“ทีโอที”เตรียมบล็อกสัญญาณทรู ห้ามโทรเข้า-ออกมือถือทุกระบบ


ผู้จัดการรายวัน(24 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีโอทีสู้หลังชนฝา เตรียม 2 เรื่อง 1.ฟ้องทรูให้จ่ายผลประโยชน์กรณีโทรศัพท์ของทรู โทรผ่านโครงข่ายทีโอทีไปยังโทรศัพท์มือถือ และ 2. เตรียมไม้ตายบล็อกสัญญาณทำให้เลขหมายโทรศัพท์ทรูไม่สามารถโทรเข้า-ออก โทรศัพท์มือถือได้ทุกระบบ ส่วนการยื่นเรื่องศาลปกครองเตรียม 3เหตุผลให้เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ

แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที กล่าวว่าทีโอทีจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้ทีโอทีจ่ายชดเชยให้บริษัท ทรูคอร์ปอรชั่นเป็นเงินประมาณ 9.2 พันล้านบาทรวมดอกเบี้ยอีก 7.5% หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทด้วยการอ้างเหตุผลดังนี้

1.คำชี้ขาดไม่เป็นไปตามสัญญาร่วมการงาน เนื่องจากเมื่อคู่สัญญาไม่ได้กำหนดลักษณะของบริการพิเศษไว้ คณะอนุญาโตฯ ไม่มีอำนาจชี้ขาดว่าบริการใดเป็นบริการพิเศษ และไม่มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณส่วนแบ่งรายได้ เนื่องจากตามสัญญากำหนดให้คู่สัญญาต้องทำความตกลงกัน และรายได้ที่เกิดขึ้นโดยยังไม่มีการตกลงกันย่อมตกเป็นของทีโอทีตามสัญญา

2.คำชี้ขาดไม่เป็นไปตามกฏหมาย คณะอนุญาโตฯกำหนดให้ภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเป็นของฝ่ายทรู และให้ทีโอทีเป็นฝ่ายสืบแก้ แต่ปรากฏว่าทรูได้นำส่งเอกสาร การคำนวณส่วนแบ่งรายได้แต่ไม่นำพยานบุคคลซึ่งจัดทำเอกสารดังกล่าวสืบยืนยันเอกสารเพื่อให้ทีโอทีมีโอกาสสืบพยานดังกล่าวหักล้างความถูกต้องของเอกสาร

3.คำชี้ขาดเกินคำขอ หากคณะอนุญาโตฯมีคำชี้ขาดให้ทีโอทีชำระเงินให้ทรู โดยไม่หักจากส่วนแบ่งรายได้ เนื่องจากทรูขอให้หักจากส่วนแบ่งรายได้และฝ่ายทีโอทีมิได้โต้แย้งคำขอดังกล่าว

ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงที่เป็นแนวทางต่อสู้ของทีโอทีปรากฏว่า

1.โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เชื่อมต่อกับโครงข่ายของทีโอทีก่อนที่ทรูจะทำสัญญาร่วมการงานและทรูก็ทราบก่อนแล้วว่าต้องทำการเชื่อมโครงข่ายทรูเข้ากับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มิใช่บริการพิเศษตามที่ทรูกล่าวอ้าง

2.ในสัญญามิได้ให้คำนิยามคำว่าบริการพิเศษ แต่โดยความหมายของ ITU ที่เป็นสากล จะอธิบายว่าบริการพิเศษ หมายถึงบริการนอกเหนือจากการให้บริการปกติ การให้บริการโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์ประจำที่ ต่างก็เป็นการให้บริการปกติของพื้นฐาน การโทรเข้า-ออก มิใช่บริการพิเศษ

และ 3.ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รายได้ที่เกิดขึ้นเมื่อมิได้ตกลงก่อน ย่อมต้องตกเป็นของทีโอทีตามสัญญาร่วมการงานข้อ 33

สำหรับการตอบโต้ของทีโอทีนอกจากฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯซึ่งจะทำให้คำชี้ขาดต้องรอการบังคับคดีไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว ทีโอทีก็จะ1.ยื่นฟ้องให้ทรูชำระผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่โทรศัพท์ในโครงข่ายของทรูโทรผ่านโครงข่ายของทีโอที เข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่เช่นกัน และ 2. ทีโอทีจะระงับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านเข้าโครงข่ายของทรูจนกว่าทรูจะขอเจรจาเกี่ยวกับค่าผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งจะมีผลทำให้เลขหมายในโครงข่ายของทรูไม่สามารถเรียกออก-เข้า กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทุกระบบ

