ยูนิค ไมนิ่งฯตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต30%พร้อมปรับแผนรุกลูกค้ารายกลาง-เล็ก


ผู้จัดการรายวัน(20 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โตอีก 30% รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องปรับตัวหันมาใช้ถ่านหินมากขึ้น พร้อมปรับแผนรุกลูกค้ารายกลางและรายเล็ก เหตุมีมาร์จินสูงกว่า

นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการบริหาร บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS กล่าวว่า ในปี 2549 นี้ บริษัทตั้งเป้าขยายยอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่ผ่านมาอีก 30% โดยผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายของปี 2548 พบว่าใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 865.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 668.31 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มจาก 91.81 ล้านบาท เป็น 131.41 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2548

"ในไตรมาสสุดท้ายของปี 48 UMS มั่นใจยอดขายน่าจะสูงกว่าทุกไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาถ่านหินจะอยู่ที่ประมาณ 2,200-2,500 บาทต่อตัน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นมาจากปีที่ผ่านมาเกือบ 10% จากผลกระทบค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ยิ่งส่งผลดีต่อ UMS เพราะผู้ประกอบการที่เคยใช้น้ำมันเพื่อใช้ในโรง งานการผลิตสินค้า เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการระดับกลางและเล็กหันมาใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น"

สำหรับสาเหตุที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2549 เพิ่มขึ้นอีก 30% นั้น สืบเนื่องจากบริษัทจะได้รับผลดีจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2547 ทำให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตต่างปรับกลยุทธ์รับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเปลี่ยนเตาบอยล์เลอร์เพื่อใช้ถ่านหินเป็นเพลิง ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่หันมาเปลี่ยนเตาบอยล์เลอร์ใหม่หมด แต่เป็นการทยอยเปลี่ยนที่เริ่มตั้งแต่ปี 48 แล้ว

"บอกได้ยากว่าลูกค้าแต่ละรายจะปรับเปลี่ยนได้นานแค่ไหน เพราะแต่ละบริษัทที่เราทราบต่างก็เปลี่ยนเตาใหม่กันหมด เพื่อหันมาใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน แต่เราตอบได้ยากว่าแต่ละรายจะใช้เวลานานเพียงใดในการปรับเปลี่ยน แต่คงทยอยตลอดทั้งปี" นายชัยวัฒน์ กล่าวและว่า จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้บริหาร UMS มั่นใจว่า จะส่งผลดีที่บริษัทจะได้รับ ขณะเดียวกันลิกไนต์ซึ่งเป็นถ่านหินชนิดหนึ่งพบว่าที่มีอยู่ในประเทศก็กำลังจะหมดลงแล้ว ถ่านหินจึงเป็นทางเลือกใหม่แทนการใช้น้ำมันและลิกไนต์

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้ UMS ต้องหาลูกค้าเพิ่ม เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น นอกจากลูกค้าเดิมที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ UMS ไม่ได้เน้นลูกค้าระดับบนเนื่องจากมีการแข่งขันสูงและอำนาจต่อรองมาก ขณะที่การสร้างกำไรต่อหน่วยมีเพียง 5-7% ขณะที่ลูกค้ากลางและล่างกลับมีกำไรต่อหน่วยเกินกว่า 10% โดยมาร์จิ้นการจำหน่ายถ่านหินของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 25-30%

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจะมุ่งขยายฐานสู่ลูกค้าระดับกลางและเล็กเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำไรในระดับที่ดี ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มนั้น จากปี 2548 ที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้ากลุ่มนี้แล้วกว่า 100 ราย และปีนี้ตั้งเป้าได้ลูกค้าใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ราย

"ปีนี้เราจะมีลูกค้าขนาดกลางถึงกลางไปหาใหญ่เข้ามาประมาณ 20 ราย แม้จะน้อยราย แต่ขนาดความต้องการใช้ถ่านหินจะสูงกว่า ซึ่งรายเล็กใช้ถ่านหินเดือนละ 500 ตันต่อเดือน ขณะที่ลูกค้าขนาดกลางใช้ที่ 500-2 พันตันต่อเดือน ซึ่งไซด์จะใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เท่ากับว่าปีนี้เราจะมีลูกค้า 120 รายแล้ว โดยปกติเราหาลูกค้าใหม่ได้เพิ่มปีละมากกว่า 30 ราย" นายชัยวัฒน์กล่าว

นอกจากการจำหน่ายในประเทศแล้ว UMS ยังมีสัญญาซื้อขายถ่านหินที่สำคัญกับผู้ผลิตถ่านหินที่สำคัญกับผู้ผลิตถ่านหินในต่างประเทศ โดยมีข้อตกลงที่จะซื้อถ่านหินในระหว่างปี 47 ถึงปี 49 ในปริมาณปีละ 528,000 - 776,000 เมตริกตัน ปริมาณและราคาที่ซื้อขายที่กำหนดแน่นอนแล้วในปี 2548 มีจำนวน 776,000 เมตริกตัน บวกลบ 10% ราคาของถ่านหินที่กำหนดแล้วจะสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของถ่านหินจะต้องกำหนดราคาใหม่

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 ปี 48 บริษัทได้ทำสัญญาจ้างงานกับบริษัทในประเทศจำนวนสองแห่งบริษัทมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างเหมาถมที่ดินและสัญญาจ้างงานออกแบบรายละเอียดบริหาร โครงการและการควบคุมการก่อสร้างโครงการก่อสร้างคลังสินค้าและท่าเทียบเรือรวมเป็นจำนวนเงิน 16.01 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นล่าสุด (17 ก.พ.) ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า โดยมีราคาต่ำสุดที่ 15.50 บาท ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำราคาสูงสุดและปิดที่ 15.80 บาท สูงกว่าราคาปิดครั้งก่อน 0.20 บาท หรือ 1.28% ประมาณการซื้อขายรวม 156,700 หุ้น คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวม 2.46 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.