"อากู๋"ปลดพนง.แกรมมี่ลดภาระต้นทุน


ผู้จัดการรายวัน(1 มีนาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

"อากู๋"สวมบทโหดปลดพนักงานแกรมมี่ ลูกหม้อเก่าไม่ต่ำกว่า 60 คน ในสิ้นเดือนกุมภาฯ อ้างรับภาระต้นทุนไม่ไหว ฐานเงินเดือนแพงลิ่ว แง้มประตูให้กลับมารับจ็อบเป็นชิ้นๆ พร้อมประกาศรับเด็กหน้าใหม่เข้ามาทำงานประจำ GRAMMYเผยผลประกอบการสิ้นปี 48 กำไรสุทธิแค่ 496 ล้านบาท ลดลงกว่า 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อ้างยอดขายสินค้าเพลงทรุด ขณะที่ GMMM กำไรวูบ สิ้นปี 48 กำไรสุทธิ 229 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 323 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากพนักงานบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (GRAMMY) เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้ปลดพนักงานประจำ ซึ่งเป็นพนักงานเก่าของบริษัท ซึ่งทำงานมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีออกจำนวน 60 คน ซึ่งไม่แน่ว่าหลังจากนี้จะมีการปลดพนักงานเก่าเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากกิจการของแกรมมี่ผลประกอบการมีแนวโน้มกำไรสุทธิน้อยลง

นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงยังให้เหตุผลกับพนักงานที่โดนปลดในครั้งนี้ว่า เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าจ้างที่อยู่ในระดับสูงได้ โดยกลุ่มพนักงานที่โดนปลดประกอบด้วยช่างภาพ ช่างกล้อง ช่างฝ่ายตัดต่อ ช่างคอนโทรล และช่างอัดเสียง

"ที่ผ่านมา ผู้บริหารแกรมมี่พยามปิดข่าวเรื่องนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเกรงเสียภาพลักษณ์ของแกรมมี่"

อย่างไรก็ตาม แกรมมียังคงประกาศให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างให้สามารถกลับมาทำงานใหม่ได้อีกครั้ง แต่การจ้างงานจะเป็นลักษณะของการรับงานไปทำเป็นแต่ละกรณีไป ขณะเดียวกันในส่วนตำแหน่งงานที่ว่างลง แกรมมี่ตัดสินใจรับพนักงานใหม่ เข้ามาทำแทน เนื่องจากต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับพนักงานเก่าที่มีอายุงานสูง

**แกรมมี่แจงกำไรทุดฮวบ
**ยอดขายสินค้าเพลงลด

รายงานข่าวจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ( GRAMMY ) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ปรากฏกำไรสุทธิเป็นจำนวน 203.51 ล้านบาท กำไรสุทธิดังกล่าวลดลงเป็นจำนวน 496.69 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 700.20 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 71%

ผลการดำเนินงานที่ลดลง เนื่องจากบริษัทมีรายได้ลดลงจาก 6,671.45 ล้านบาท ในปี 2547 เป็น 6,313.28 ล้านบาท ในปี 2548 หรือคิดเป็นอัตรา 5% โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจเพลง ถึงแม้ธุรกิจDigital จะมีการขยายตัวของรายได้ ในขณะที่ รายได้จากธุรกิจสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ลดลงสุทธิจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์ และธุรกิจกิจกรรมทางการตลาด

สำหรับรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพลงลดลง 16% อันเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้เกิดการชะลอตัวของการบริโภคอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนอัลบั้มของเพลงที่ออกจำหน่ายในปีปัจจุบันจะใกล้เคียงกับจำนวนอัลบั้มของเพลงที่ออกจำหน่ายในปีก่อนก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงลักษณะการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจากซื้อสินค้าเพลงในรูป เทป ซีดี วีซีดี เป็นการซื้อสินค้า Digital เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจ Digital เพิ่มขึ้นในอัตรา 23% ซึ่งสามารถชดเชยการลดลงของรายได้ของธุรกิจเพลงในบางส่วน

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจนี้เป็นผลจากการพัฒนาช่องทางและวิธีการจำหน่าย ซึ่งเป็นผลให้บริษัทสามารถเพิ่มรายได้และลดการพึ่งพารายได้จากผู้ประกอบการ Mobile Operator ได้บางส่วน

อีกทั้ง บริษัทมีการขยายธุรกิจทางด้าน คาราโอเกะ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจเพลงในอนาคต

รายงานข่าวกล่าวว่า ภายหลังเหตุการณ์สึนามิในช่วงต้นปี 2548 รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตในครึ่งปีหลังของปี 2548 ปรับตัวขึ้นจนมีรายได้ใกล้เคียงกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้รายได้สะสมของปี 2548 จะลดลงจากปี 2547 อันเป็นผลจากการไม่มีการจัดละครเวทีในปี 2548 เนื่องจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ภายในกลุ่ม จีเอ็มเอ็ม มีเดีย4. รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ลดลง 12% เนื่องจากในปี 2549 มีจำนวนภาพยนตร์ออกฉายน้อยกว่าปี 2549 อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถเพิ่มรายได้ของธุรกิจภาพยนตร์โดยการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในต่างประเทศ

ส่วนรายได้ธุรกิจสื่อลดลงจากการลดลงของรายได้วิทยุ 10% ตามสภาวะอุตสาหกรรมที่ลดลง และการลดลงของคลื่นที่กลุ่มบริษัทบริหารจาก 6 คลื่น เป็น 5 คลื่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2548

สำหรับกำไรสุทธิจากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น 35% จากการออกนิตยสารใหม่ 2 เล่ม คือ Maxim และ In Magazine รวมถึงการขยายธุรกิจกิจกรรมทางการตลาดผ่านการลงทุนในกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) ในอัตรา 50% ในช่วงปลายเดือน มิถุนายน2548

รายงานข่าวกล่าวว่า บริษัทมีผลขาดทุนจากการสำรองเผื่อการด้อยค่าในเงินลงทุนในบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (UBC) จำนวน 32.2 ล้านบาท อันเนื่องมาจาก UBC ขอเพิกถอนหุ้นสามัญของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัทมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในต่างประเทศจำนวน 67.8 ล้านบาท อันเนื่องมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสาเหตุหลัก


**GMMMกำไรวูบเหลือ229ล้าน
**ทุ่มทุนสร้างโอเพ่นเรดิโอ100ล้าน

ขณะที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) (GMMM) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2548 มีกำไรสุทธิ 229.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.17 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 323.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.68 บาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีมติการลงทุนในบริษัทโอเพ่น เรดิโอ จำกัด ดำเนินธุรกิจกิจการวิทยุประเภทสถานีข่าว ทุนจด ทะเบียน 1,000,000 หุ้น ราคาตามมูลค่าหุ้นละ 100 บาทเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.