูปแบบวันเวย์หรือการจำหน่ายโซดาขวดเล็กแบบไม่ต้องคืนขวด ซึ่งถือได้ว่าเป็นรูปแบบที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบรีเทิร์น หรือการจำหน่ายโซดาแบบคืนขวด เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาซื้อโซดาภายในห้างสรรพสินค้า เพื่อกลับไปบริโภคที่บ้านมาขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ เริ่มเปลี่ยนรูปแบบการสั่งซื้อสินค้าจากรูปแบบรีเทิร์นเป็นรูปแบบวันเวย์มากขึ้น เพื่อป้องการเสียค่ามัดจำการคืนขวดเมื่อขวดโซดาสูญหาย
ทั้งนี้เพื่อป้องบัลลังก์และรองรับกับการแข่งขันยักษ์ใหญ่อย่างเสริมสุข ซึ่งมีจุดแข็งด้านการจัดจำหน่าย ในปีนี้บริษัทได้เตรียมผลักดันการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ให้กว้างมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังเหลืออีก 5% ที่โซดาสิงห์ยังคลุมพื้นที่ได้ไม่ครอบคลุม โดยจะอาศัยเอเยนต์ราว 250 รายที่แข็งแกร่ง กระจายสินค้าให้ครอบคลุม 100%ภายในปีนี้ สำหรับปัจจุบันโซดาสิงห์สามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้ถึง15-20% ของรายได้รวม
ไทยเบพฯเร่งปรับโซดาช้างชน
นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทต้องการขึ้นเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มอย่างครบวงจร อย่างกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 2549 บริษัทก็มีนโยบายชูกลยุทธ์"Premiumizaion"หรือการผลิตเหล้า-เบียร์เซกเมนต์พรีเมียม ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ขณะที่กลุ่มโซดาช้าง ปีนี้บริษัทก็กำลังวางแผนรีลอนช์ใหม่ เพื่อให้ตราสินค้ามีความทันสมัยมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาโซดาช้างไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมากนัก ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มอย่างครบวงจร จากปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจกลุ่มเหล้า ได้แก่ เหล้าสี แสงโสม แม่โขง มังกรทอง กลุ่มเบียร์ ได้แก่ ช้าง,อาชาและล่าสุดน้องใหม่ช้างไลท์ กลุ่มเครื่องดื่ม น้ำดื่มตราช้าง ชาเขียวโออิชิ อะมิโนโอเค และโซดาช้าง ฯลฯ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|