ราคาหุ้นเพาเวอร์-พีร่วง11%หลังเจอตลาดหุ้นจี้แจงงบการเงินเพิ่ม


ผู้จัดการรายวัน(8 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ราคาหุ้น "เพาเวอร์-พี" ร่วงเกือบ 11% หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งชี้แจงรายละเอียดงบการเงินปี 2548 ถี่ยิบรวม 5 ประเด็นหลัก โดยเฉพาะการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญฯ 82.5 ล้านบาท จากากรจ่ายเงินล่วงหน้าและเงินกู้ยืมของบริษัทร่วม รวมถึงกรณีที่ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 192 ล้านบาท และการซื้อหุ้น LVCD มูลค่า 119.9 ล้านบาท รวมถึงรายละเอียดการปรับโครงสร้างหนี้

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นของบริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนได้รับข่าวความไม่โปร่งใส หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งให้ POWER ชี้แจงรายละเอียดงบการเงินปี 2548 เพิ่มเติม ทำให้ราคาหุ้นร่วง ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 4.86 บาท ลดลง 0.59 บาท หรือ 10.83% มูลค่าการซื้อขายรวม 18.66 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ POWER ชี้แจงข้อมูลงบการเงินประจำปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2548 เพิ่มเติมภายในวันที่ 13 มีนาคมนี้ หลังจากที่ POWER ได้นำส่งงบการเงิน แต่จากการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว พบว่ายังมีบางประเด็นที่รายละเอียดยังไม่เพียงพอ และอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนได้

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทชี้แจงเพิ่มเติม 5 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นแรก การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 4 ปี 2548 จำนวน 82.5 ล้านบาท จากการจ่ายเงินล่วงหน้าค่าก่อสร้างแก่บริษัท พี.ไพรส์ ซัพพลายส์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (พีไพรส์) 29.7 ล้านบาท และเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท ยูเนี่ยน อินฟาร์เทค จำกัด (ยูเนี่ยน) รวมดอกเบี้ยค้างรับ 52.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ POWER ค้ำประกันตามสัญญาจำนวนรวม 179 ล้านบาท โดยนำเงินฝากธนาคารค้ำประกันตามสัญญาก่อสร้างของกิจการร่วมค้ายูบีซีพาวเวอร์ กับกรมชลประทาน ซึ่งกิจการร่วมค้าถือหุ้นโดย ยูเนี่ยน 88% POWER 10% ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล วอเตอร์ แอนด์ อีเลคทริค คอร์ปอเรชั่น 1% และบริษัท บางกอกมอเตอร์ อีควิปเมนท์ จำกัด 1%

ผู้สอบบัญชีให้ข้อสังเกตจากการตรวจสอบกรณีพิเศษว่า POWER มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและมีความเกี่ยวข้องกันกับผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาช่วง ในลักษณะมีอิทธิพลและหรือมีอำนาจควบคุมโดยเนื้อหาสาระมากกว่ารูปแบบทางกฎหมายจึงอาจเป็นเหตุให้มีรายการไม่ปกติในเชิงธุรกิจ รวมทั้งเงินให้กู้ยืมแก่ผู้ร่วมลงทุนโดยไม่ผ่านกิจการร่วมค้ารวมทั้งเงินทดรองจ่ายในโครงการร่วมลงทุน

สำหรับประเด็นดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ สาเหตุที่ POWER เพิ่งตั้งค่าเผื่อหนี้สูญยอดดังกล่าวกล่าวทั้งจำนวนในไตรมาส 4 หลักการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ การติดตามหนี้และการดำเนินการของ POWER ที่ผ่านมาเพื่อให้มีการชำระคืนหนี้ รวมทั้งความคืบหน้าหรือกำหนดการที่คาดว่าจะได้รับชำระหนี้คืนหรือได้ข้อสรุป ขณะเดียวกันต้องแจงถึงความจำเป็นที่ POWER ให้กู้ยืมแก่ ยูเนี่ยน แทนการให้กู้ยืมในนามของกิจการร่วมค้า ยูบีซีเพาเวอร์

ขณะเดียวกัน บริษัทจะต้องแจ้งรายละเอียดและความคืบหน้าของโครงการที่ดำเนินโดยพีไพรส์ ยูเนี่ยน และกิจการร่วมค้ายูบีซีพาวเวอร์ ระบุประเภทธุรกิจ ฐานะและผลการดำเนินงาน รายชื่อผู้ถือหุ้น คณะกรรมการของพี.ไพรส์ และ ยูเนี่ยน พร้อมระบุความสัมพันธ์กับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้มีอำนาจควบคุมระหว่าง POWER กับ พี.ไพรส์ และ ยูเนี่ยน

พร้อมกับลำดับเหตุการณ์ โดยระบุวันที่ เดือน และปี และจำนวนเงินในแต่ละครั้งที่ให้กู้ยืม / จ่ายเงิน จ่ายล่วงหน้าและวันที่ได้รับชำระคืน กับ ยูเนี่ยน และ พี.ไพรส์ ตามลำดับ พร้อมนำส่งสำเนาเงินให้กู้ยืม รวมถึงระบุวงเงินค้ำประกันตามสัญญาก่อสร้างของกรมชลประทาน และสัดส่วนการค้ำประกันของผู้ร่วมทุนแต่ละรายในกิจการร่วมค้ายูบีซีเพาเวอร์ หากการค้ำประกันไม่เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนขอให้ระบุเหตุผลและระยะเวลาสิ้นสุดในการค้ำประกันดังกล่าว รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่จำเป็นด้วย

ประเด็นที่ 2 รายการเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้างแก่บริษัท เมิจ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จำนวน 12 ล้านบาท ให้แจ้งรายละเอียดของบริษัทและโครงการ เช่น วันจัดตั้ง รายชื่อผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการ รวมถึงลักษณะและมูลค่าโครงการ เป็นต้น

ประเด็นที่ 3 กรณี POWER ถูกบริษัท เดอะเบสท์คอนโดมิเนียม จำกัด (เดอะเบสท์) ฟ้องร้องเกี่ยวกับการทำผิดสัญญานิติกรรมอำพรางและเรียกค่าเสียหายจำนวน 192 ล้านบาท ให้ระบุถึงสาเหตุและรายละเอียดของโครงการที่ถูกฟ้องร้อง ฯลฯ

ประด็นที่ 4 การทำสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท แอล.วี.ซี.ดี ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (LVCD) รวม 119.9 ล้านบาท กำหนดจ่ายชะระเงิน 3 งวด คือ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2548 จำนวน 60 ล้านบาท และ 31 มกราคม, 31 ตุลาคม 2549 จำนวน 35 ล้านบาท และ 24.9 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น ดังนั้นจึงให้ POWER อธิบายถึงสาเหตุที่ POWER ยังไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทั้งที่ได้จ่ายชำระเงินไปแล้ว และระบุความคืบหน้าการจ่ายชำระเงินค่าหุ้นงวดที่ 2 ซึ่งถึงกำหนดชำระแล้ว

ประเด็นสุดท้าย ความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร 320 ล้านบาท ที่บริษัทจะต้องชี้แจงรายละเอียดและความคืบหน้าการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และเงื่อนไขการชำระหนี้ พร้อมทั้งระบุยอดหนี้ ระยะเวลาการชำระหนี้ และอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทต้องชำระ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.