|

Year of Growth through Strategic Investment
นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"ปี 2549 นี้จะเป็นปีแห่งการเติบโตด้วยกลยุทธ์การลงทุน" กลายเป็นประโยคเด็ดสำคัญของธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น ในวันงานแถลงข่าวความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในรอบปีที่ผ่านมา และทิศทางของการดำเนินกิจการในปีนี้ทั้งปีของบริษัท ที่ต้องไปจัดไกลกันถึงเกาะเต่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี ต่างจากปีที่ผ่านมา ที่สามารถได้ตั้งคอนเซ็ปต์ หรือกลยุทธ์ในการทำงานด้วยคำว่า "Year of growth through creativity" (อ่าน "Growth through Creativity" เพิ่มเติมได้ที่คอลัมน์ new & trend นิตยสารผู้จัดการ ฉบับเดือนมีนาคม 2548)
ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสามารถโตวันโตคืนอย่างที่ผู้บริหาร คาดการณ์เอาไว้ หลายกิจการโดยเฉพาะการขายโทรศัพท์มือถือ house brand ที่โดดเด่นและทำกำไรได้ทะลุเป้า กลายเป็นเบอร์หนึ่ง ในด้าน house brand หรือมือถือแบรนด์ไทยได้ภายในพริบตาด้วย มูลค่าการขายปีเดียวถึง 1.3 ล้านเครื่อง สุขภาพทางด้านการเงินของ สามารถดีขึ้น โดย net profit ของบริษัทโตขึ้นกว่า 37 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้การลงทุนหลายอย่างยืดหยุ่นขึ้น
เช่นเดียวกันกับที่หลายๆ กิจการของบริษัทเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งการลงทุนในประเทศและประเทศใกล้เคียง
นอกจากนี้ ปี 2548 ยังถือเป็นปีแห่งความภูมิใจของสามารถ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราตั้ง หรือครุฑ ให้แก่บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2548 หลังถือกำเนิดขึ้นมาในประเทศไทยด้วยอายุยาวนานถึง 50 ปี
ธวัชชัยในเครื่องแต่งกายลำลองเหมาะกับการแถลงข่าวนอกสถานที่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า แม้ธุรกิจหลักของบริษัทยังหนีไม่พ้นที่จะเกี่ยวเนื่องกับไอที และยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักอยู่เช่นเดิม แต่นับจากนี้เป็นต้นไป เงินมูลค่านับหมื่นล้านจะถูกทุ่มลงไปกับธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยี แต่อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีไอทีเพียงเท่านั้น นับเป็นปีแห่งการลงทุนอย่างแท้จริงของกลุ่มบริษัท
สามารถวางตำแหน่งของธุรกิจใหม่ที่จะลงทุน ทั้งธุรกิจพลังงาน, ธุรกิจรักษาความปลอดภัย และธุรกิจกำจัดของเสีย ให้เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาวให้กับบริษัท โดยมั่นใจว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจที่ลงทุนไปนั้นล้วนแล้วแต่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลายเป็นฐานรายได้สำคัญของบริษัท ในเวลานี้ ปีที่ผ่านมารายได้กว่า 5 พันล้านบาทจาก 18,000 ล้านบาท นั้นมาจากการลงทุนในต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา ศรีลังกา มาเลเซีย เวียดนาม หรือแม้แต่จีนที่เป็นความหวังของบริษัท
ปีนี้จึงเป็นปีที่ไม่ได้หนักเฉพาะการลงทุนของบริษัทเท่านั้น แต่ธวัชชัยยังทิ้งท้ายด้วยว่า ยังเป็นที่หนักหนาสำหรับผู้บริหารในเครือไม่น้อย เพราะแต่ละคนต้องลงทุนไปเรียนภาษาจีนเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมกับการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|