ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเงินทุน เอกธนกิจครั้งล่าสุดมีข่าวการลงมติอนุมัติการลาออกของประภัศร์
ศรีสัตยากุลกรรมการผู้จัดการเป็นข่าวสั้น ๆ ที่ถูกกลบด้วยข่าวการเสนอขาย
วอร์แรนต์ (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ) แก่กรรมการและพนักงานจำนวน
12 ล้านหน่วย
การจัดสรรวอร์แรนต์ที่ให้กับกรรมการจำนวน 1,125,000 หน่วยนี้ งานนี้ประภัศร์ได้รับแบ่งปันตามสิทธิจำนวน
93,750 หน่วยเพราะถึงแม้ประภัศร์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมผู้จัดการแล้ว แต่ปิ่น
จักกะพาก กรรมการผู้อำนวยการได้ขอร้องให้ดำรงสภาพเป็นกรรมการและที่ปรึกษาด้านกฎหมายต่อไป
เบื้อหลังการทิ้งเก้าอี้เอ็มดีเอกธนกิจครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ใครก็ไม่คาดคิดแม้กระทั่งเจ้าตัวเอง
เพราะเกิดเหตุร้ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาที่ทำให้บุรุษร่างใหญ่อย่างประภัศร์ต้องล้มทั้งยืน
จากอาการช็อคเนื่องจากน้ำตาลในเส้นเลือดสูงมาก ๆ ด้วยฤทธิ์ที่เกิดจากโรคเบาหวาน
โรคหัวใจและความดันโลหิตสูงที่รุมเร้า
"คุณประภัศร์เล่าให้ฟังว่า วินาทีที่ช็อกที่บ้านนั้นยังมีสติและคิดรำพึงกับตัวเองว่าทำไปเพื่ออะไร
? เงินทองก็มีแล้วพลันคิดตกว่าชีวิตสำคัญกว่าชื่อเสียงเงินทอง ประกอบกับหมอได้สั่งให้คุณประภัศร์หยุดทำงานไม่ต่ำกว่า
6 เดือนด้วย ตอนนี้สุขภาพก็ยังไม่ดี ผ่าตัดทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจที่ตีบก็ยังไม่ได้เพราะปัญหาโรคเบาหวาน
ทำให้คุณประภัศร์ต้องใช้เวลารักษาตัวนานมาก ๆ จึงยื่นจดหมายขอลาออกจากตำแหน่ง
แต่คุณปิ่นขอร้องให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายต่อไป" นี่คือน้ำใจที่คนเราจะมอบให้แก่กันได้ยามเจ็บป่วยตามคำบอกเล่าของคนร่วมงานกับประภัศร์
ประภัศร์เริ่มทำงานที่บริษัทเงินทุนเอกธนกิจตามคำชักชวนของปิ่น จักกะพาก
เมื่อประมาณสามปีมาแล้ว ก่อนหน้านั้นประภัศร์บริหารงานที่แบงก์กสิกรไทย ดูแลโครงการสินเชื่อขนาดใหญ่
ภายหลังจากมรณกรรมของบัญชา ล่ำซำ เจ้านายที่ประภัศร์เคารพรัก การเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานของประภัศร์ก็เกิดขึ้น
ประภัศร์เริ่มมองหางานใหม่ที่ท้าทาย และที่เอกธนกิจซึ่งโดดเด่นด้านอินเวสท์เมนท์แบงกิง
เป็นสถาบันการเงินรุ่นใหม่ไฟแรงที่ประภัศร์ตัดสินใจร่วมงาน
นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกจังหวะเวลากับที่เอกธนกิจได้ก้าวกระโดด ประภัศร์ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมทำงานคนหนุ่มสาวของปิ่นในดีลสำคัญ
ๆ โดยเฉพาะการวางแผนยื่นขอใบอนุญาตตั้งแบงก์พาณิชย์ใหม่ในนามเอกสิน และการเข้าถือหุ้น
20% ในแบงก์ไทยทนุ
"ทางเลือกมีสี่ทาง แต่ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย แต่ตอนนี้เราต้องดูว่าการเป็นแบงก์จะก้าวไปได้กี่ทาง
ถ้าโอกาสเปิดเราก็ต้องลองทุกประตู เรื่องแบงก์ไทยทนุเป็นแค่ synerqy เราทราบดีว่าการทำแบงก์ต้องมีพาร์ตเนอร์
