"โค้ก มั่นใจกำลังซื้อวัยรุ่น เปิดกราฟฟิกใหม่ "แฟนต้า"


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

"แฟนต้า" เป็นน้ำอัดลมประเภทน้ำสี ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ในบรรดาน้ำอัดลมประเภทเดียวกันเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะแฟนต้าน้ำส้ม ซึ่งมียอดขายในบรรดาน้ำอัดลมรสส้มเป็นอันดับ 1 คือ

แฟนต้าน้ำส้ม มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 1 ใน 3 ของตลาดน้ำอัดลมรสส้มทั้งหมด และมียอดขายสูงเป็นอันดับ 4 จากยอดขายของน้ำอัดลมทั้งหมด

สำหรับในประเทศไทยเอง แฟนต้าน้ำส้มที่เป็นน้ำอัดลมที่เป็นที่รู้จักดี และมียอดขายสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก จาก 188 ประเทศที่มีแฟนต้าจำหน่าย โดยมีอัตราการบริโภคกว่า 3 ล้านแก้วต่อวัน รองจากประเทศเยอรมนี บราซิล และเม็กซิโก

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัท โคคา-โคล่า ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของน้ำอัดลมแฟนต้า จะตัดสินใจเลือกใช้ประเทศไทยเป็นที่เปิดตัวกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าเป็นแห่งแรก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2540 ที่ผ่านมา พร้อมกับเริ่มวางตลาดแฟนต้ากราฟฟิกใหม่ โดยเริ่มจากบรรจุภัณฑ์ประเภทกระป๋อง และตามมาด้วยประเภทขวดแก้ว ซึ่งจะใช้เวลาเปลี่ยนทั้งหมดอย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป โดยไม่หวั่นว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไทยจะเป็นเช่นไร

คริส สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตน้ำอัดลม โคคา-โคลา, แฟนต้า, สไปร์ท และ เมาเท่นดิว กล่าวออกตัวในงานเปิดตัวกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าว่า การรุกตลาดด้วยกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าครั้งนี้ จะพูดถึงในแง่ของการเติบโตเฉพาะของตลาดน้ำอัดลมแฟนต้าเท่านั้น ไม่ใช่พูดถึงการเติบโตของบริษัทไทยน้ำทิพย์หรือผู้ผลิตโค้กในประเทศไทย โดยกล่าวว่า

การที่บริษัท โคคา-โคลา ตัดสินใจเปิดตัวกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าในไทย เพียงเพราะมั่นใจศักยภาพความแข็งแกร่งของตลาดแฟนต้าในไทย ซึ่งมียอดขายอยู่ถึงอันดับ 4 ของโลก และการเจริญเติบโตของยอดขายในไทยสำหรับแฟนต้าก็ทำได้ถึง 15% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าในปี 2540 นี้ก็จะยังสามารถขยายยอดขายของแฟนต้าได้อีกเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นเดิม

สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเป้าหมายกลุ่มลูกค้าของแฟนต้าคือกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งยังคงมีกำลังซื้อโดยไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากภาวะเศรษฐกิจ และเป็นกลุ่มที่ชอบความสนุกสนานที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของกราฟฟิกใหม่

โดยการสร้างความรู้จักให้กับกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าจะใช้งบประมาณ 75 ล้านบาท เริ่มจากประเทศไทยในปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และกระจายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่จำหน่ายแฟนต้า ซึ่งโคคา-โคลา ยังมีงบต่อเนื่องสำหรับน้ำอัดลมแฟนต้าอีก 200 ล้านบาท สำหรับกิจกรรมการกระตุ้นตลาด

นายเคริก์ วีลเลอร์ ผู้จัดการภูมิภาคประจำประเทศไทย บริษัทโคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด และนายแรนดี้ แรนซัม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตก ร่วมกันเปิดเผยถึงกิจกรรมการกระตุ้นตลาดของแฟนต้าว่า กิจกรรมที่ได้ผลมาแล้วในการกระตุ้นตลาดของแฟนต้า ซึ่งบริษัทยังจะใช้เป็นแนวทางเดิมในการกระตุ้นตลาดด้วยเช่นกัน ก็คือ กิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายที่เกี่ยวโยงกับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของแฟนต้า คือ กลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-19 ปี อาทิ กิจกรรมที่ทายว่าใครไม่ได้ดื่มแฟนต้า ซึ่งสามารถกระตุ้นยอดขายแฟนต้าเพิ่มขึ้นถึง 18%

