ซึทาญ่าชูนโยบายปี 49 'คืนกำไรแฟรนไชซี'


ผู้จัดการรายสัปดาห์(6 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ศูนย์เช่าฯ ซึทาญ่า กวาดรายได้ปีที่ผ่านมากว่า 1,500 ล้านโต 25% ระบุธุรกิจศูนย์เช่าฯ ยังขาขึ้น ชูนโยบายปี 49 เพิ่มยอดขาย เสริมความแกร่ง ตั้งเป้าโต 20% เป็นเม็ดเงิน 1,800 ล้านขยายสาขาสูงสุด 72 สาขาดึงพันธมิตรอาหาร-เครื่องดื่ม ล่าสุดมุ่งสร้างแบรนด์รอยัลตี้ออกบัตรพ้อยท์โตะ

ธุรกิจศูนย์วีซีดี ดีวีดี เติบโตต่อเนื่องมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 8,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นธุรกิจที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ เพราะความบันเทิงภายในบ้านจากการดูภาพยนต์ยังมีราคาที่ถูกกว่านอกบ้าน

สอดคล้องกับข้อมูลของ บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีผลประกอบการในรอบปีที่ผ่านมาเติบโต 25% สร้างสร้างได้กว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งรายได้มาจาก 2 ส่วนคือศูนย์เช่า 70% สินค้า 30% เช่นแผ่นหนัง

วันชัย พละพงศ์พาณิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศ) จำกัด มองปรากฏการณ์ของธุรกิจที่เกิดขึ้นในปี 2549 ว่า 1.ต้นทุนสินค้าดีวีดีสูงขึ้นจากค่าลิขสิทธิ์ที่ปรับตัวต่อเนื่อง 2.เครื่องเล่นดีวีดีมีราคาถูกลง 3.สัดส่วนของการจำหน่ายสินค้าคือแผ่นหนังจะลดลงจากปัจจัยหลักที่อิงตลาดผู้บริโภคในอเมริกาคือเลือกซื้อเฉพาะหนังฟอร์มใหญ่ นักแสดงที่มีชื่อเสียงและหนังประเภทดูซ้ำได้เช่น การ์ตูน

ซึทาญ่าได้แปรปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นนโยบายในปี 2549 พร้อมกับการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กับศักยภาพธุรกิจที่เติบโตได้ ขยายสาขาอีก 72 สาขาใน 25 จังหวัดที่ยังไม่มีซึทาญ่าฐานสมาชิก 2.75 ล้านคน

โดยมุ่งเพิ่มการสร้างรายได้ในแต่ละสาขาเพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ มาเป็นตัวกระตุ้น ล่าสุดได้เปิดตัวบัตรพ้อยโตะ (Pointo) สำหรับการสะสมแต้มทุก 20 บาทได้ 1 แต้ม สำหรับแลกของรางวัล เช่น เช่าหนังฟรี ค่าปรับคืนหนังช้า แลกเป็นริงโทนดาวน์โหลด หรือแลกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ซึทาญ่าหรือพาร์ทเนอร์ได้ คาดว่าจะดำเนินการครบทุกสาขาในเดือนมิถุนายนนี้

และอยู่ระหว่างติดต่อพันธมิตรเพื่อคัดเลือกอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าต่างๆ เข้ามาวางจำหน่ายในร้าน โดยจะมีการพิจารณาสินค้าให้มากขึ้น ร่วมถึงการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเด็กอายุระหว่าง 10-19 ปี ซึ่งอาจจะมีโปรดักส์ต่างๆ มาสนับสนุนในการเช่า เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ซึทาญ่าตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แมคโดแนลทำมีชุดแฮปปี้มิลล์ควบคู่กับชุดเด็ก

"สัดส่วนสินค้าในร้านซึทาญ่าจะมีสัดส่วนของดีวีดีสูงขึ้น ทำให้ลดพื้นที่การจัดวางสินค้าลง ส่งผลให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้นเฉลี่ย 20% ต่อร้าน พื้นที่ว่างนี้สามารถสร้างรายได้จากสินค้าที่จะนำเข้ามาบริการ"

นอกจากนี้ ยังเป็นปีที่ซึทาญ่าตั้งเป้าขยาย 72 สาขากระจายในทุกจังหวัด จะส่งให้ซึทาญ่ามีสาขาทั้งสิ้น 323 สาขา ทั้งนี้พบว่าในอีก 25 จังหวัดส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะยังมีสาขาซึทาญ่าค่อนข้างน้อย โดยบริษัทจะทำแผนเชิงรุกยังกลุ่มจังหวัดเป้าหมาย หากการขยายสาขาเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้จะทำให้ปี 2549 เป็นปีที่ซึทาญ่าขยายสาขาได้สูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ 51 สาขา

พร้อมสนับสนุนแฟรนไชซี เพื่อลดต้นทุน ที่ต้องซื้อ เพื่อสนับสนุนในเมื่อศักยภาพบริษัทดีขึ้น ต้องคืนกลับคู่ค้า ในปีนี้มากถึง 10% ลดต้นทุนเฉลี่ย 6-10% เช่น ถุงใส่สินค้า และลงทุนระบบ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดำเนินการมากยิ่งขึ้น นำข้อมูลมาพัฒนาการบริการลูกค้า และทำให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

"ได้ลงทุนระบบ sap เพื่อเป็นบริการให้ภายในร้านเพื่อต่อเชื่อมกันในแต่ละสาขา ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้บริษัทจะมีการจัดอบรมเพิ่มสำหรับฟรนไชซีเพื่อเรียนรู้บริการใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเซอร์วิสที่ติดต่อข่าวสารกับสมาชิก เพื่อสร้างคอมมูนิตี้เกิดขึ้นในกลุ่มสมาชิกสำหรับการพัฒนาระบบตั้งงบไว้สูงถึง 60 ล้านบาทพัฒนาต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและจนถึงปี 2550"

ทางด้านการให้บริการเว็บ/ โมบาย เซอร์วิส โดยร่วมกับพันธมิตรให้บริการบนเว็บไซค์ สมาชิกสามารถเข้าไปเช็คข้อมูลเกี่ยวกับหนังที่เคยดู เช็คแต้ม และแลกแต้ม ซึ่งจะทำให้มีฐานสมาชิกที่ครบสมบูรณ์และสามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้

นอกจากนี้ยังเพิ่มงบการตลาดจากปีที่ผ่านมา 14 ล้านบาทเป็น 20 ล้านบาท เพื่อช่องทางโฆษณาสื่อทีวี วิทยุ นิตยสาร เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารสาขาแฟรนไชส์ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างยิ่งขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.