“ถึงที่สุดต่อไปเลขหมายทรูก็คุยกันเองเฉพาะโครงข่ายทรู ไม่ต้องโทรออกไปหามือถือ และมือถือก็โทรเข้าหาเบอร์ทรูไม่ได้ เพราะทุกโครงข่ายต้องต่อผ่านทีโอทีหมด ซึ่งเอกชนรับรู้ตั้งแต่ตอนทำสัญญาแล้ว”

แหล่งข่าวกล่าวว่าขณะนี้พนักงานและผู้บริหารทีโอทีที่ไม่ใช่เป็นร่างทรงของบริษัทเอกชนต่างรู้สึกไม่มั่นคงกับอนาคตของทีโอที และแสดงออกด้วยการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างกัน โดยกลุ่มพนักงานพิทักษ์ ทีโอที นำโดยนายมิตร เจริญวัลย์ อดีตประธานสหภาพฯ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่องสนับสนุนให้ยกเลิกสัญญาบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น นำพนักงานจำนวนหนึ่งมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ดทีโอที และพล.ต.ท.บุญฤทธิ์ รัตนะพร นายสันติ ถิรพัฒน์ และนายสมชาย เธียรอนันต์ กรรมการบอร์ด รวมทั้งนายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่

นายมิตรกล่าวว่าในสถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องให้กำลังใจประธานบอร์ดและผู้บริหารที่กล้าตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารมักอลุ่มอล่วยให้กับเอกชนเพราะมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน โดยเฉพาะผู้บริหารบางคนเมื่อเกษียณจากทีโอทีก็ไปทำงานที่บริษัททรูหลายคน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่เหมาะสม รวมทั้งผู้บริหารด้านดูแลผลประโยชน์ก็ต้องให้ความสนใจกับเรื่องนี้เพราะทรูดำเนินการละเมิดสัญญาหลายเรื่อง เช่นการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็ว การทำธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การนำทราฟิกเข้ามาภายในประเทศและให้บริการพีซีที บัดดี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดทีโอทีต้องเอาจริงเรียกค่าเสียหายก่อนบอกเลิกสัญญา

ส่วนสหภาพฯทีโอทีชุดปัจจุบัน ที่แปลงสภาพจากสหภาพแรงงานรัฐิสาหกิจที่ดำเนินการเพื่อพนักงาน ปกป้ององค์กร กลายเป็นสหภาพฯผู้บริหาร ที่คอยเดินตามและทำตามผู้บริหารสั่ง เนื่องจากเข้ากันได้ดีกับผู้บริหาร แต่ยืนคนละข้างกับบอร์ด ก็ยกขบวนพนักงานไปวางหรีดที่วิทยาลัยพยาบาลหัวเฉียว บางพลี ที่เป็นที่ทำงานของนายประสิทธิ์ โฆวิไลกุล ที่เป็นประธานคณะอนุญาโตฯชุดตัดสินให้ทีโอทีแพ้ ซึ่งนายประสิทธิ์เป็นคนที่นายเข็มชัย ชุติวงศ์ บอร์ดทีโอทีแนะนำ ซึ่งทำให้บอร์ดและผู้บริหารทีโอทีมั่นใจว่าปิดประตูแพ้ แต่ปรากฏว่ารปภ.ไม่ให้เข้าจนเกิดเหตุกระทบกระทั่งถึงขั้นวางมวย ซึ่งถือว่าทำให้ภาพลักษณ์ทีโอทีเสียหายหนักขึ้นไปอีก รวมทั้งยังมีการนัดหมายพนักงานทีโอทีให้แต่งชุดดำไปประท้วงทรูที่อาคารทรูทาวเวอร์ในวันนี้ (24 ก.พ.) ซึ่งไม่น่าจะถูกเรื่องนัก

แหล่งข่าวกล่าวว่ากระบวนการอนุญาโตฯ ที่ผ่านมารัฐมักไม่ค่อยได้เปรียบเอกชน เพราะเอกชนสามารถล็อบบี้ได้ง่ายกว่า และคดีสำคัญๆที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก รัฐจะแพ้เอกชนมาตลอด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.