|
CWTเบนผลิตหนังให้รถขนาดเล็ก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้กว่า1,200ล้านบาท
ผู้จัดการรายวัน(14 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
CWT ปรับแผนสู่การผลิตเบาะและพวงมาลัยหนังสำหรับรถขนาดเล็กมากขึ้น หลังราคาน้ำมันพุ่ง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ออกสู่ตลาด แม้มาร์จิ้นต่ำกว่าการผลิตให้กับรถยนต์รุ่นใหญ่ แต่ภาวะตลาดรถเล็กบูม จะทำให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1,200 ล้านบาท
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,200 ล้านบาท แต่กำไรประเมินได้ยากว่าจะแปรผันไปตามยอดขายหรือไม่ เพราะปี 48 ที่ผ่านมานั้น บริษัทได้รับกระทบจากปัจัยราคาน้ำมันทะยานต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่และหรูหันมาเน้นที่การผลิตรถยนต์ขนาดเล็กออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ CWT ต้องปรับแผนการผลิตเบาะหนังและพวงมาลัยหนังสำหรับรถขนาดเล็กมากขึ้นเช่นกัน
ดังนั้น ผลงานไตรมาสสุดท้ายของปี 48 ที่กำลังจะประกาศออกมานั้นสูงกว่าผลงานไตรมาส 3 ปีเดียวกัน แต่ไม่มากนัก เนื่องจากภาพรวมแล้วก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ภาพรวมของการดำเนินงานของปี 48 ผิดไปจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ชะลอการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เหมือน ต่างจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
"เราต้องเข้าหารถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น เพราะรถหรูขนาดใหญ่เริ่มแย่ เนื่องจากน้ำมันราคาแพง เราจึงหันไปรถเล็กมากขึ้น เราต้องปรับแผนตามภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปด้วยในปัจจุบัน รถกระบะถือว่ากำลังไปได้ดี แต่ก็เจอปัญหาราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น " นายวีระพลกล่าว
การปรับแผนดังกล่าวส่งผลต่อมาร์จิ้น (กำไรขั้นต้น ) ของบริษัทบ้าง เพราะมาร์จิ้นจากการผลิตเบาะและพวงมาลัยหนังสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กแม้จะน้อยกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นตลาดใหม่ที่จะเจาะเข้าไปทำได้มากขึ้น เพราะในปัจจุบันการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กจะได้รับความนิยมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ปริมาณการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ การปรับแผนการผลิตดังกล่าว ยังช่วยให้ CWT ลดทุนการได้ด้วย
นายวีระพลกล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและนำมันแพง ส่งผลให้การดำเนินงานใตไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ขาดทุน ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไร โดยเฉพาะไตรมาส 2 ขาดทุนถึงกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 ขาดทุนลดลง เนื่องจากรายได้จากการขายลดลง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หนังเบาะรถยนต์เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นของตลาดรถยนต์ ขณะที่ต้นทุนคงที่กลับเพิ่มขึ้น และยังต้องรับรู้ผลขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ CWT จะหันมาผลิตสินค้ามาร์จิ้นจะต่ำลง แต่ตลาดก็กว้างขึ้นและต้องหาตลาดรถยนต์ขนาดเล็กเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นด้วย แม้ว่าลูกค้าที่สั่งซื้อพวงมาลัยหนังกับรถเกือบทุกรุ่น แต่การผลิตเบาะหนังยังไม่คลุมทั้งหมด ซึ่งตลาดนี้เป็นเป้าหมายหลักที่บริษัทจะบุกเข้าไปทำตลาดในส่วนนี้บ้าง
สำหรับการร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อผลิตสินค้าต่อเนื่องกับการผลิตเบาะหนังและแคปซูลนั้น CWT ยังมีอยู่ในแผนงาน ในครึ่งปีแรกนี้ขอทำตลาดใหม่เพื่อทำเงินก่อน ส่วนการร่วมทุนกับพันธมิตรน่าจะเห็นผลในครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจุบันโรงงานของ CWT ยังผลิตเพียง 70-75% เท่านั้น ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตคงต้องรออีกระยะหนึ่ง
"การร่วมทุนกับพันธมิตรก็ต้องรออีกระยะหนึ่ง เพราะเราไม่เร่ง และหากพันธมิตรจะเข้ามา เขาต้องย้ายเข้ามาทั้งโรงงานเลยและหากเขาย้ายฐานการผลิตเข้ามาในนี้จริง เราก็ต้องรองรับซึ่งปกติเราก็ผลิตให้เขาประมาณปีละ 100 ล้านบาท เขาเป็นลูกค้าของเราอยู่ เชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะคุยกันได้มากขึ้น " นายวีระพลกล่าว
ทั้งนี้ เป็นผลจากเมื่อเดิมลูกค้าที่ทำธุรกิจร่วมกันอยู่ แต่เนื่องจากวัตถุดิบที่เป็นหนังนั้น พันธมิตรรายดังกล่าวต้องสั่งซื้อหนังจากไทยเสมอ ทำให้มีภาระต้นทุนเพิ่ม ประกอบกับที่ญี่ปุ่นมีการลดมลภาวะ ทำให้ผู้ประกอบการผลิตแคปซูลหาทางออกด้วยการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ และเป็นผลดีที่ CWT ก็มีลูกค้าที่คุ้นเคยกันทำธุรกิจนี้อยู่บ้าง ดังนั้นการที่จะทำธุรกิจต่อเนื่องจากเดิมก็น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า หลังจากที่คุยกันมาเป็นระยะ
โดยการหาเงินทุนเพื่อรองรับการขยายงานนั้น ในระยะนี้บริษัทยังไม่จำเป็นต้องการใช้เงินเพื่อขยายงาน หลังจากที่เมื่อปีก่อน CWT ได้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์ ) ให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 13,500,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 11 บาท และบริษัทได้รับเงินทั้งสิ้น 148.50 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว บริษัทได้นำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน
สำหรับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นนั้น คงต้องประชุมบอร์ดก่อน โดยปี 47 บริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 80 สตางค์ และปี48 บริษัทยังประเมินไม่ได้ว่าจะจ่ายปันผลได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|