และกิจกรรมกุญแจแฟนต้าล่ารถ ก็ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 16% เช่นกัน

เช่นเดียวกัน กราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าที่เริมออกให้มาเห็นในตลาดกว่า 1 เดือนนั้น แรนดี้ แรนซัม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตก กล่าวว่า เป็นกราฟฟิกที่พัฒนาขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์เดิมของแฟนต้า ที่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นแฟนต้า แต่ปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตามการพัฒนาของสังคมมนุษย์

โดยได้บริษัท KSDP Pentagraph จากประเทศแอฟริกาใต้ เป็นผู้ออกแบบ ออกมาเป็นรูปอักษรสีน้ำเงินเข้มบนพื้นขาว รูปผลส้มและใบไม้สีเขียว

"กว่าจะสรุปแบบของกราฟฟิกใหม่ได้ลงตัว มีการแก้ไขประมาณ 3-4 ครั้ง ใช้เวลาวิจัยความชอบจากวัยรุ่นทั่วโลกกว่า 40,000 คน ก่อนจะนำมาใช้แทนกราฟฟิกเก่าซึ่งเพิ่งใช้มาได้ 5 ปี ซึ่งกราฟฟิกใหม่ที่ได้สรุปแล้วว่าเป็นกราฟฟิกที่สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสนุกสนาน ความรู้สึกร่วมสมัย และรสชาติที่เยี่ยมยอด" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดฯ กล่าว

ทั้งนี้ในด้านความนิยมของเครื่องดื่มแฟนต้า ได้มีการวิจัยจากกลุ่มนักวิจัยอิสระชื่อ กลุ่ม Brainwaves แห่งนครนิวยอร์ก ในปี 2539 โดยสำรวจจากกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลกจำนวน 25,000 คน พบว่า น้ำอัดลมแฟนต้าได้รับเลือกให้อยู่ในอันดับ 7 ในด้านการรับรู้และจดจำของตราสัญลักษณ์ซึ่งอยู่ในอันดับที่สูงกว่า ลีวายส์ และวีซ่า และได้รับเลือกให้อยู่ในอันดับ 8 ของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นและเป็นผู้บริโภคสินค้านั้นโดยตรง

และนี่คืออีกเหตุผลที่กราฟฟิกใหม่ของแฟนต้า ไม่ได้ฉีกแนวแตกต่างจากภาพลักษณ์เดิมไปโดยสิ้นเชิง

ในปี 2539 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์แฟนต้ามียอดขายกว่า 1,000 ล้านลัง โดยผู้บริหารโคคา-โคลา เองยังเชื่อว่าแฟนต้ายังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการวางจำหน่ายใน 188 ประเทศทั่วโลก โดยแบ่งอัตราส่วนการจำหน่ายสูงสุดในตลาดยุโรป คือ มียอดจำหน่าย 40% รองลงมาได้แก่ ละตินอเมริกา 26% ประเทศแถบตะวันออกกลางและตะวันออกไกล 21% แอฟริกา 9% และอเมริกาเหนือ 4%

สำหรับยอดขายของผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมของไทยน้ำทิพย์ คริส สารสิน กล่าวว่า ปัจจุบันแฟนต้ามีส่วนแบ่งในตลาดน้ำสี 80% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมรวมทั้งโค้กและแฟนต้า 60% ของมูลค่าตลาดน้ำอัดลมโดยรวม 20,000 ล้านบาท และสำหรับการเปลี่ยนกราฟฟิกใหม่ของแฟนต้าในครั้งนี้ คริส กล่าวว่า

"ไทยน้ำทิพย์มีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความนิยมของน้ำอัดลมแฟนต้าในหมู่วัยรุ่นให้มีมากขึ้น จากที่ได้รับความนิยมอยู่มากแล้วก็ตาม แต่บริษัทยังเห็นช่องว่างทางการตลาดสำหรับการเติบโตของแฟนต้าอีกมาก ซึ่งผู้บริโภคจะได้เห็นการเติบโตนี้จากโครงการส่งเสริมการขายที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทที่จะมีออกมาในเร็วๆ นี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.