|
เอกชนหวั่นการเมืองเลื่อนขายไอพีโอ
ผู้จัดการรายวัน(15 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"ชลบุรีกันยง" ประกาศไม่เข้าตลาดหุ้นปีนี้ เหตุภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อ แถมไม่มีสิทธิประโยชน์ภาษี ด้านบล.กิมเอ็ง ที่ปรึกษาฯ "รถไฟฟ้ากรุงเทพ" เผยยังประเมินสถานการณ์การเมืองไม่ได้ เปรยอาจเข้าไม่ทันไตรมาส1 ขณะที่ "สหไทยสตีลไพพ์" อาจเลื่อนไประดมทุนในไตรมาส 3 จากแผนเดิมจะเข้าจดทะเบียนในไตรมาสแรกนี้ ส่วน 9 บริษัทที่ได้รับการอนุมัติให้กระจายหุ้นจากก.ล.ต.แล้ว ยังรีรอ ไม่กำหนดเวลาขาย
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ยังคงปกคลุมไปด้วยปัจจัยลบทางด้านการเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย นอกจากจะส่งให้ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวลดลงแล้ว ยังส่งผลต่อเนื่องถึงบริษัทที่เตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จนที่ปรึกษาทางการเงินและผู้บริหารหลายบริษัทออกมาประกาศชะลอการเข้าจดทะเบียนทั้งแบบมีกำหนดช่วงเวลาและแบบที่เลื่อนการจดทะเบียนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน)หรือ CCP เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการนำบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทได้ปรับแผนการนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะมีนำเข้าในปีนี้ จากแผนเดิมที่คาดว่าจะเข้าภายในปีนี้ เนื่องจาก บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงิน ภาวะตลาดไม่ค่อยดี และสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สิ้นสุดแล้ว
"ในปีนี้คงจะไม่เห็น “ชลบุรีกันยง” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแน่นอน เนื่องจาก บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุน และจากภาวะตลาดโดยรวมไม่ดีและหุ้นใหม่ที่เข้ามาก็ต่ำกว่าราคาจองทั้งที่ผลประกอบการออกมาดี รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีก็สิ้นสุดแล้ว จึงเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"นายชาคริต กล่าวว่า
บริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยประกอบธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่งบ้าน ใต้ชื่อร้าน “กันยงโฮมสโตร์” ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 250 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการเปิดร้าน “กันยงโฮมสโตร์” แล้ว จำนวน 2 สาขา คือ สาขาชลบุรี และชลบุรีกันยง โดยสาขาชลบุรี มีรายได้ประมาณ 7-8 แสนบาทต่อวัน และอยู่ระหว่างการเพิ่มเติมพื้นที่อีก 4 ,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อวันเพิ่มเป็น 1 ล้านบาท และสาขาพัทยา ซึ่งมีรายได้ประมาณ 1.2 ล้านบาท ต่อวัน โดยคาดว่าชลบุรีกันยง จะสร้างรายได้ให้กับบริษัท CCP ปีนี้ ประมาณ 600 ล้านบาท
ส่วนการเปิดสาขาที่คลองหลวงที่อยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างนั้น คาดว่าจะยังไม่สามารถเปิดบริการได้ในปีนี้ เพราะ ยังไม่เร่งให้เปิดบริการ จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตปริมณฑล และกรุงเทพฯมีการชะลอตัวซึ่งจะมีผลต่อร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่งน่าจะมีการชะลอตัว ประกอบกับบริษัทได้นำเงินลงทุน 200 ล้านบาทไปซื้อหุ้น บริษัท ออโตเครป แอเรทเต็ด คอนกรีต โปรดัก จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตอิฐมวลเบา อีก 45% จากเดิมที่ถือหุ้นเพียง 30%
สำหรับกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตอิฐมวลเบา ขณะนี้เพิ่งเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เพียง 40% และคาดว่าในไตรมาส2/49 จะสามารถผลิตได้ 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด หากกำลังการผลิตของอิฐมวลเบา อยู่ที่ 80% จะสร้างรายได้ 270-300 ล้านบาทต่อปี
**BMCLยังไร้วี่แววเข้าSET
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) หรือ KEST ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการนำหุ้นบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BMCL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีที่ท่าว่าจะหาข้อยุติได้โดยเร็ว ทำให้บริษัทต้องเลื่อนการนำบมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะสามารถเข้าจดทะเบียนทันในไตรมาส1/49 หรือไม่ยังเป็นเรื่องที่ประเมินยาก
ทั้งนี้ แม้ว่าหุ้นบมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพจะเป็นหุ้นที่ดี แต่การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องรอจังหวะและช่วงเวลาที่ดีประกอบด้วย เนื่องจากปัจจัยลบจะส่งผลต่ออารมณ์ในการลงทุนค่อนข้างชัดเจน ซึ่งหากบริษัทจะเสนอขายหุ้นในช่วงนี้นักลงทุนอาจจะไม่สบายใจที่จะเข้าลงทุน
"เรายังประเมินไม่ได้ว่าจะสามารถเอาหุ้นเข้าจดทะเบียนได้เมื่อไหร่ เพราะสถานการณ์การเมืองยังไม่ชัดเจนว่าจะจบอย่างไร เราคงต้องรอให้ถูกอย่างคลี่คลายไปก่อน"นายมนตรีกล่าว
**สหไทยฯเลื่อนระดมทุนQ3/49
นายทวีศักดิ์ ครุจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหไทยสตีลไพพ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กเปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเลื่อนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯไปในไตรมาส3/49 จากเดิมที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในไตรมาส1 /49 เนื่องจากภาวะตลาดไม่ค่อยดีซึ่งมีผลทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเข้ามาลงทุน และส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าราคาจอง
ทั้งนี้ บริษัทจะต้องมีการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด อีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์เนื่องจากขณะนี้ตลาดหุ้นมีความอ่อนไหวมากแต่บริษัทยังมั่นใจพื้นฐานของบริษัทที่ยังเติบโตโดยมั่นใจว่าในปี 2548 ปิดงวดนั้นบริษัทยังมีความสามารถในการทำกำไรได้ แม้บริษัทจะได้ผลกระทบจากราคาขายวัตถุดิบที่ปรับลดลงแต่ก็ไม่มาก จากปี2547ที่มีกำไร 460 ล้านบาทจากราคาเหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้น
**9บริษัทจ่อเข้าตลาดหุ้น
ขณะนี้บริษัทที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สามารถกระจายหุ้นได้ มีจำนวน 9 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ควอลิตี้ มิเนอรัล จำกัด (มหาชน) ,บริษัท เดวา พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท รอยัล สปอร์ซเลน จำกัด (มหาชน) บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย ) บริษัท มนตรีทรานสปอร์ต คอร์ปอเรชั่น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|