ไทยรุ่งฯฟุ้ง3ปีโกย5พันล.ทุ่มงบผลิตชิ้นส่วนOEM


ผู้จัดการรายวัน(9 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ไทยรุ่งฯ ฟุ้งอีก 3 ปีโกยยอดขายได้เกือบ 5 พันล้านบาท พร้อมทุ่มงบ 720 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มกำลังผลิตชิ้นส่วน OEM เพิ่ม หลังพบว่ายอดขายสินค้านี้เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะลูกค้าต้องการสินค้าชนิดนี้เพิ่มต่อเนื่อง เผยการจับมือกับทาทา มอเตอร์ของอินเดีย จะได้ข้อสรุปเมษายนนี้

นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) (TRU) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ยอดขายของบริษัทฯ ใน 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตในระดับ 4.5-5 พันล้านบาท ขณะที่ปี 48 บริษัทฯมียอดขายประมาณ 3,050 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากยอดขายผลิตชิ้นส่วน OEM ที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังร่วมมือกับบริษัทอื่นในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่าย

เนื่องจากสัดส่วนจากยอดขายจะพบว่ารายได้จากการผลิตชิ้นส่วน OEM เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 86% ซึ่ง TRU ผลิตอยู่ 2 แบบคือชิ้นส่วนขึ้นรูปและพลาสติก หลังพบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี โดยชิ้นส่วนขึ้นรูปนั้นบริษัทผลิตให้กับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซูและโคมัตซุ ด้วยการผลิตผ่านการสั่งซื้อของ บริษัท อาปิโก้ ไฮเทค จำกัด(มหาชน) และปีนี้จะมีออร์เดอร์จากโตโยต้าเพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลต่อยอดขายสินค้านี้เพิ่มขึ้นด้วย

"แต่ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เราจะมีรายได้จากชิ้นส่วนพลาสติกเข้ามาเพิ่ม ตลอดจนตัวกระบะรถบรรทุก (FLAT DECK) ซึ่งเป็นตัวหนึ่งของ OEM ก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 25-30% จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะที่ Dies and Jig จะลงทุนอีก 120 ล้านบาท เพราะเป็นสินค้าที่ขายได้ดีต่อเนื่อง ดังนั้นเราจะเน้นออกแบบชิ้นส่วนพลาสติกตกแต่งรถ " นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทจะลงทุนสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรพิ่ม ในส่วนของบริษัท ไทยออโต้ เพรสพาร์ท จำกัด มูลค่า 500 -600 ล้านบาท คาดเริ่มผลิตได้ปลายปีนี้หรือต้นปี 50 และรองรับความต้องการของตลาดได้ใน 3 ปี โดยจะผลิต FLAT DECK เพิ่มเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เพราะออสเตรเลีย สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง มีความต้องการสินค้านี้มาก

สำหรับการร่วมทุนกับ ทาทา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ของอินเดีย เพื่อทำธุรกรรมเกี่ยวกับรถยนต์ในไทย เนื่องจาก TRU มีศักยภาพดีที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น เพราะสามารถประกอบและผลิตชิ้นส่วนได้ครบวงจร ซึ่งการเจรจาคืบหน้าไปมาก เพราะเป้าหมายของทาทามอเตอร์ ต้องการเจาะตลาดในอาเซียน และในไทย ซึ่งรถที่จะผลิตในช่วงแรกจะเป็นรถปิคอัพ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ไตรมาสแรกหรืออย่างช้าไม่เกินเมษายนนี้ หลังจากที่ TRU ได้ร่วมมือกับมาเลเซีย ที่จะนำรถยนต์เอนกประสงค์ไปประกอบและผลิตในมาเลเซีย อันจะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม TRU ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ดัดแปลงของบริษัทจะเพิ่มขึ้น ถึง 15% หรือคิดเป็นจำนวน 2,300-2,400 คัน โดยผลิตเป็นรถแท็กซี่ประมาณ 800-1,000 คัน เนื่อจากในเดือน มีนาคมถึงเมษายน โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( SME BANK) จะเปิดโครงการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่ต้องการขับรถแท็กซี่ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับเลือกจากผู้ใช้รถในการซื้อรถของบริษัท 500-600 คัน บางส่วนก็ผลิตเป็นรถลีมูซีน ประมาณ 800 คัน ขณะที่ปี 48 TRU ทำยอดขายในโครงการนี้ประมาณ 257 คัน

นอกจากนี้ ในเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการแก้กฎหมายให้รถนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง สามารถจดทะเบียนเป็นรถป้ายเขียว เพื่อใช้รับส่งผู้โดยสารในสนามบิน ซึ่งทำให้ยอดขายรถของบริษัทฯ ในปีนี้เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 800-1 พันคัน

นายสมพงษ์ กล่าวว่าในครึ่งปีหลัง บริษัทก็จะมีการพัฒนารถเอนกประสงค์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น หลังจากในปี 48 รถเอนกประสงค์ของบริษัทฯ มียอดขายลดลงเนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น จากการที่บริษัทฯ ไม่ได้มีรถแบบใหม่ๆ เข้าไปในตลาดจะเน้นการลงไปที่การผลิตสินค้า OEM มากขึ้น หลังจาพบว่าความต้องการสินค้าชนิดนี้

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานเมื่อปี 48 พบว่ากำไร 119.78 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 47 ที่มีกำไรสุทธิ 527.01 ล้านบาท ขณะที่มียอดขายลดลงจากปี 48 เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่คู่แข่งได้ออกรถรุ่นใหม่ออกมา และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.