SOLARตั้งเป้าโต10-30%พร้อมรุกงานROOF TOP


ผู้จัดการรายวัน(14 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

โซลาร์ตรอน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-30% จากการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์โฮมเฟสแรกที่เหลือและเฟส 2 ที่จะหมดลงในปีนี้ เผยปีนี้รุกงานติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (ROOF TOP) บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ เล็งเข้าประมูลการผลิตไฟฟ้า RPS 5% ของ กฟผ.ควบคู่กับการให้ความรู้และรณรงค์เผยแพร่เพื่อให้เห็นความสำคัญของการใช้พลังงานทดแทนในทุกด้าน

นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR เปิดเผยว่า ปี 2548 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโซลาร์โฮมเฟส 2 ที่จะรับรู้ได้ทั้งหมดในปีนี้ ตามนโยบายของรัฐ ซึ่งบริษัทได้ติดตั้งอุปกรณ์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้กับชาวบ้านที่ห่างไกลและยากต่อการเข้าไปเดินเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเฟส 2 มีถึง 5 หมื่นครัวเรือน รวมกับเฟสแรกมีทั้งสิ้น 23,000 ครัวเรือน วงเงิน 5 พันล้านบาท

สำหรับโครงการโซลาร์โฮมเฟสแรกทยอยรับรู้รายได้มาแล้ว 85% และจะรับรู้รายได้ที่เหลือภายในปีนี้ ขณะที่โครงการเฟส 2 นั้นเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว 25% ซึ่งจากการติดตั้งให้ประชาชนพื้นที่ห่างไกลโดยเฉพาะชาวเขาที่อยู่ในพื้นที่สูงยากต่อการเดินสายไฟ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องทำงานร่วมกับ SOLAR เพื่อแก้ปัญหาและทำให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนตามเป้าหมาย และพบว่ามีปัญหาในการใช้โซลาร์โฮมน้อยมากเพียง 1% เท่านั้น

“ นอกจากพื้นที่ตามต่างจังหวัดที่ห่างไกลเสาไฟฟ้าที่เราได้การสัมปทานจากการไฟฟ้าฯ และให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาดูแลเรื่องนี้ แต่จบปีนี้แล้ว เราต้องเข้าหาลูกค้าที่อยู่ในเขตเมืองภาคกลางที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เราต้องหาลูกค้าเพิ่มเพื่อรองรับกับโครงการที่จะหมดลง ” นางวสาววันดีกล่าว

นางสาววันดีกล่าวเพิ่มว่า นอกจากการหาลูกค้าเพื่อใช้โซลาร์โฮมแล้ว ยังต้องหาลูกค้าในส่วนต่าง ๆ เพิ่ม โดย SOLAR เตรียมนำเสนอโครงการเกษตรกรรมน้ำน้อย โครงการพลังแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารเชื่อมต่อระบบจำหน่าย ( SOLAR POWER PLANT หรือ SOLAR FARM ) รวมทั้งโครงการ ROOF TOP บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด และโครงการพลังแสงอาทิตย์ตามโครงการต่าง ๆ ที่ SOLAR อยู่ในระหว่างศึกษา

โดยปัจจุบัน SOLAR อยู่ในระหว่างเผยแพร่ความรู้เพื่อให้หลายหน่วยงานตลอดจนประชาชนเข้าใจถึงการประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะโครงการเกษตรน้ำน้อย ซึ่งขณะนี้ SOLAR ได้ติดตั้งเครื่องให้กับเกษตรการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อทำการเกษตรด้วยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยในการดึงน้ำเข้าสู่ระบบสายส่งพาดผ่านกล้าไม้ที่ปลูกและน้ำจะหยดเป็นระยะห่างกันต้นละ 1 ฟุต ซึ่งพบว่าประสบผลสำเร็จมาก เนื่องจากประหยัดน้ำมันที่ใช้ในการวิดน้ำเข้าสู่แปลงผักของเกษตรกร

“เราจะติดตั้งที่อุดรธานีและนครราชสีมาเพิ่มอีก เพราะเกษตรปลูกพืชสวนครัวกันมาก และทำการเกษตรเยอะ เราต้องเข้าไปติดตั้งให้ฟรี เพื่อให้เป็นที่รู้จักของชาวบ้าน และเมื่อเขาเข้าใจก็น่าจะสนใจที่จะหันมาใช้ประโยชน์จากพลังแสงอาทิตย์เพิ่ม ” นางสาววันดีกล่าว

