|
กันยงฯกู้เงินจากMTCกว่า42ล้านผลงานปี48กำไรสุทธิพุ่งกว่า108%
ผู้จัดการรายวัน(15 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
KYE โชว์ผลงานงวดสิ้นปี48 กำไรทะยาน 108 % เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ขณะที่บอร์ดอนุมัติให้ทำรายการกู้ยืมเงินระยะสั้นและเงินให้กู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันรวมเท่ากับ 42,687,671 บาทจาก MTC เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ลดต้นทุนทางการเงิน และบริหารกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายซาโตชิ มัทซึดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) ( KYE ) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 48 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 48 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 3.77 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 47.04 ล้านบาท ส่งผลให้จากเดิมที่ขาดทุนต่อหุ้น 2.14 บาท เป็นมีกำไรต่อหุ้น 17สตางค์ หรือมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเพิ่มขึ้นคิดเป็น 108%
เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 95 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 8 ส่วนใหญ่เกิดจากยอดขายตู้เย็นเพิ่มขึ้น90 ล้านบาทคิดเป็น 15% และต้นทุนขายมีอัตราส่วน 91% ซึ่งเทียบเท่ากับปี 2547 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 49.6 ล้านบาทคิดเป็น 26% ผลจากค่าใช้จ่ายในการส่งออกและค่าบริการหลังการขายลดลง 11 ล้านบาทคิดเป็น 41 % ประกอบกับในไตรมาสนี้บริษัทฯไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลง 30 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ KYE ยังแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่4/2548 เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 ว่าที่ประชุมได้อนุมัติการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยเป็นรายการเกี่ยวกับเงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินให้กู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
ด้วยคณะกรรมการบริหารบริษัทฯ มีนโยบายที่จะลดต้นทุนทางการเงินโดยเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท เมลโค ไทย แคปปิตอล จำกัด ( MTC) ซึ่งเป็นธุรกิจบริการให้กู้ยืมเงินและทำธุรกิจบริการดูแลช่วยเหลือสนับสนุนทางด้านระบบการจัดการทางการเงินให้แก่บริษัทในเครือ
โดยรายการดังกล่าวเป็นการกู้ยืมเงินระหว่าง 1 เมษายน 2549 ถึง 31 มีนาคม 2550 ซึ่งบริษัท เมลโค ไทย แคปปิตอล จำกัด เป็นผู้ปล่อยเงินกู้ให้กับ KYE จำนวนเงินกู้มีมูลค่ารวม 100 ล้านบาท โดยจัดทำเป็นหนังสือสัญญาเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย 3.5% - 4.5% ต่อปี จำนวนเงินให้กู้มีมูลค่ารวม 40 ล้านบาท เป็นลักษณะเงินฝากไว้ที่MTC อัตราดอกเบี้ย 3.0% - 4.0% ต่อปี และการกู้เงินเป็นเดือนต่อเดือนและทบทวนสัญญาเป็นรายปี โดยบริษัทฯ จะทบทวนเงื่อนไขการกู้ยืมทุกปีและเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ
การกู้ยืมเงินโดยวิธีดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องในการบริหารกระแสเงินสดอีกทั้งอัตราดอกเบี้ยดีกว่าธนาคารพาณิชย์ โดยอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2548 และ MTC กำหนดอันตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม 3.85% และคิดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 3.55% ขณะที่ธนาคารพานิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 4.05% และคิดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.50%
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจาก KYE และ MTC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกัน ดังนี้บริษัท มิตซูบิชิ อีเลคทริก คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นใน KYE 8 ,908,020 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.49 และ บริษัท มิตซูบิชิ อีเลคทริก คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นใน MTC 192,994 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.99
ขณะที่ ความเห็นคณะกรรมการตรวจสอบเห็นชอบให้ KYE เข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันตามรายละเอียดข้างต้น เนื่องจากการทำรายการดังกล่าวเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของกระแสเงินสดและลดต้นทุนทางการเงิน โดยรายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลในเรื่องเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งต่ำกว่าธนาคารและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าธนาคาร ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทโดยบริหารกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้น การเข้าทำรายการดังกล่าวจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ
ลักษณะของรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับนิติบุคคลที่เกี่ยวโยงระหว่าง MTC กับ KYE คือเงินกู้ 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.5% -4.5% ต่อปีคิดเป็นดอกเบี้ยจ่าย 1,109,589 บาท และเงินให้กู้ 40 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.0% - 4.0% ต่อปีซึ่งจำนวนเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยรับจะเท่ากับ 41,578,082 บาท ดังนั้น มูลค่ารวมของเงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินให้กู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันรวมเท่ากับ 42,687,671 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|