UMSคาดรายได้ปีนี้เติบโต 30% ทุ่ม300ล.ซื้อเครื่องจักรขยายงาน


ผู้จัดการรายวัน(7 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

UMS เตรียมงบปีนี้ 300 ล้านบาท เพื่อ.ซื้อเครื่องจักรและสร้างคลังสินค้า พร้อมเผยมีแผนเพิ่มทุนสร้างคลังสินค้าแห่งที่ 2 หากตลาดถ่านหินขยายตัวต่อเนื่อง คาดปีนี้รายได้โต 30% และจะรักษากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 25-30%

นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่งเซอร์วิสเซสจำกัด (มหาชน) (UMS )กล่าวว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 30% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 1,125 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กที่เป็นลูกค้าหลัก

โดยบริษัทฯจะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มอุสาหกรรมที่ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื่อเพลิงซึ่งบริษัทฯได้มีการชี้แจงต่อเนื่องว่าการใช้ถ่านหินจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้น้ำมันเตา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งหม้อไอน้ำที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื่อเพลิงให้กับลูกค้ามากกว่า 20 ราย ซึ่งจะส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 20 รายจากปัจจุบันที่มีลูกค้ามากกว่า 80 ราย ตามเป้าหมายเกิน 100 รายในปีนี้ และจะเน้นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็กยังเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี ในปี 49 บริษัทฯ ทุ่มงบลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ จังหวัดสมุทรสาครเพื่อรองรับปริมาณสต็อกสินค้าและช่วยลดต้นทุนการขนส่ง โดยบริษัทจะใช้เงินกำไรจากการดำเนินงานจากปีก่อนบวกกับเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO โดยทางบริษัทฯเตรียมซื้อเครื่องจักรบางส่วนและปรับปรุงคลังสินค้าหลังจากก่อนหน้านี้ได้ซื้อที่ดินและพัฒนาที่ดินไปแล้วบางส่วน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคลังสินค้าดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จทันภายในปีนี้

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯมีแผนสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ 3 - 5 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้แต่หากปริมาณการใช้ถ่านหินขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทางบริษัทฯอาจปรับแผนเพิ่มการสร้างคลังสินค้าเป็น 5 - 7 แห่งในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ ซึ่งแหล่งเงินทุนดังกล่าวอาจมาจากการเพิ่มทุนหรือผลกำไรจากผลการดำเนินงานขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Margin) บริษัทจะรักษาให้อยู่ในระดับ 25-30% โดยในปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯมีกำไรอัตราขั้นต้น 31% โดยในปีนี้ก็จะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้ประมาณ 30% เนื่องจากมีการบริหารต้นทุนให้ลดลงโดยหากมีการสร้างคลังสินค้าแล้วเสร็จเร็วก็จะทำให้บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นดีขึ้น ขณะเดียวกันตั้งเป้ารักษาหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้ได้ในระดับไม่เกิน 1 เท่า จากปัจจุบันที่มี D/E ในระดับ 0.79 เท่า เพื่อให้บริษัทฯมีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.