คุณต้องเข้าใจว่าแบงก์และไฟแนนซ์ ธุรกิจมันใกล้กันเพียงแต่ไฟแนนซ์ทำบางอย่างไม่ได้แต่ทำ
lending funding เหมือนกัน
ถ้าคุณต้องเป็นแบงก์ รับฝากเงินจากประชาชน และระดมทุน ทำให้เกิดตลาดตราสารแห่งหนี้
โดยต้องไปกู้เงินเขามา จะเห็นว่าคนฝากประจำ 1 ปีน้อยมาก แต่สำหรับตราสารหนี้ทำได้ยาวถึง
5 ปี 10 ปี ในอัตราดอกเบี้ยแน่นอน" ประสบการณ์ยาวนานที่ทำแบงก์กสิกรไทยทำให้ประภัศร์มองเห็นจุดได้เปรียบเสียเปรียบ
"ถ้าพูดถึงงานไฟแนนซ์ ผมเองมาจากแบงก์ ผมค่อนข้างอยู่กับ lending
funding มากกว่า โดยเฉพาะตำแหน่งตอนนั้นผมเป็น CEO ของกสิกรไทยที่อยู่กับ
Funding มากกว่า แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำ ผมกำลังทำสำนักอำนวยสินเชื่อของเอกธนกิจ
และอะไรที่จะพาไปสู่ bank business
เอกธนกิจมีมือแขนขา เราถือหุ้นใหญ่กว่า 40% ในเอเชียเอคิวตี้ ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วไปทั้งลอนดอน
อังกฤษ อเมริกา ฮ่องกง เพราะฉะนั้นธุรกิจหลายอันผ่านเอเชียเอคิวตี้ ส่วนเรื่องของ
funding Bond หรือ ECd เราผ่านคอลล์แบงก์ของเราก็ได้ เช่นผ่านมาลีบา ลีแมน
ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ของเราอยู่ ถ้าทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีสาขาอย่างที่คุณคิด"
ประภัศร์เล่าให้ฟัง
งานบุกเบิกสำนักอำนายสินเชื่อของเอกธนกิจที่มีประภัศร์เป็นหัวเรือใหญ่
โดยมีพินิจเป็นผู้ช่วยดำเนินการเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยและยากกว่าในฐานะบริษัทเงินทุนที่ต้องปูพื้นฐานความเข้าใจตลาดลูกค้า
งานเครียดแต่ด้วยอุปนิสัยใจคออันน่ารักของประภัศร์ก็ทำให้ทีมงานมีกำลังใจ
ยามว่างประภัศร์รักการพักผ่อนด้วยการฟังดนตรีในห้องฟังเพลงซึ่งสร้างไว้อย่างพิถีพิถันในบ้าน
ชีวิตวัยเยาว์ในครอบครัวที่มีคุณแม่เล่นเปียโนได้ปลูกฝังให้หนุ่มน้อยอย่างประภัศร์รักการเล่นเป็นมือกีตาร
์และแต่งเพลงในวงดนตรีที่ตั้งกันในหมู่เพื่อนฝูง แนวเพลงโปรดที่ประภัศร์ชอบจึงหลากหลาย
แม้กระทั่งเพลงอันเดอร์กราวน์ แต่เพลงต้องห้ามที่ประภัศร์ยอมรับไม่ได้ก็คือเพลงแร็พ
วันนี้ประภัศร์ไม่ทำงานหนักเพราะต้องยอมจำนนความเจ็บไข้ได้ป่วย เอกธนกิจต้องขาดมืออาชีพที่เป็นคนสำคัญในทีมงานไปคนหนึ่ง
ในห้วงเวลาสำคัญที่เอกธนกิจจะต้องก้าวกระโดดเป็นแบงก์พาณิชย์แห่งใหม่
แต่อย่างไรก็ตาม ปิ่นก็ยังยืนยันว่า ประภัศร์ยังไม่หลีกลี้หนีหายไปไหน
"เขาถูกวางตัวให้เป็นเอ็มดีแบงก์ใหม่กลุ่มเรามาแต่ต้น แต่เมื่อเราเปลี่ยนทางมาเป็นการลงทุนซื้อหุ้นในธนาคารไทยทนุ
ก็ต้องเปิดทางให้เขาไปเป็นเอ็มดีแบงก์ใหม่ตามที่ได้รับการทาบทามมา"
ปิ่นกล่าว
เอ็มดีแบงก์ใหม่ที่ปิ่นกล่าวถึงนั้นคือ กลุ่มอิตาเลียนไทยที่มีกลุ่มเอกถือหุ้นอยู่ด้วย
นั่นก็หมายความว่า การลงจากตำแหน่งเอ็มดีเอกธนกิจของประภัศร์จึงเป็นการปลดเปลื้องภารกิจชั่วคราว
เพื่อที่จะให้ประภัศร์พักยาวและเข้าโรงซ่อมสุขภาพครั้งใหญ่ ก่อนที่เจ้าตัวจะต้องรับกับภารกิจอันหนึกอึ้งในอีกไม่นาน