|
ไฮบริดฯKTBหมื่นล.ดอกเบี้ย6%แบกสภาพคล่องล้น6หมื่นล้าน
ผู้จัดการรายวัน(16 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"แบงก์กรุงไทย" เดินหน้าออกไฮบริด บอนด์ เม.ย.-พ.ค.นี้ วงเงิน 200-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายดอกเบี้ย 6% กว่า หลังจากต้นปีออกหุ้นกู้ไปแล้ว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังนำเงินไปขยายสาขาในสิงคโปร์และอเมริกา เผยสภาพคล่องส่วนเกินล้นถึง 6 หมื่นล้าน มองแง่ดีไม่มีแรงกดดันต้องขึ้นดอกเบี้ย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยถึงการระดมเงินต่างประเทศของธนาคารว่า ธนาคารมีแนวทางที่จะออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์กึ่งทุน (ไฮบริด บอนด์) ซึ่งการออกไฮบริด บอนด์ ก็ถือว่าเป็นตราสารที่ไม่มีการกำหนดอายุไถ่ถอน และนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ได้ ก็จะส่งผลดีต่อธนาคาร หลังจากที่ในช่วงต้นปีธนาคารได้มีการออกหุ้นกู้วงเงิน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตลาดลอนดอน (ไลบอร์) 6 เดือนบวกด้วย 0.1 % หรือประมาณ 5 % ซึ่งการระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ดังกล่าว เป็นการระดมทุนในประเทศและนำไปสว็อปเป็นเงินตราต่างประเทศ มีต้นทุนที่ถูกกว่าการที่ธนาคารจะไปออกเป็นเงินกู้ต่างประเทศโดยตรงที่มีต้นทุนอยู่ที่ไลบอร์ 6 เดือนบวกด้วย 0.2-0.3 %
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ซึ่งมี บล. เมอร์รินลินซ์เป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถนำออกโรดโชว์ได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน หรืออย่างช้าประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะโรดโชว์ในเอเชีย อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 6 % กว่า และหลังจากการโรดโชว์แล้วธนาคารก็ทำการจะระดมทุน"
สำหรับวงเงินในการระดมทุนอยู่ที่ 200-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณหมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจากการระดมทุนก็น่าจะไหลเข้ามาในธนาคาร จากนั้นธนาคารจะนำเงินดังกล่าวไปใช้เพื่อขยายสาขาที่สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันสาขาทั้ง 2 ของธนาคารมีต้นทุนเงินกู้ดอกเบี้ยสูง ดังนั้นจึงนำเงินดังกล่าวไปทดแทน และคาดว่าในปีนี้ธุรกิจต่างประเทศของธนาคารจะเติบโตประมาณ 6-7 %
ด้านความคืบหน้าการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจหลักทรัพย์ของธนาคารนั้น นายอภิศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 3-4 แห่ง ซึ่ง บมจ.ทรีนีตี้ ก็เป็นแห่งหนึ่งที่ดูอยู่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และคาดว่าจะจบได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 จากเดิมที่คาดว่าจะจบในไตรมาสที่ 1
ทั้งนี้ ที่มีการเลื่อนเวลาออกไปเป็นไตรมาสที่ 2 เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย โดยการขยายเครือข่ายของธุรกิจหลักทรัพย์ ธนาคารอยากมีสัดส่วนการถือหุ้นตั้งแต่ 40 % ขึ้นไป ซึ่งธนาคารก็ต้องการให้หลักทรัพย์ที่ธนาคารถือหุ้นใหญ่ทำธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ ให้กับธนาคาร ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของธนาคาร
ในส่วนของสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารนั้น ปัจจุบันธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ประมาณ 60,000 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงทำให้ธนาคารไม่มีแรงกดดันที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากธนาคารยังมีเงินฝากไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และธนาคารก็มีการระดมเงินฝากในรูปแบบต่างๆ ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ยังขึ้นอยู่กับธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทำให้มีเงินไหลออก ธนาคารก็จำเป็นที่จะต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นตาม เพื่อรักษาฐานของลูกค้าธนาคารเอาไว้
สำหรับการระดมเงินฝากของธนาคารของการครบรอบ 40 ปี โดยการออกให้เงินฝากประเภท 9 เดือน จ่ายดอกเบี้ย 0.25 % ที่เริ่มเมื่อวันที่ 1-24 มีนาคม 2549 นั้นถือว่าประสบผลสำเร็จในการระดมเงินฝากจากรายย่อย โดยหลังการเปิดโปรแกรมในช่วง 1 สัปดาห์มีเงินไหลเข้ามา 24,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้เพียง 20,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|