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ อยู่ในระหว่างเจรจากับทางกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอรายละเอียดและข้อมูลและประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะหากเอกชนนำมาใช้ จะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน นอกจากนี้ SOLAR ยังจะหันมาทำการปลูกพืชด้วยการใช้น้ำเพียงอย่างเดียว คือการปลูกพืชแบบไฮโปรเทอร์มิส โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกพืชดังกล่าวด้วย

นางสาววันดีกล่าวว่า ขณะนี้ SOLAR รอมาตรการการสร้างโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งต้องมีส่วนที่ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทน(RPS) 5% ของการผลิตไฟฟ้าแต่ละแห่ง ซึ่งหากมาตรการนี้บังคับใช้ SOLAR จะได้ผลดีในส่วน RPS 5% ของพลังงานทดแทนนั้น โดย SOLAR รอเข้าประมูลกับ กฟผ. ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังหมดโครงการโซลาร์โฮมแล้ว SOLAR จะบุกโครงการ ROOF TOP บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด มูลค่าแห่งละ 5 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตส่วนอื่นเพิ่ม เช่น หลังคาบ้าน หรือหลังคาอาคารของบริษัทเอกชนต่าง ๆ ซึ่ง SOLAR ก็ต้องเข้าหาลูกค้าและให้ความรู้มากขึ้นด้วยเพื่อให้แต่ละฝ่ายเห็นความสำคัญในการหันมาใช้พลังงานทดแทนแทนการใช้น้ำมัน

สำหรับปีนี้ SOLAR ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ประมาณ 10-30% จากปี 48 ขณะที่ผลงานทั้งปีของปี 48 ผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้ได้สูงกว่าปี 47 ตามเป้าหมาย ซึ่งรายได้รวมของปี 47 SOLAR ทำได้ 1,063 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 135.52 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 48 นั้นมีรายได้รวม 1,151.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 133.82 ล้านบาท ดังนั้นจากผลงานที่ผ่านมาแต่ละไตรมาสของปีที่แล้วเกินกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าไตรมาสสุดท้ายปี 48 ที่กำลังจะประกาศออกมานั้นก็น่าจะทำได้ไม่ต่างจากทุกไตรมาส เมื่อรวมกับทุกไตรมาสคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1,450 ล้านบาทสำหรับผลงานงวดปี48

โดยปี 49 SOLAR นอกจากโซลาร์โฮมที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จและส่งมอบในปีนี้แล้ว ตามนโยบายรัฐ และเชื่อว่าโครงการนี้จะมีเข้ามาเพิ่มอีก เพราะยังมีพื้นที่อีกหลายแห่งที่ต้องการไฟฟ้าเพิ่มเติมจากการขยายครัวเรือนมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะหันไปเน้นการบุกตลาดของ ROOF TOP นอกเหนือจากที่ได้เพียงการติดตั้งบนศาลากลางทุกจังหวัดทั่วประเทศ

“เชื่อว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รัฐต้องหาวิถีทางเพื่อให้คนหันมาใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น บ้านเราเมืองร้อนแดดก็แรงทั้งปี การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่เราสามารถทำได้ แต่เราต้องรณรงค์ให้ทุกฝ่ายหันมาใช้พลังงานทดแทนเหมือนในต่างประเทศที่เขาหันมาให้ความสำคัญแล้ว ” นางสาววันดีกล่าว

จากเป้าหมายบุกตลาดหลังโครงการโซลาร์โฮมที่จะหมดลงในปีนี้ ส่งผลให้ แผนการสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์จึงเป็นเป้าหมายสำคัญหนึ่งในปีนี้ เพราะบริษัทได้กู้เงินจากธนาคารไทยพานิชย์ การใช้เงินจากการขายหุ้น IPOและเงินที่จะได้จากการออกวอร์แรนต์อีก รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1,100 ล้านบาท ที่จะนำไปใช้สร้างโรงงานดังกล่าว เพื่อทดแทนการนำเข้าและลดต้นทุนการดำเนินงานได้กว่า 20% ซึ่งโรงงานนี้จะเป็นโรงงานผลิตแบบต้นน้ำ (Up stream)รายแรกและรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ทำให้บริษัทฯ ลดต้นทุนในการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ลงถึง 20% และช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้แก่บริษัทฯทั้งในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศตามสภาวะการณ์การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.