อสังหาฯควบคุมหนี้รับมือการเมืองเสี่ยง


ผู้จัดการรายวัน(22 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัทอสังหาฯผวาเสถียรภาพรัฐบาล บิ๊กพลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯรับมือความเสี่ยง เน้นบริหารกระแสเงินควบคู่บริหารหนี้สินต่อทุน พร้อมเปิดตัวโครงการร่วมทุน J&W เล็งทาวน์เฮาส์-คอนโดฯโลว์ไรท์ลาดพร้าว 15 และ 18 เตรียมรับมือเมกะโปรเจกต์ดูดบริษัทรับเหมา ดึง GEN รับเหมาก่อสร้างแบรนด์พลัส ซิตี้พาร์ค 2 โปรเจกต์ต่อ ด้านผู้บริหาร GEN ระบุศักยภาพของบริษัทตอนนี้รับงานโครงการได้ 1,000 ล้านบาท

นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัทในเครือแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความไม่แน่นอนในสถานการณ์เมืองขณะนี้ว่า ภาคเอกชนต่างๆ ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยกำลังพิจารณาหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลงหรือไม่ ขณะที่ภาคเอกชนได้เตรียมความพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการบริหารโครงสร้างทางการเงิน บริหารสภาพคล่อง และบริหารหนี้สินต่อทุนให้ดี อย่างไรก็ตามในส่วนของพลัสฯ มีจุดแข็งในเรื่องของการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางที่ชัดเจน ทั้งเรื่องของโครงการทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับยอดขายของบริษัทมีการขายล่วงหน้าแล้ว ซึ่งเหลือเพียงการส่งมอบที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าเท่านั้น

" พลัสฯเรารอดูการเมืองอยู่ แต่ถามว่าจะหยุดลงทุนก็คงไม่ใช่ เพราะพลัสได้ขายนำไปแล้ว จึงต้องเดินหน้าต่อ ส่วนบริษัทเอกชนรายอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงการตัดสินใจก็คงประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง "นายเมธากล่าว

ในส่วนของแผนธุรกิจในปี 2549 ประธานอำนวยการฯกล่าวว่า มีแผนที่จะลงทุนโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โครงการทาวน์เฮาส์ประมาณ 4-5 แห่ง โครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 4-5 แห่ง โดยในส่วนของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทพลัสฯกับบริษัท เจแอนด์ดับบลิว ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ J&W (สัดส่วน51% และ 49%)

ขณะนี้มีความชัดเจนในการพัฒนาโครงการแล้ว ซึ่งแผนล่าสุดจะลงทุนเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ 2 ทำเล คือ ที่ซอยลาซาลบริเวณสุขุมวิท 105 และที่ทำเลงามวงศ์วาน ราคาขายประมาณ 2-4 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่ลาดพร้าว 15 และ 18 รูปแบบโลว์ไรท์ สูงประมาณ 7 ชั้น มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาทต่อโครงการ จำนวน 80 ยูนิต ราคาขายประมาณ 43,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

นายวิชญา จาติกวณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN ซึ่งเป็นผู้ผลิตเสาเข็มรายใหญ่ กล่าวภายหลังพิธีการลงนามเป็นพันธมิตรร่วมกับพลัสฯว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดย GEN ได้เข้ารับเหมาก่อสร้างบ้านในโครงการพลัส ซิตี้ พาร์ค พระราม 9-หัวหมาก และโครงการพลัส ซิตี้พาร์ค สุขุมวิท 101/1

" ความจริงแล้วถือว่าพลัสฯเป็นพันธมิตรที่ให้โอกาสกับ GEN อย่างมาก ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมา GEN เป็นเพียงผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเท่านั้น แต่ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับนโยบายที่จะขยายไปสู่งานรับเหมาโครงการขนาดเล็ก และมองหาโอกาสที่จะไปรับงานให้กับโครงการอื่น ซึ่งแนวทางที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนรับเหมาก่อสร้างนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะหารายได้เสริมจากธุรกิจหลักคือเสาเข็ม โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ บริษัทยังไม่ได้นำเข้าไปร่วมกับการประมาณการรายได้เมื่อปีที่ผ่านมา" นายวิชญากล่าว

ดังนั้น รายได้จากการก่อสร้างของ GEN จึงถือเป็นรายได้เสริมเพิ่มเติมจากรายได้ปกติ โดยปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการก่อสร้างประมาณ 70 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท แต่ทั้งหมดแล้วธุรกิจหลักของบริษัทยังอยู่ที่เสาเข็ม คิดเป็น 70% ของรายได้รวม เพียงแต่งานรับเหมาก่อสร้างบ้านมูลค่าเมื่อเทียบกับธุรกิจเสาเข็มแล้วจะสูงกว่า จึงดูเหมือนว่าอัตราเปอร์เซ็นต์ลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วเท่าเดิม โดยในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมียอดขายประมาณ 900 ล้านบาทเฉพาะวัสดุก่อสร้าง ซึ่งไม่ร่วมงานรับเหมาก่อสร้าง

นายวิชญากล่าวว่าบริษัทพร้อมที่จะเข้าไปเพิ่มตลาดรับเหมาก่อสร้างบ้านให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ในขณะนี้เมื่อพิจารณาทุนและกำลังของพนักงานและแรงงานแล้ว ทางGEN สามารถรับเหมาก่อสร้างบ้านได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 3-4 โครงการ แต่ถ้ามากกว่านี้คงจะเกินกำลังของบริษัท

นายเมธากล่าวเสริมว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมกับGEN ให้เป็นผู้ก่อสร้างโครงการทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ พลัส ซิตี้พาร์ค 2 โครงการ รวมมูลค่า 270 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลที่เลือกGEN เนื่องจากนโยบายของพลัสฯต้องการควบคุมคุณภาพวัสดุก่อสร้าง การมีดีไซน์ที่ดี และทางพันธมิตรก็มีศักยภาพในการก่อสร้างบ้านให้แก่พลัสฯ ประกอบกับทางผู้บริหารของGEN มีความสัมพันธ์กันดีกับผู้บริหารของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และพลัสฯ

" ความร่วมทางพันธมิตรครั้งนี้ ส่วนหนึ่งป้องกันเรื่องผู้รับเหมาก่อสร้างขาดแคลน เพราะตามแผนที่รัฐบาลประกาศโครงการเมกะโปรเจกต์จะเริ่มมีการลงทุนในปีนี้ และความเป็นพันธมิตรในเชิงความสัมพันธ์แล้วยังแนบแน่นมากกว่าการเป็นแค่ซัปพลายเออร์ "นายเมธากล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.