|

เว้นค่าต๋งบีอีอุ้มแบงก์สำลักเงินฝาก
ผู้จัดการรายวัน(22 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แบงก์ชาติเตรียมยกเว้นเงินสมทบ 0.4% เข้ากองทุนฟื้นฟูฯ ให้สถาบันการเงินที่ออกตั๋วบีอี หวังดูดสภาพคล่องส่วนเกิน เปิดทางแบงก์ขึ้นดอกเบี้ย-สกัดเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมาย หม่อมอุ๋ยหวังเห็นแบงก์พาณิชย์พร้อมใจออกตั๋วภายในเดือนหน้า บิ๊กกสิกรไทยคาดแบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% อีก 2 ครั้ง ภายในครึ่งปีแรก
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้อนุญาตให้สถาบันการเงินออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) โดยไม่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟู 0.4% เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์น่าจะเป็นทางเลือกในการบริหารสภาพคล่องและยังเป็นทางเลือกให้กับคนฝากเงิน
ทั้งนี้ ปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารมีมากกว่า 3 แสนล้านบาท ดังนั้นธนาคารพาณิชย์น่าจะให้ความสนใจ โดยเฉพาะการยกเว้นการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟู ทำให้ต้นทุนต่ำลง อย่างไรก็ตาม ธปท.จะไม่มีการบังคับ
"คาดว่า ภายในมี.ค.นี้ ธนาคารพาณิชย์จะสามารถออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รับฝากเงินรูปแบบใหม่ได้"
ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวว่า เนื่องจากไม่ต้องส่งเงินสมทบให้กองทุน รัฐบาลจะไม่ค้ำประกันหรือคุ้มครองเหมือนเงินฝากทั่วไป อัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนตั๋วบี/อี จึงสูงกว่าเงินฝากประเภทออมทรัพย์และเงินฝากประจำบางประเภท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินที่นิยมออกตัวบี/อี คือบริษัทเงินทุน (บง.) ส่วนธนาคารพาณิชย์ใช้วิธีระดมเงินฝาก เนื่องจากมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ การยกเว้นการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟูครั้งนี้ นอกจากเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องในระบบแล้ว อาจลดความกดดันในการการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้นเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อของ ธปท. นอกจากนี้ปัจจุบันเงินทุนต่างประเทศยังคงไหลเข้า หากไม่เปิดทางให้สถาบันการเงินมีทางเลือกมากว่านี้ นโยบายทางการเงินอาจประสบปัญหา เชื่อว่า ธปท.จะเข็นมาตรการต่างออกมาเพิ่มเติมต่อไป
***คาดQ1กนง.ขึ้นดอกเบี้ย0.25%อีก2ครั้ง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า แนวโน้มที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีความเป็นไปได้สูง การเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศไม่แตกต่างกับเฟดมากนัก
"เมื่ออัตราดอกเบี้ยของเฟดขึ้นไปถึงระดับ 5% แล้ว ก็เชื่อว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศเริ่มจะทรงตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ของไทย จะทยอยปรับขึ้นไปจนถึงกลางปีนี้เช่นกัน"
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 8 มีนาคมนี้ กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 ส่วนธนาคารกรุงไทยจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือไม่นั้น คงต้องรออีกระยะหนึ่ง โดยสภาพคล่องของธนาคารในขณะนี้ยังมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 14 วัน อยู่ที่ระดับ 4.25% ต่อปี โดย กนง.ปรับขึ้น 0.25% เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|