|
ILINKคาดยอดขายปีนี้โตกว่า25%เล็งประมูลงานเพิ่มวงเงิน1.5พันล.
ผู้จัดการรายวัน(8 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ILINK คาดยอดขายปี49 โตเกินกว่า 25% ขณะที่กำไรส่วนกำไรจะเติบโตได้ในทิศทางเดียวกัน เล็งเข้าประมูลงานอีก 1,500 ล้านบาท โดยจะรับรู้บางส่วนปีนี้ เตรียมเปิดสาขาต่างจังหวัดอีก 3 สาขา พร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 50%
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) (ILINK) เปิดเผยว่าบริษัทปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ระดับ 835 ล้านบาท หรือเพิ่มจากปีก่อน 25% และกำไรก็จะเติบโตในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบริษัทจะเน้นไปรุกธุรกิจจัดจำหน่ายและวิศวกรรม
สำหรับงานในมือ BACK LOG ของบริษัทที่มีอยู่คืองานติดตั้งให้ MEA ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 123 ล้านบาท ติดตั้งงานเพิ่มของ ITO ในสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 85 ล้านบาท และขณะนี้รอเซ็นสัญญา TOT งานCFZ มูลค่า 75 ล้านบาท และยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการประมูลอีก 1,500 ล้านบาท
โดยงานโครงการมูลค่า 1,500 ล้านบาทจะเป็นงานในส่วนของธุรกิจวิศวกรรม ประกอบด้วย โครงการประมูลวางสายเคเบิ้ลของการฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท , งานโครงการของการฟ้านครหลวงมูลค่าโครงการประมาณ 300-400 ล้านบาท รวมถึง งานโครงการจาก บมจ.ทีโอที , บมจ.กสท โทรคมนาคม ซึ่งในส่วนของงานโครงการ บริษัทฯ จะพยายามอัตรากำไรขั้นต้นในการเข้าประมูลงานซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะต้องมีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ น้อยกว่า 20%
ทั้งนี้ งานในมือของบริษัทฯ ในส่วนของธุรกิจวิศวกรรมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีงานประมาณ 250 ล้านบาท แต่ขณะนี้มีงานเข้ามาแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2549 และยังมีงานโครงการรวมมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านบาทที่บริษัทจะเข้าประมูลเพื่อขอแบ่งเค้กงานเข้ามา
"งานของการไฟฟ้าฯ จะรับรู้รายได้ปีนี้หมด เพราะตามสัญญา 8 เดือนต้องแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเดือนกันยายนนี้ ส่วนโครงการอื่นคงต้องเสร็จกลางปีนี้ เพราะสนามบินสุวรรณภูมิจะต้องเสร็จในมิถุนายนนี้ " นายสมบัติกล่าว
ทั้งนี้ หากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเลื่อนกำหนดออกไปอีก จะส่งผลดีต่อบริษัท เพราะเชื่อว่าน่าจะทำให้มีงานเพิ่มขึ้นอีก แต่ยังมั่นใจว่าไม่น่าจะเลื่อนแล้ว เนื่องจากทุกอย่างจวนแล้วเสร็จแล้ว
นายสมบัติกล่าวว่านอกจากงานที่ต้องรุกเพิ่มขึ้นแล้ว การเปิดสาขาและช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อบริษัท เพราะหลังจากที่ได้เปิดสาขาแห่งแรกที่เชียงใหม่เมื่อกลางปี 48 พบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก ดังนั้นเป้าหมายปีนี้สาขาแห่งใหม่ที่หาดใหญ่อยู่ในระหว่างก่อสร้างและคาดว่าเสร็จในปีนี้ ส่วนขอนแก่นและระยองเป็นเป้าหมายต่อไปที่จะเปิด แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะเปิดที่ใดก่อน เตรียมเปิดเป็นลำดับต่อไป
สำหรับสาขาเชียงใหม่ที่เปิดไปแล้วนั้น งานระบบโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ซึ่งหากตลาดของงานระบบนี้ได้รับความนิยมก็จะทำให้ธุรกิจจำหน่ายยสายสัญญาณคอมพิวเตอร์ได้รับความนิยมขึ้นมา ขณะที่โครงการในอนาคตนั้นมองว่างานของการไฟฟ้านครหลวงในการวางและเดินสายไฟเบอร์ระยะทางประมาณ 14,000 กิโลเมตร ในเฟส 2 ที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ประมูลในช่วงเดือนเมษายนและหากได้งานก็จะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ ซึ่ง ILINK เชื่อว่าจากประสบการณ์และการดำเนินงานในการวางระบบครั้งที่ผ่านมา จะทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจอีกครั้งเหมือนเฟสแรก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ILINK จะปรับโครงสร้างธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร และธุรกิจวิศวกรรม รวมทั้งเน้นรุกตลาดต่างจังหวัดเพื่อต่อยอดลูกค้า และจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การตลาดและการขยายสาขาไปภูมิภาค ทำให้มีการเติบโตในแง่ของกำไรเพิ่มขึ้น 52%
ทั้งนี้ ILINK จะเดินทางไปโรดโชว์ใน 4 ภาค 7 จังหวัด รวมถึงต่างประเทศคือ ลาวและเวียดนาม ที่แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่สร้างรายได้มากนัก แต่เชื่อว่าน่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในระยะยาว ซึ่งทำให้บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มจาก 40% เป็น 50%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|