โรยัล เจริญกรุงสานงานต่อเนื่องย้ำเป็นศูนย์อัญมณี


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโรยัล เจริญกรุง ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เพื่อให้เป็นอาคารศูนย์กลางธุรกิจอัญมณีครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทยนั้นเริ่มมีความไม่แน่ใจในช่วงที่อาคารหลังนี้ใกล้แล้วเสร็จ เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยเลวร้ายลงต่อเนื่อง และมีแนวโน้มดิ่งลงเรื่อยๆ ถึงขั้นพูดกันว่าทุกวันนี้เราได้เจอภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจกันนี้เป็นเพียงภาวะเริ่มต้น แล้วเหตุไฉนจะมิทำให้ผู้บริหารอาคารหลังนี้เปลี่ยนคอนเซ็ปต์การใช้งานของตัวอาคารเพื่อความอยู่รอดกันเล่า

นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ ราศรี บัวเลิศ ประธานกรรมการบริษัท โรยัล เจริญกรุง จำกัด ต้องออกมาแถลงข่าวยืนยันความตั้งใจเดิมของโครงการโรยัล เจริญกรุง ว่าจะยังคงเป็นศูนย์กลางธุรกิจอัญมณีครบวงจรแน่นอน พร้อมกับระดมพลคนเกี่ยวข้องกับงานอาคารทุกส่วน ทุกบริษัทมาร่วมงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประจักษ์ถึงความก้าวหน้าและโครงสร้างที่ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์อัญมณี

จากโครงสร้างตัวอาคารสูง 63 ชั้น ที่จอดรถ 2 พันคัน แยกการใช้งานในอาคารเป็นส่วนพลาซ่าและอัญมณีที่ชั้น 1-4 ออกแบบเป็นห้องนิรภัยไว้ที่ชั้น 13 ที่จะเป็นทั้งที่เจรจาธุรกิจบริการลูกค้าที่ต้องการชมอัญมณีมีค่าด้วยแสงธรรมชาติบริการขนส่งรับฝากอัญมณี ภายใต้ระบบป้องกันโจรกรรมและอัคคีภัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก

ส่วนของสำนักงานบริษัทและสถาบันอัญมณีในชั้น 14-38 ที่พักอาศัยขนาด 43-400 ตารางวา ระหว่างชั้น 39-60 เพนท์เฮาส์ ในชั้น 61-62 และภัตตาคารโดมสไตล์ ในชั้น 63 ซึ่งจะกลายเป็นภัตตาคารบนอาคารที่สูงที่สุดในเมืองไทยซึ่งจะบริหารงานโดยบริษัท โรยัล เจริญกรุง

ความคืบหน้าของการเป็นจะศูนย์กลางอัญมณีของโรยัล เจริญกรุง ขณะนี้กำลังอยู่ใกล้บทสรุประหว่างการเจรจากับสองสมาคมอัญมณี คือ ICA (International Colored Gemestone Assocaition) ซึ่งเป็นสมาคมอัญมณีใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา และสมาคมอัญมณีจากญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองสมาคมเป็นองค์กรการค้าอัญมณีระดับโลก

เพื่อให้เข้ามาตั้งศูนย์อัญมณี ซึ่งทั้งสองสมาคมมีแนวโน้มการตอบรับที่ดี เพราะจากการเซอร์เวย์ของทางสมาคมเอง ก็ได้มีการติดตามความคืบหน้าของโครงการโรยัล เจริญกรุง มาโดยตลอด และพบว่ายังเป็นโครงการที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าการเจรจาน่าจะรู้ผลได้ภายในปี 2540 นี้

จากพื้นที่ของโครงการทั้งหมด 330,000 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีพื้นที่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการขายพื้นที่ไปแล้วประมาณ 55% ของพื้นที่ทั้งหมด ราศรี กล่าวว่าประมาณ 20% บริษัทจะเก็บไว้ดำเนินงานเอง ซึ่งจะเป็นบริเวณพื้นที่ของโดม 2,100 ตารางเมตร และพื้นที่บางส่วนของพลาซ่า ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30% หรือประมาณกว่า 70,000 ตารางเมตร จะขายเป็นแพ็กเกจคือรวมพื้นที่ศูนย์อัญมณีและห้องชุดให้กับสมาคมที่ตกลงเข้ามาซื้อพื้นที่ ซึ่งอาจจะเป็นทั้งสองสมาคมก็เป็นได้

