|
โกลบอลฯเน้นผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงหวังดันกำไรพุ่งปันผลงามให้ผู้ถือหุ้น
ผู้จัดการรายวัน(3 มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 12-15% ฟุ้งอีก 5 ปีโกยรายได้เกินกว่า 5 พันล้านบาท พร้อมเน้นผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงเพื่อดันกำไรทะยาน หวังสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ไม่ต่ำกว่า 6% แม้เป็นหุ้นเล็ก มาร์เก็ตแคปต่ำ สภาพคล่องน้อย
นายสมชาย คุลีเมฆิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (GC) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบของรายได้ไว้ที่ 12-15% ขณะที่จากอดีตที่ผ่านมาพบว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยในระดับเกินกว่า 20% และมั่นใจว่าแต่ละไตรมาสจะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมายอดขายจะไตรมาสละประมาณ 800 ล้านบาท จึงตั้งเป้าที่จะทำรายได้ให้เกินกว่า 5,000 ล้านบาทในปี 2510 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในระดับเกิน 5% เนื่องจากรายได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง
สำหรับธุรกิจของบริษัท เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้า จึงมีการแข่งขันค่อนข้างสูง และมีราคาเป็นตัวกำหนด แต่ GC ไม่ได้จำหน่ายชนิดนี้เพียงอย่างเดียว และลูกค้าของบริษัทก็มีกว่า 1 พันราย แต่ที่มีการซื้อขายต่อเนื่องตลอดเวลาจะมีอยู่ 600-700 ราย ซึ่ง GC จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของซัพพลายเออร์ที่ใช้บริการของบริษัท
ขณะที่ตัวเลขกำไรของบริษัทจะไม่แปรผันตามยอดขาย เนื่องจากช่วง 5 ปีหลังจากนี้ GC จะหันมาเน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพื่อดันให้กำไรโต คือสินค้าประเภทพลาสติกเกรดพิเศษและเคมีภัณฑ์เกรดพิเศษให้มากขึ้น เพราะมาร์จิ้นสูงถึง 8-20% ขณะเดียวกันก็เพิ่มปริมาณการจำหน่ายจาก 25% เป็น 40-50% แม้ว่าพลาสติกธรรมดาจะทำรายได้มากสุด 50% แต่มาร์จิ้นมีเพียง 3% เท่านั้น
จากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะส่งผลต่อสัดส่วนรายได้จากสินค้าพลาสติกเกรดพิเศษและเคมีภัณฑ์เกรดพิเศษเพิ่มเป็น 33 % และพลาสติกธรรมดาเหลือ 68% จากเดิมที่มีอยู่ 25% และ 75% ตามลำดับ ขณะที่จะได้รับผลดีจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
" เราเปลี่ยนเพราะต้องการคืนเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ไม่ต่ำกว่า 6 % ตามเป้าหมาย ที่เราจะแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหุ้นของเราเป็นหุ้นน้องใหม่ มีมาร์เก็ตแคปต่ำ และสภาพคล่องน้อย แต่เราจะเน้นเรื่องปันผลแทนและให้นักลงทุนเล่นหุ้นแบบลงทุนระยะยาว " นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่าปัจจุบัน GC มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่กว่า 200 ล้านบาท ที่จะสามารถใช้สำหรับการลงทุนในระยะเวลาอีก 5 ปีต่อจากนี้ไป โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
สำหรับผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 48 ที่บริษัทมีรายได้รวม 3,271.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,630.86 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มจาก 34.66 ล้านบาทเป็น 36.52 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอัตรา 14 สตางค์ต่อหุ้น 28 เมษายนนี้
ปัจจุบันสินค้าของ GC จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ ธุรกิจ Commodity Polymeคือวัตถุดิบพื้นฐานที่มีความผันผวนราคาค่อนข้างสูง โดยสินค้าประเภทนี้จะเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายคล่องตัว ทำให้มีปริมาณและมูลค่าการขายที่สูง โดยมากกว่า 50% ของยอดขายในหน่วยธุรกิจนี้ ส่วนธุรกิจหน่วยธุรกิจ Specialty and Engineering Polymer จะดูแลสินค้าในกลุ่มโพลีเมอร์ที่ไม่ได้ครอบคลุมในหน่วยธุรกิจ Commodity ส่วนใหญ่สินค้าเป็นสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะ มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ทนความร้อน และสารเคมี และธุรกิจ Specialty Chemical จะดูแลสินค้าประเภทสารเติมแต่ง กาวและดูแลสินค้าอื่น ๆ ในตลาดอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|