เคพีเอ็นฯเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตมุ่งเจาะตปท.มั่นใจรายได้ปีนี้49โต30%


ผู้จัดการรายวัน(7 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมรุกตลาดส่งออกมากขึ้นเป็น 63% หลัง อเมริกา –ออสเตรเลียหยุดผลิต โลหะขึ้นรูป เหตุต้นทุนสูง แจงปีนี้ไม่ขยายสาขา เคพีเอ็นพลัสจากต้นทุนสูงขึ้น ผู้บริหาร มั่นใจรายได้ปี49 แตะ 3,300 ล้านบาทจากยอดคำสั่งซื้อลูกค้าเพิ่ม

นายกฤษณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) หรือ KPN เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะมีการเน้นการส่งออกสินค้ามากขึ้นเป็น 63% จากปีที่ผ่านมาที่มีการส่งออก 52% เนื่องจากความต้องการชิ้นส่วนโลหะทุบขึ้นรูป Forging และ Machining มากขึ้น เพราะ มีความแข็งแรงสูงและมีน้ำหนักเบา ประกอบกับประเทศหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียได้หยุดผลิต เนื่องจากต้นทุนค่าแรงค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันบริษัทนับว่าเป็นผู้ผลิตโลหะขึ้นรูปที่ใหญ่ในเอเชียซึ่งได้รับคำสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้บริษัทจะเน้นจะรุกตลาดญี่ปุ่นมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจาก เป็นประเทศที่เป็นรายใหญ่ทางด้านรถยนต์ และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขายสินค้าให้ญี่ปุ่นน้อยมาก ซึ่งการขายสินค้าจะเป็นลักษณะการส่งออกทางอ้อม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา

สำหรับงบลงทุนในปีนี้จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งจะมากระแสเงินสดของบริษัท ซึ่งทำให้ต้องมีการกู้ยืมเงิน เพื่อซื้อเครื่องจักรเพิ่ม และขยายกำลังการผลิตสินค้าทั้งแบบ Forging เพิ่ม 25% เป็น 25,000 ตันต่อปีจากปี48 ที่มีกำลังการผลิต 15,800 ตันต่อปี และเพิ่มกำลังการผลิต Machining อีก 50% เป็น 6,000 ตัน/ปีจากปีที่ผ่านมามีกำลังการผลิต 4,000 ตันต่อปี และลงทุนด้านระบบ เพื่อรองรับคำสั่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น

นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า บริษัทคาดรายได้รวมปีนี้จำนวน 3,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 48 ที่มีรายได้รวม 2,543 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 176 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทได้มีการเน้นที่จะส่งออกและขายให้แก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นสิ้นส่วนยานยนต์ 44% หรือ พลาสติก 30% ลอจิสติกส์ 22% และ เคพีเอ็นพลัส 4%

สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องคาดว่าปี 2010 จะมียอดขายผลิตรถยนต์ เพิ่มขึ้น 12% หรือ 1.8 ล้านคัน คิดเป็น ส่งออก 40% ใช้ในประเทศ 60% ซึ่งปี2548 มียอดขายผลิตรถยนต์ 1.2 ล้านคัน ส่งออก 37% ใช้ในประเทศ 63% ส่วนการผลิตรถยนต์คาดว่าจะมีการเติบโตปีละ 25% โดยปี2548 มีผลิต2.2 ล้านคัน

ในส่วนของศูนย์จำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ “KPN Plus” เนื่องจากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยในปี 48 มีรายได้อยู่ที่ 99 ล้านบาท ลดลงจากปี 47 ที่มีรายได้ 131 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)7% ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจดังกล่าวประมาณ 120 ล้านบาทซึ่งจะถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวและยังต่ำกว่าราคาจอง อาจะเป็น เพราะ นักลงทุนยังไม่ค่อยมีความมั่นใจในการลงทุนจากปัจจัยหลายๆด้าน ประกอบหุ้นในกลุ่มยานยนต์ก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนมากนัก แต่ส่วนตัวเชื่อว่าราคาหุ้นจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากในปี 48 มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 58% จากปี 47 และมีการจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.67%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.