สาเหตุที่โครงการโรยัล เจริญกรุง ถูกเสนอขายเป็นแพ็กเกจให้กับสมาคมทั้งสอง เพราะองค์ประกอบของสมาคมด้านอัญมณี จะต้องมีทั้งส่วนที่เป็นศุลกากร ธนาคารอัญมณี ห้องมั่นคง สำนักงานบริษัทค้าอัญมณี ที่พักอาศัย จะทำให้การขายในลักษณะนี้ได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย

"การขายแพ็กเกจราคาจะแพงเพราะจำนวนพื้นที่มาก แต่ก็ถูกกว่าขายแยก เราอยากขายแบบนี้มากกว่า เชื่อว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้เพราะการดีลกับสองสมาคมเราก็มีความมั่นใจ 70% ราศรี กล่าว

ความมั่นใจของราศรี ในการขายพื้นที่ให้กับสองสมาคมอัญมณีนี้ เกิดขึ้นเพราะการเสนอขายโครงการให้กับสมาคมผู้ค้าอัญมณีนั้นเกิดขึ้นจากการที่ฝ่ายสมาคมฯ ให้ความสนใจเข้ามาก่อน เพราะเริ่มมีการจับตาดูโครงการนี้จากสมาคมฯ เหล่านั้นตั้งแต่ช่วงที่จะมีทางด่วนตัดผ่านถนนมเหสักข์ และถนนสีลม ซึ่งเป็นย่านผู้ค้าอัญมณีแหล่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ก็พบว่ามีโครงการโรยัล เจริญกรุง ซึ่งเดิมคือโครงการรังสรรค์สีลม พรีเชียส ที่ดำเนินงานโดยอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ประกาศตัวสร้างเป็นศูนย์ธุรกิจอัญมณีครบวงจร จึงติดตามและให้ความสนใจดูความเคลื่อนไหวมาตลอด

"ทางสมาคมเขามั่นใจว่าโครงสร้างของอาคารนี้เตรียมไว้สำหรับการเป็นศูนย์อัญมณีโดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงวันนี้เราก็ดำเนินงานตามโครงสร้างและคอนเซ็ปต์ที่มีอยู่เดิมทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเรายังยืนยันว่าที่นี่จะเป็นศูนย์อัญมณีครบวงจรที่แท้จริงอย่างแน่นอน แม้จะอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นอย่างไรก็ตาม ยิ่งอยู่ในช่วงค่าเงินบาทอ่อน ต่างชาติควรจะยิ่งสนใจเพราะเหมือนเขาซื้อของได้ลดราคา" ราศรี กล่าว

สำหรับราคาขายพื้นที่ของโรยัล เจริญกรุง ในตอนนี้ก็มีแผนจะปรับราคาขึ้น เป็นราคาตารางเมตรละ 70,000 กว่าบาท สำหรับห้องชุดพักอาศัย 90,000 กว่าบาทต่อตารางเมตร สำหรับห้องชุดพักอาศัยที่เป็น 2 ชั้น และชั้นโดมตารางเมตรละ 100,000 บาทเศษ ในสิ้นปีนี้ จากกำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการในปลายปี 2541

การขายเป็นแพ็กเกจถือเป็นกลยุทธ์การขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่เห็นผลชัดเจนในปีนี้ สำหรับโครงการโรยัล เจริญกรุง เพราะการขายพื้นที่ให้กับสมาคมใดสมาคมหนึ่งแล้วนั้น ทางสมาคมจะสามารถกระจายพื้นที่ไปให้กับสมาชิกของสมาคมได้โดยที่โครงการไม่ต้องเหนื่อยกับการขายปลีกพื้นที่

ที่สำคัญการที่บริษัทสามารถขายพื้นที่ให้กับสองสมาคมนี้ หรือสมาคมใดสมาคมหนึ่งได้ จะช่วยให้การขายพื้นที่ของโครงการโรยัล เจริญกรุง ปิดการขายลงได้ เพราะทั้งสองสมาคมจะนำพื้นที่ที่มีอยู่ไปกระจายให้กลุ่มสมาชิก

แล้วถ้าการตกลงซื้อขายกับสองสมาคมอัญมณีเป็นไปตามที่คิด ผลพลอยได้จากการเป็นศูนย์อัญมณีที่แท้จริงของโรยัล เจริญกรุง ยังจะเกิดกับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อโครงการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ค้าอัญมณีอยู่ถึง 500-600 ราย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.