2บิ๊กแบงก์เมินออกไฮบริดบอนด์เผยเม็ดเงินกองทุนชั้นที่1สูงพอ


ผู้จัดการรายวัน(20 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

2 ผู้บริหารแบงก์ใหญ่ เผยยังไม่มีความจำเป็นที่จะออกไฮบริด บอนด์ กสิกรไทยชี้แจงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแต่ออกแล้วจะเอาเงินที่ได้ไปทำอะไร ระบุยังไม่เคยมีการพูดคุยระหว่างผู้บริหารและบอร์ดแบงก์ ขณะที่แบงก์ไทยพาณิชย์โชว์ตัวเลขเงินกองทุนชั้นที่ 1 สูงถึง 11% สามารถขยายสินเชื่อได้หลายแสนล้านจึงไม่จำเป็นต้องเร่งออก

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK เปิดเผยว่า การออกตราสารหนี้กึ่งทุน หรือ ไฮบริด บอนด์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 แต่หากธนาคารจะออกไฮบริด บอนด์ จะต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า เงินที่ได้จากการออกไฮบริด บอนด์ จะนำไปทำผลประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นอย่างไรได้บ้าง

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยไฮบริด บอนด์ในตลาดต่างประเทศอยู่ที่ระดับ 6-7 % และหากพิจารณาถึงเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ 10% ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วกับสภาพในปัจจุบัน และเรื่องการออกไฮบริด บอนด์นั้น ก็ยังไม่เคยมีการคุยกันระหว่างคณะกรรมการของธนาคารและผู้บริหารของธนาคารด้วย

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)SCB กล่าวว่า ในขณะนี้ธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะออกไฮบริด บอนด์ เพราะมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ถึง 11% หากรวมกับเงินกองทุนชั้นที่ 2 แล้วจะทำให้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึง 15% เพราะฉะนั้นธนาคารจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกไฮบริด บอนด์ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนด้วย เนื่องจากเงินทุนที่มีอยู่ก็สามารถขยายสินเชื่อได้หลายแสนล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ สายนโยบายสถาบันการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.ได้ออกประกาศถึงธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างชาติ ในการกำหนดการดำรงเงินกองทุน โดยได้ยกเลิกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศดำรงเงินกองทุน และได้เพิ่มเติมประเภทตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ไม่สะสมดอกเบี้ยจ่ายและไม่ชำระดอกเบี้ยในปีที่ไม่มีผลกำไรให้สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเพิ่มเติมประเภทน้ำหนักความเสี่ยงเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ให้สินเชื่อแก่ประชาชนรายย่อยและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ทั้งนี้ การที่ ธปท. ปรับปรุงประกาศดังกล่าวเนื่องจากต้องการเพิ่มช่องทางในการระดมเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสากลโดยอนุญาตให้มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในรูปตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ไม่สะสมดอกเบี้ยจ่าย และไม่ชำระดอกเบี้ยในปีที่ไม่มีผลกำไร (Hybrid Tier 1) ได้ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอยู่หลายประการ โดยต้องรองรับผลการขาดทุนของธนาคารพาณิชย์ได้ในระหว่างการดำเนินการทำนองที่ใกล้เคียงกับหุ้นสามัญ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกรุงไทย โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า ธนาคารกรุงไทยสนใจจะออกตราสารหนี้กึ่งทุนหรือไฮบริด บอนด์ คาดว่าวงเงินจะอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในไตรมาสแรกแต่หลังจากที่ธนาคารทหารไทยออกไปแล้ว ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะสรุปคัดเลือกที่ปรึกษา ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาที่ให้ข้อเสนอดีที่สุดและภายหลังจากที่ธนาคารออกไฮบริด บอนด์ มูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐจะทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคารเพิ่มอีก 1% มาอยู่ที่ประมาณ 9.4% จากสิ้นปี 2548ที่อยู่ที่ 8.4%

สำหรับสาเหตุที่ธนาคารจะต้องเร่งออกไฮบริด บอนด์ นายอภิศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของไฮบริด บอนด์ ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหากในอนาคตธนาคารหลายแห่งสนใจที่จะออกไฮบริด บอนด์ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น ธนาคารจึงต้องเร่งออกไฮบริดบอนด์ เพื่อประหยัดต้นทุนอัตราดอกเบี้ย โดยการออกไฮบริด บอนด์ จะต้องออกในตลาดต่างประเทศเพราะตลาดต่างประเทศให้ความนิยม แต่ขณะที่ในประเทศไทยยังไม่มีตลาด ซึ่งธนาคารยอมรับว่าการออกไฮบริด บอนด์ไม่ได้ทำให้ต้นทุนในการระดมทุนทั้งหมดของธนาคารลดลงมาก แต่จะส่งผลดีต่อความสามารถในการหารายได้ของธนาคารที่จะดีขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.